*****เราเอาน้ำมันเครื่อง 20w50 ยี่ห้อ A มาผสมกับ 20w50 ยี่ห้อ B ได้ไหมครับ******

  • ผู้เริ่มหัวข้อ ผู้เริ่มหัวข้อ wortenko
  • วันที่เริ่มต้น วันที่เริ่มต้น

กรุณาปิด โปรแกรมบล๊อกโฆษณา เพราะเราอยู่ได้ด้วยโฆษณาที่ท่านเห็น
Please close the adblock program. Because we can live with the ads you see

wortenko

New member
Register
เข้าร่วม
14 ม.ค. 2010
ข้อความ
875
  • กระทู้ ผู้เขียน
  • #1
พอดี ผมซื้อ น้ำมันเครื่องมายี่ห้อนึง
2 แกลอน = 10 ลิตร
แต่ไช้ไปแค่ 6.5 ลิตร
พอไช้ไปครบ ระยะ ผมก็ดันไปเอา อีกยี่ห้อนึงมา
2 แกลอน = 10 ลิตน
แล้วก็ไช้ไปอีก 6.5 ลิตร
ทั้ง 2 ยี่ห้อ 20W 50 เหมือนกัน
ผมเอามาผสมกัน ไส่ครั้งที่ 3 ได้ไหมครับ
*******
ไหนๆๆ ก็ถามแล้ว
อันนี้ สมมุติ เราเอา 20 w 40 มาผสม กับ 20w50
ได้ไหมครับ
 


จากโจทย์ข้อแรกผมเคยทำแต่ไม่ใช่ในเซฟนะ
ใส่กระบะดีเซล แต่ไม่บ่อย ทำเฉพาะตอนวิ่งออก ตจว.
จอดพักรถ เครื่องเย็น น้ำมันเครื่องหาย หายี่ห้อเดิมไม่ได้
เลยต้องใส่ครับ พอกลับเข้า กทม.ใช้สักพักก็ถ่ายทิ้งครับ
แต่ในเซฟไม่อยากลองกลัวพัง เครื่องแพงครับ

ข้อ2ไม่เคยลองครับ

ถ้าเป็นผมตอนนี้น้ำมันเครื่องทั้ง2ยี่ห้อ
เหลืออยู่อย่างละ3.5 ลิตร ก็ซื้อมาใหม่อย่างละ 1 แกลอน(ใหญ่)
ใช้ครั้งละ1ยี่ห้อ+ของที่เหลือ ก็จะเหลืออีกนิดหน่อย
ค่อยเติมตอนมันลดครับ
เท่ากับถ่ายน้ำมันได้อีก2รอบโดยไม่ต้องทิ้งของที่เหลือครับ
 
  • กระทู้ ผู้เขียน
  • #3
จากโจทย์ข้อแรกผมเคยทำแต่ไม่ใช่ในเซฟนะ
ใส่กระบะดีเซล แต่ไม่บ่อย ทำเฉพาะตอนวิ่งออก ตจว.
จอดพักรถ เครื่องเย็น น้ำมันเครื่องหาย หายี่ห้อเดิมไม่ได้
เลยต้องใส่ครับ พอกลับเข้า กทม.ใช้สักพักก็ถ่ายทิ้งครับ
แต่ในเซฟไม่อยากลองกลัวพัง เครื่องแพงครับ

ข้อ2ไม่เคยลองครับ

ถ้าเป็นผมตอนนี้น้ำมันเครื่องทั้ง2ยี่ห้อ
เหลืออยู่อย่างละ3.5 ลิตร ก็ซื้อมาใหม่อย่างละ 1 แกลอน(ใหญ่)
ใช้ครั้งละ1ยี่ห้อ+ของที่เหลือ ก็จะเหลืออีกนิดหน่อย
ค่อยเติมตอนมันลดครับ
เท่ากับถ่ายน้ำมันได้อีก2รอบโดยไม่ต้องทิ้งของที่เหลือครับ
โอเค ครับ....งั้นก็ ตามนั้น
ขอบคุณครับ:coolly-0005:
 
ใส่ได้แค่ไม่ควรครับเอาต่างยี่ห้อผสมกัน
ใส่เฉพาะยามจำเป็นเหมื่อนมันขาดแล้วหาไม่ได้ในขณะนั้น
 
ชั่วคราวได้แต่ไม่ดีครับ
 
  • กระทู้ ผู้เขียน
  • #6
ใส่ได้แค่ไม่ควรครับเอาต่างยี่ห้อผสมกัน
ใส่เฉพาะยามจำเป็นเหมื่อนมันขาดแล้วหาไม่ได้ในขณะนั้น

