- กระทู้ ผู้เขียน
- #1
สืบเนื่องจากตาบิ๊ก โทรมาชวนไปนั่งกินเหล้า ริมหาดบางแสนคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา มีไอ่นิว น้าบอย ไอ่เมย์ โอ๋ออเรนทอล แล้วน้องจากศรีราชามาติดปัดหลัง เซฟประมาณ 3-4 คันริมหาด นอกนั้นนอกคอก อ้อลืมรถไก่ย่างของน้าปุ้มอีกคัน 5 5 5 5
ตกซักประมาณห้าทุ่มเที่ยงคืน น้อง จ.ของ b.boy ง้องแง้ง (ท่อนนี้เอามาจากตาบิ๊กนะ) เลยกลับกันก่อน เหลือผมคันเดียวริมหาด....นั่งชิวๆ 3 คนไปถึงเพลาประมาณตีสามกว่าๆ ถึงจะกลับ ระหว่างถอยจากหาด เห็นรถอัดกันมา 2 คันเลยหยุดให้ไปก่อน เป็นรถสตราด้า โฟล์วิล แข่งกันมากะมิตซูอัลติม่า มุ่งหน้าอ่างศิลา แล้วกรูก้อเลยขับตามไป กุ้กๆๆๆๆ...สุดทางอัลติม่า เลี้ยวขวาเข้าบางกะโล สตราด้าเลือกเส้นเลี่ยงลานแหลมแท่น ซึ่งเป็นทางเดียวกันกะที่จะกลับกรุงเทพ สตราด้าเจอทางโค้งตัว S เลยชลอรถ เลยขับทันวิ่งตามตูดไปเรื่อยๆ พอหมดโค้ง สตราด้าอัดต่อ ค่อยๆทิ้งห่างไปเรื่อยๆ
เวลาตีสามกว่าๆนี่เงียบสงัด ไม่มีสิ่งมีชิวิตอยู่ในสายตานอกจากรถสตราด้าคันหน้า สัญญาณไฟจราจร เปิดกระพริบให้รู้ว่าเป็นสี่แยก ทันใดนั้นเอง ภาพที่ไม่มีใครอยากให้เกิด สตราด้าวิ่งเข้าแยกด้วยความเร็วสูง ไม่ลดความเร็ว เจอกับมอไซด์ออกมาจากหาดผ่านแยกด้วยความเร็วสูงไม่ชลอรถเช่นกัน ประสานงากลาง สี่แยก สตราด้าซัดมอไซค์กระเด็นไปไกลประมาณ 20 เมตร แต่คนติดอยู่ที่กระจังหน้ารถ...สตราด้าเบรคจนเสียหลักพุ่งขึ้นฟุตบาทด้านขวา ลากร่างคนไปอัดกะขอบฟุตบาท สตราด้าไม่รีรอที่จะใส่เกียร์ถอยหลัง พร้อมกะขยี้คันเร่ง แล้วหันหัวไปออกเส้นแหลมทอง เมอด๊อก รถกรูมาถึงแยกพอดี เห็นก้อนเนื้อกองอยู่ริมทางเท้า นอนแน่นิ่ง ถ้าไม่เห็นเหตุการณ์ดูไม่ออกเลยว่าเป็นคน.....
ในใจคิดเอาไงวะ เงียบสะงัดไม่มีใคร เหลือแต่กรูคันเดียว .........เอาวะ...ถือว่าทำบุญ...หักขวาเต็มกำลังเลี้ยวเข้าเส้นไปเมอดอกซ์ ยังเห็นไฟท้ายอยู่ริบๆ กะลังอัดหนีอยู่ควันขโมงเลย ดีเซลเดินเครื่องเต็มแรงม้า VS 12V เดิมโรงงานหัวใจ เจวีวี..ขยี้คันเร่งตามเสียงเกียร์สะท้านขึ้นมาถึงเก๊ะคอนโซลหน้า "เซฟิโร่สยาม ฤาจะยอมแพ้สตราด้า รามัญ" เสียงเกียร์เปลี่ยน รอบฟาดสะท้านห้องโดยสาร ยางก้อไม่ดี ในใจนึกว่าทำบุญให้พระคุ้มครองด้วย เสียหลักนี่ตายแน่ 100ปลายๆแล้ว ...
สักชั่วเคี้ยวหมากแหลก ก้อเหลือแค่ 2 คันรถ บุญมีแต่กรรมบัง กระจกสกปรกมองทะเบียนไม่ชัดเลยจี้ขึ้นไปอีก เหลือครึ่งคันรถ (กล้ามากกกกก) ใจก้อกลัวมันจะวางมิดปิดปาก เพ่งจนเห็นทะเบียนชัดแจ๋ว (ขออนุญาตละไว้เด๋วมันมาอ่านเจอ) เลยชลอรถแล้ววกกลับ กะลังจะโทรหา 191 เหลือบไปเจอ สถานีตำรวจพอดีเลยเข้าไปแจ้งเลขทะเบียนพร้อมกะให้ วิทยุเรียกรถกู้ภัย จากนั้นกลับไปที่เกิดเหตุ เริ่มมีชาวบ้านแถวนั้นออกมาดูบ้างแล้ว พูดกันไปต่างๆนาๆ เพราะไม่มีใครเห็นเหตุการณ์ ......