ชั่วคราวได้แต่ไม่ดีครับ
รบกวน ทั้ง 2 ท่าน
พอจะทราบไหมครับ ว่าทำไม ถึงไม่ควร...ไม่ดี:coolly-0043:
พอดีผม ข้องใจ มานานแหละ:coolly-0023:
 
ต่างยี่ห้อ ไม่แนะนำให้ผสมกันเพราะไม่รู้แต่ละยี่ห้อใส่สารอะไรกันลงไปบ้าง แล้วมันไปมีผลกับอีกยี่ห้อรึเปล่า
 
จากที่ทุกท่านกล่าวกันมา สมเหตุสมผลแล้วครับ
ทีนี้ เพราะอะไร เบอร์เดียวกันแท้ๆ แต่ผสมกันมันไม่ดี หรือไม่ควร...

ผมเองก็ไม่มีคำตอบให้ แต่เชื่อว่า เทคโนโลยีคงไม่ต่างกันมาก ในกระบวนการผลิตของแต่ละยี่ห้อ(เอาที่มันเกรดหรือความน่าเชื่อถือใกล้เคียง กันนะครับ)

กระบวนการผลิตแต่ละที่ กว่าจะออกมาเป็นบรรจุภัณฑ์ได้ในแต่ละ Lot การผลิต มันก็มีตัวแปรต่างๆนานาของแต่ละขั้นตอนในการผลิต... แต่ก็ยังคงสภาพที่เรียกว่าอยู่ใน Spec ของแต่ละเจ้า

ถ้าจะให้เปรียบเทียบ ให้ชัดเจนอีกนิด ก็คงจะเหมือนกับยางรถ เพราะพวกเราคุ้นเคยกันดี
ทำไม แต่ละคน เชียร์ยางยี่ห้อนั้นดีหรือไม่ดียังไง มันก็แล้วแต่ละคนจะเจอมา หรือประสบกันมา ที่เคยใช้กันมา...

ทีนี้ เรื่องของยาง ถามว่ามันจะเอามาเปรียบเทียบกันได้กับน้ำมันเครื่องมั้ย เปรียบเทียบกันได้บ้างครับ เพราะสูตรคอมปาวน์ยางของแต่ละเจ้านั้นไม่เหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า น้ำมันเครื่อง จะต้องสูตรต่างกันนะ มันก็อาจเหมือนกันบ้างและมีต่างกันได้นิดหน่อย

แต่ก็ด้วยที่แต่ละเจ้านั้น ได้มาตรฐานการผลิตของอุตสาหกรรมรถยนต์นั้นแหละครับ
มันเป็นตัวยืนยันว่าเติมด้วยกันได้ ผสมกันได้ เพราะมันได้มาตรฐานนั้นมาแล้ว
เกรดเดียวกัน สามารถใช้ได้ในมาตรฐานเดียวกัน

แต่ในเชิงลึก เราไม่สามารถรู้อะไรได้ ว่ามันจะมีอะไรไปขัดกันในแต่ละกระบวนการผลิตของน้ำมันที่เราเติมผสมลงไปหรือเปล่า
ซึ่งมาถึงจุดนี้ ก็คงต้องพิจารณากันไปแต่ละบุคคล..ว่าจะจัดการกับปัญหานี้อย่างไรดี..

เพราะฉะนั้น การที่เราทุกคนบอกควรหรือไม่ควร มันเป็นแค่การปกป้องเครื่องยนต์ของเราครับ เราไม่รู้ชัดเจน ว่ามันมีผลยังไง แต่ถ้ามีงบถึง และมันไม่ยากเกินจะถ่ายเปลี่ยนทิ้งไป ผมว่ามันก็สมเหตุสมผลในระดับนึงนะ ของผมโดยส่วนตัว ไล่จนเอาน้ำมันเกรดต่ำนิดนึง ขับแบบรถบ้าน ไปสักอาทิตย์ แล้วไล่ออกให้หมด แล้วเอาของใหม่เติมเข้าไป... เหตุผลของย่อหน้านี้ คือเครื่องเราทำมาเท่าไหร่แล้ว จะยอมเสี่ยงเพราะเหตุนี้กันหรอครับ...


ถ้าจะให้ชัดเจนยิ่งขึ้นไปอีก...มันก็คงคล้ายๆ หรือเป็นอย่างที่เราเห็นกัน ทำไม น้ำมันเชื้อเพลิง เราเติมยี่ห้อนั้นยี่ห้อนี้ ทำไมเราถึงรู้สึกแตกต่าง ....ทำไม พอเติมเจ้าที่เราคิดว่าดี พอวันต่อไปมาเติม เอ๊ะ ทำไมไม่เห็นวิ่งดีๆลื่นๆไม่เหมือนอย่างทีเราคุ้นเคย ฉันท์ใดก็ฉันท์นั้นครับ ไม่งั้น ก็ต้องเติมน้ำมันผูกมัดเจ้าเดียวกันไปตลอดซิครับ เดินทางต่างจังหวัด คงแย่ ถ้าไม่ได้วางแผนกันดีจริงๆ ยังไงคงต้องมีผสมเจ้ากันบ้าง

และที่สำคัญอย่าลืมครับ ว่ารถเราๆนั้น เวลาเค้นๆ เวลาขับเอามันส์ๆกัน มันอาจจะมีจุดที่เกินความคาดคิดของการเผื่อเหลือเผื่อขาดของแต่ละเจ้าการผลิตก็เป็นได้ 555555 ทุกสิ่งทุกอย่างที่บรรจงตกแต่งลงไปในห้องเครื่องของแต่ละคน มันเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้รายผลิตของน้ำมันซิ่งเกิดขึ้นครับ

และยังมีต่อด้วยนะครับ ว่าน้ำมันซิ่งนั้น เกิดจากกระบวนการผลิตโดยเจ้าไหนกันแน่ ไอ้พวกที่ว่าซิ่งๆเนี่ย 555555 ใครจะรู้ ว่าอาจเป็นเจ้าป้วนเปี้ยนเดียวๆกันแท้ๆ แค่ปุั๊มโลโก้ลงไปใหม่....แค่นั้น........
 
แก้ไขล่าสุด:
ไม่รู้สิ ครับ แต่ผมว่าตามที่น้าป้องว่า ก็ถูกต้องแหละครับ แต่ผมเองยังใช้น้ำมันเครื่องที่ปั่นขึ้นมาจากถัง200ลิตร ตามปั้มเชลอยู่เลย ไม่เคยใช้น้ำมันแพงๆซักที เลยไม่ได้สนใจเท่าไหร่ ผมขอแค่ น้ำมันเครื่องไม่ขา่ด แรงดันไม่ตกทั้งเวลาเดินเบาหรือซัดต้องปรกติ ความร้อนน้ำมันเครื่องปรกติขึ้นไม่เกิน100 แค่นี้ก็พอใจแล้วครับ
 
สูตรของแต่ละที่ไม่เหมือนกันครับถึงแม้ความหนืด หรือ อุณหภูมิ เท่ากันก็ตาม

ผิดผลาดประการใดขออภัยด้วยครับ
 
และยังมีต่อด้วยนะครับ ว่าน้ำมันซิ่งนั้น เกิดจากกระบวนการผลิตโดยเจ้าไหนกันแน่ ไอ้พวกที่ว่าซิ่งๆเนี่ย 555555 ใครจะรู้ ว่าอาจเป็นเจ้าป้วนเปี้ยนเดียวๆกันแท้ๆ แค่ปุั๊มโลโก้ลงไปใหม่....แค่นั้น........

ตามนั้นครับ

ถ้าถ้าให้เลือกระหว่าง น้ำมันเครื่องขาด กับผสมน้ำมันด้วยกัน จะเลือกอย่างไหน

ตามความคิดผม(ของผมเองนะผิดถูกยกไว้)

การที่เราใช้รถไปซักระยะนึงแล้ว คุณจะรู้ได้ไงว่าน้ำมันที่ผ่านการใช้งานมาซัก 2,000กิโลเมตร จะมีคุณสมบัติเหมือนเดิม กับตอนที่เติมไปแรกๆ แล้วถ้ามันขาด เติมตัวเก่าลงไป มันจะเข้ากันได้หรือปล่าว อันนี้ผมว่าคงไม่มีใครตอบได้(ตัวผมด้วย)

ประสบการณ์ตัวผมเอง(รถออฟฟิต)ผมเคยเอาน้ำมันเกรดเดียวกันแต่สามยี่ห้อ(SYN เกลอนละลิตร)เอามาผสมกันก่อนเเล้วค่อยเติมลงไป ก็ขับ ก็อัดตามปกติ 140 - 180 แต่ไม่ลากรอบเกินไป จนครบกำหนดเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง รถก็ยังปกติ ดูแลไม่ให้น้ำมันขาด น้ำหม้อน้ำไม่ลด
 