กรูเข้าไปจอดแบบไม่ดับเครื่อง เดินลงไปถามชาวบ้านว่าตายมั๊ย ....ไม่ได้รับคำตอบกลับมา แต่ได้เย็นเสียงซุบซิบว่า เซฟิโร่คันนี้ชนมอไซด์แน่ๆเมื่อกี้เห็นตูดไวๆ...(ห้วย) เลยบอกว่าเห้ยไม่ใช่ ผมตามไปจดทะเบียนคนชนมา แจ้งความให้แล้วเลยย้อนกลับมาดู....แล้วก้อเดินไปดูก้อนเนื้อ สภาพที่เห็น แขนขาบิดเบี้ยวผิดรูปหมดทั้งตัว อ้าวเห้ย!!! มีสองหัวนี่หว่า ก้อนเนื้อที่ว่าเป็นคนขี่กะคนซ้อน รวมกันเป็นก้อนเดียวแขนขาบิดเบี้ยวพันกัน ดูออกว่าเป็นคนตรงที่มีนิ้วนี่แหละ หมวกกันนอคก้อไม่ใส่ ผู้หญิงผู้ชายก้อดูไม่ออก เห็นแต่รอยสักที่แขน ดูแล้วตัวเย็นๆจะเป็นลม ไม่นานนักกู้ภัยมาถึง ตำรวจ ว.ไปบอกว่าเสียชีวิต เลยเอาผ้ามาเก็บศพพอจะพลิกตัว มันยังกระดิกอยู่นิดๆ กู้ภัยตะโกนบอกว่า ยังมีลมหายใจอยู่ เอาเปลมา แต่กว่าจะขึ้นได้คงต้องพันเฝือกกันอีกนาน... ให้ปากคำตำรวจสักพักเลยขอตัวกลับก่อน ตีสี่กว่าแล้ว...ง่วง ....
ภาพยังติดตา อุทาหรณ์ ขับรถกลางคืนอย่าประมาท...ชิวิตคนเราบางครั้งก้อต้องการแค่ 2-3 วินาที แค่นั้นเอง
ลืมบอกช่วงให้ปากคำไม่ได้บอกตำรวจว่าเป็นโฟล์วิล มีวิทยุแจ้งกลับมาว่า ทะเบียน ถูกต้อง รถโฟลวิลใช่มั๊ย เลยตอบว่าใช่ เป็นอันปิดคดีไป.....ชมเชยตำรวจบางแสน ไวมากๆ
ตกซักประมาณห้าทุ่มเที่ยงคืน น้อง จ.ของ b.boy ง้องแง้ง (ท่อนนี้เอามาจากตาบิ๊กนะ) เลยกลับกันก่อน เหลือผมคันเดียวริมหาด....นั่งชิวๆ 3 คนไปถึงเพลาประมาณตีสามกว่าๆ ถึงจะกลับ ระหว่างถอยจากหาด เห็นรถอัดกันมา 2 คันเลยหยุดให้ไปก่อน เป็นรถสตราด้า โฟล์วิล แข่งกันมากะมิตซูอัลติม่า มุ่งหน้าอ่างศิลา แล้วกรูก้อเลยขับตามไป กุ้กๆๆๆๆ...สุดทางอัลติม่า เลี้ยวขวาเข้าบางกะโล สตราด้าเลือกเส้นเลี่ยงลานแหลมแท่น ซึ่งเป็นทางเดียวกันกะที่จะกลับกรุงเทพ สตราด้าเจอทางโค้งตัว S เลยชลอรถ เลยขับทันวิ่งตามตูดไปเรื่อยๆ พอหมดโค้ง สตราด้าอัดต่อ ค่อยๆทิ้งห่างไปเรื่อยๆ
เวลาตีสามกว่าๆนี่เงียบสงัด ไม่มีสิ่งมีชิวิตอยู่ในสายตานอกจากรถสตราด้าคันหน้า สัญญาณไฟจราจร เปิดกระพริบให้รู้ว่าเป็นสี่แยก ทันใดนั้นเอง ภาพที่ไม่มีใครอยากให้เกิด สตราด้าวิ่งเข้าแยกด้วยความเร็วสูง ไม่ลดความเร็ว เจอกับมอไซด์ออกมาจากหาดผ่านแยกด้วยความเร็วสูงไม่ชลอรถเช่นกัน ประสานงากลาง สี่แยก สตราด้าซัดมอไซค์กระเด็นไปไกลประมาณ 20 เมตร แต่คนติดอยู่ที่กระจังหน้ารถ...สตราด้าเบรคจนเสียหลักพุ่งขึ้นฟุตบาทด้านขวา ลากร่างคนไปอัดกะขอบฟุตบาท สตราด้าไม่รีรอที่จะใส่เกียร์ถอยหลัง พร้อมกะขยี้คันเร่ง แล้วหันหัวไปออกเส้นแหลมทอง เมอด๊อก รถกรูมาถึงแยกพอดี เห็นก้อนเนื้อกองอยู่ริมทางเท้า นอนแน่นิ่ง ถ้าไม่เห็นเหตุการณ์ดูไม่ออกเลยว่าเป็นคน.....
ในใจคิดเอาไงวะ เงียบสะงัดไม่มีใคร เหลือแต่กรูคันเดียว .........เอาวะ...ถือว่าทำบุญ...หักขวาเต็มกำลังเลี้ยวเข้าเส้นไปเมอดอกซ์ ยังเห็นไฟท้ายอยู่ริบๆ กะลังอัดหนีอยู่ควันขโมงเลย ดีเซลเดินเครื่องเต็มแรงม้า VS 12V เดิมโรงงานหัวใจ เจวีวี..ขยี้คันเร่งตามเสียงเกียร์สะท้านขึ้นมาถึงเก๊ะคอนโซลหน้า "เซฟิโร่สยาม ฤาจะยอมแพ้สตราด้า รามัญ" เสียงเกียร์เปลี่ยน รอบฟาดสะท้านห้องโดยสาร ยางก้อไม่ดี ในใจนึกว่าทำบุญให้พระคุ้มครองด้วย เสียหลักนี่ตายแน่ 100ปลายๆแล้ว ...
สักชั่วเคี้ยวหมากแหลก ก้อเหลือแค่ 2 คันรถ บุญมีแต่กรรมบัง กระจกสกปรกมองทะเบียนไม่ชัดเลยจี้ขึ้นไปอีก เหลือครึ่งคันรถ (กล้ามากกกกก) ใจก้อกลัวมันจะวางมิดปิดปาก เพ่งจนเห็นทะเบียนชัดแจ๋ว (ขออนุญาตละไว้เด๋วมันมาอ่านเจอ) เลยชลอรถแล้ววกกลับ กะลังจะโทรหา 191 เหลือบไปเจอ สถานีตำรวจพอดีเลยเข้าไปแจ้งเลขทะเบียนพร้อมกะให้ วิทยุเรียกรถกู้ภัย จากนั้นกลับไปที่เกิดเหตุ เริ่มมีชาวบ้านแถวนั้นออกมาดูบ้างแล้ว พูดกันไปต่างๆนาๆ เพราะไม่มีใครเห็นเหตุการณ์ ......
กรูเข้าไปจอดแบบไม่ดับเครื่อง เดินลงไปถามชาวบ้านว่าตายมั๊ย ....ไม่ได้รับคำตอบกลับมา แต่ได้เย็นเสียงซุบซิบว่า เซฟิโร่คันนี้ชนมอไซด์แน่ๆเมื่อกี้เห็นตูดไวๆ...(ห้วย) เลยบอกว่าเห้ยไม่ใช่ ผมตามไปจดทะเบียนคนชนมา แจ้งความให้แล้วเลยย้อนกลับมาดู....แล้วก้อเดินไปดูก้อนเนื้อ สภาพที่เห็น แขนขาบิดเบี้ยวผิดรูปหมดทั้งตัว อ้าวเห้ย!!! มีสองหัวนี่หว่า ก้อนเนื้อที่ว่าเป็นคนขี่กะคนซ้อน รวมกันเป็นก้อนเดียวแขนขาบิดเบี้ยวพันกัน ดูออกว่าเป็นคนตรงที่มีนิ้วนี่แหละ หมวกกันนอคก้อไม่ใส่ ผู้หญิงผู้ชายก้อดูไม่ออก เห็นแต่รอยสักที่แขน ดูแล้วตัวเย็นๆจะเป็นลม ไม่นานนักกู้ภัยมาถึง ตำรวจ ว.ไปบอกว่าเสียชีวิต เลยเอาผ้ามาเก็บศพพอจะพลิกตัว มันยังกระดิกอยู่นิดๆ กู้ภัยตะโกนบอกว่า ยังมีลมหายใจอยู่ เอาเปลมา แต่กว่าจะขึ้นได้คงต้องพันเฝือกกันอีกนาน... ให้ปากคำตำรวจสักพักเลยขอตัวกลับก่อน ตีสี่กว่าแล้ว...ง่วง ....
ภาพยังติดตา อุทาหรณ์ ขับรถกลางคืนอย่าประมาท...ชิวิตคนเราบางครั้งก้อต้องการแค่ 2-3 วินาที แค่นั้นเอง
ลืมบอกช่วงให้ปากคำไม่ได้บอกตำรวจว่าเป็นโฟล์วิล มีวิทยุแจ้งกลับมาว่า ทะเบียน ถูกต้อง รถโฟลวิลใช่มั๊ย เลยตอบว่าใช่ เป็นอันปิดคดีไป.....ชมเชยตำรวจบางแสน ไวมากๆ