ขอแค่ อย่าให้มันขาด ก้อพอ
 
ขอแชร์นิดนึงนะครับ เนื่องจากทำงานอยู่ในวงการน้ำมัน

ความจริง ถ้าน้ำมันเกรดเดียวกัน มันมาจาก base oil ตัวเดียวกันครับ (ทั้งน้ำมันเชื้อเพลิงและน้ำมันเครื่อง)



ในที่นี้พูดถึง น้ำมันเครื่อง ภาษาชาวโรงกลั่นจะเรียก lube oil
ถ้าเกรดเดียวกัน ผสมกันได้ครับ เพื่อใช้งานทั่วไป อย่าให้น้ำมันเครื่องพร่องเป็นพอ

แต่....มีแต่ ครับ

การจะผสมกันเพื่อใช้งานกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง มีสิ่งที่ต้องพิจารณา คือ อย่าเอาน้ำมันผสมใช้กับเครื่องยนต์ที่มีการใช้งานรอบสูงๆรอบจัดๆอย่างต่อเนื่องบ่อยๆหรือตลอดเวลาครับ เพราะ แต่ละยี่ห้อ มี additive หรือ พูดง่ายๆก็คือ หัวเชื้อ ซึ่งของแต่ละบริษัทก็ไม่เหมือนกัน(สูตรใครสูตรมัน)

ซึ่งไอ้ additive ตัวเนี้ย มันจะมีประสิทธิภาพสูงสุด เมื่อถึงเงื่อนไข ข้อกำหนดและอุณหภูมิการใช้งานของมัน (เคยได้ยินมั๊ยครับว่า ต้องวอร์มเครื่องให้ถึงอุณหภูมิทำงานของมันก่อน) ดังนั้น เมื่อมีการผสมกัน ไอ้ additive ตัวเนี้ย มันก็จะเจือจาง และสูญเสียคุณสมบัติบางส่วนของมันไป

ซึ่งการสูญเสียคุณสมบัตินี้ เมื่อเทียบกับการใช้งานในรถยนต์อย่างเราๆที่ไม่ได้ใช้รอบสูงๆอย่างต่อเนื่อง (ใช้งานทั่วไปยกเว้นแข่งนะครับนั่นอีกเรื่องหนึ่ง) มันไม่ได้มีผลกระทบอะไรมากมายขนาดนั้นครับ

คำว่ารอบสูง หลายคนอาจจะงง ว่า แล้วมันอยู่ที่เท่าไหร่ล่ะ ความจริงแล้ว ตัวเลขเหล่านี้มันจะบอกอยู่ในสเปคเครื่องแต่ละตัวแล้วครับ และ ก็ถ้าดูจริงๆ ทางโรงงานเค้าก็จะบอกไว้แล้วว่า ใช้ lube oil เบอร์อะไร ซึ่งนั่นเป็นเบอร์ที่เหมาะสม อย่าให้เกรดต่ำกว่านั้น แต่สูงกว่าได้ เพราะโรงงานเค้าไม่อยากเปลืองค่าใช้จ่ายในส่วนนั้น จึงกำหนดสเปคมาแค่ใช้งานในระดับทั่วไปได้น่ะครับ มันโยงไปถึงเรื่องต้นทุน

เดี๋ยวจะยาวเอาแค่นี้ก่อนละกันครับ

สรุป
ถ้าผสมเพื่อใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน มีแซ้ดบ้างตามอารมณ์ไม่บ่อยสามารถทำได้ครับ

แต่ถ้าวันไหนต้องการไปวิ่งแดร็ก ไปวิ่งเซอร์กิต ที่ต้องเรียกรอบสูงๆตั้งแต่ตอนสตาร์ท แนะนำควรเปลี่ยนออก แล้วใช้ยี่ห้อเดียวกันครับ
 
ขอแชร์นิดนึงนะครับ เนื่องจากทำงานอยู่ในวงการน้ำมัน

ความจริง ถ้าน้ำมันเกรดเดียวกัน มันมาจาก base oil ตัวเดียวกันครับ (ทั้งน้ำมันเชื้อเพลิงและน้ำมันเครื่อง)



ในที่นี้พูดถึง น้ำมันเครื่อง ภาษาชาวโรงกลั่นจะเรียก lube oil
ถ้าเกรดเดียวกัน ผสมกันได้ครับ เพื่อใช้งานทั่วไป อย่าให้น้ำมันเครื่องพร่องเป็นพอ

แต่....มีแต่ ครับ

การจะผสมกันเพื่อใช้งานกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง มีสิ่งที่ต้องพิจารณา คือ อย่าเอาน้ำมันผสมใช้กับเครื่องยนต์ที่มีการใช้งานรอบสูงๆรอบจัดๆอย่างต่อเนื่องบ่อยๆหรือตลอดเวลาครับ เพราะ แต่ละยี่ห้อ มี additive หรือ พูดง่ายๆก็คือ หัวเชื้อ ซึ่งของแต่ละบริษัทก็ไม่เหมือนกัน(สูตรใครสูตรมัน)

ซึ่งไอ้ additive ตัวเนี้ย มันจะมีประสิทธิภาพสูงสุด เมื่อถึงเงื่อนไข ข้อกำหนดและอุณหภูมิการใช้งานของมัน (เคยได้ยินมั๊ยครับว่า ต้องวอร์มเครื่องให้ถึงอุณหภูมิทำงานของมันก่อน) ดังนั้น เมื่อมีการผสมกัน ไอ้ additive ตัวเนี้ย มันก็จะเจือจาง และสูญเสียคุณสมบัติบางส่วนของมันไป

ซึ่งการสูญเสียคุณสมบัตินี้ เมื่อเทียบกับการใช้งานในรถยนต์อย่างเราๆที่ไม่ได้ใช้รอบสูงๆอย่างต่อเนื่อง (ใช้งานทั่วไปยกเว้นแข่งนะครับนั่นอีกเรื่องหนึ่ง) มันไม่ได้มีผลกระทบอะไรมากมายขนาดนั้นครับ

คำว่ารอบสูง หลายคนอาจจะงง ว่า แล้วมันอยู่ที่เท่าไหร่ล่ะ ความจริงแล้ว ตัวเลขเหล่านี้มันจะบอกอยู่ในสเปคเครื่องแต่ละตัวแล้วครับ และ ก็ถ้าดูจริงๆ ทางโรงงานเค้าก็จะบอกไว้แล้วว่า ใช้ lube oil เบอร์อะไร ซึ่งนั่นเป็นเบอร์ที่เหมาะสม อย่าให้เกรดต่ำกว่านั้น แต่สูงกว่าได้ เพราะโรงงานเค้าไม่อยากเปลืองค่าใช้จ่ายในส่วนนั้น จึงกำหนดสเปคมาแค่ใช้งานในระดับทั่วไปได้น่ะครับ มันโยงไปถึงเรื่องต้นทุน

เดี๋ยวจะยาวเอาแค่นี้ก่อนละกันครับ

สรุป
ถ้าผสมเพื่อใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน มีแซ้ดบ้างตามอารมณ์ไม่บ่อยสามารถทำได้ครับ

แต่ถ้าวันไหนต้องการไปวิ่งแดร็ก ไปวิ่งเซอร์กิต ที่ต้องเรียกรอบสูงๆตั้งแต่ตอนสตาร์ท แนะนำควรเปลี่ยนออก แล้วใช้ยี่ห้อเดียวกันครับ
พระเอกตัวจริงมาแล้วว :coolly-0026:
 
ผมก็คิดเหมือนอย่างที่น้าเหวกว่า
จึงไม่ใช้น้ำมันผสมกับเซฟ
ใช้แต่กระบะอย่างเดียวครับ(ในบางครั้งที่หาไม่ได้)
อย่างมากกกระบะก็3-4000 รอบ
แต่เซฟบางวันเล่นไป7000ก็มีครับ
 
ผมก็คิดเหมือนอย่างที่น้าเหวกว่า
จึงไม่ใช้น้ำมันผสมกับเซฟ
ใช้แต่กระบะอย่างเดียวครับ(ในบางครั้งที่หาไม่ได้)
อย่างมากกกระบะก็3-4000 รอบ
แต่เซฟบางวันเล่นไป7000ก็มีครับ

ใช่ครับ

ถ้าเครื่องแพงๆอย่าง rb26 หรือ 2 เจ อย่าเสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่ายเลยครับ

เครื่องตัวนึงเกือบแสน เมื่อเทียบกับน้ำมันเครื่องแกลลอนละพันกว่าบาท ลงทุนไปเถอะครับ อย่าเสี่ยงครับไม่คุ้มกันหรอกครับ


มีเรื่องเล่าให้ฟังนิด
ผมมีเพื่อนวาง 2 เจในกระบะ พอดีเค้าหลงไปใช้ นมค.ยี่ห้อหนึ่ง fully syn. ด้วย(รู้ทีหลังว่าปลอม)เพราะเห็นว่ามีคนเอามาขายในราคาถูก ซัดไม่กี่ทีชาร์ปละลาย เสียดายเครื่องมาก ราคาเครื่อง 6 หมื่นกว่าสูญไปเพราะ นมค.ราคาไม่ถึงพันบาท

สุดท้าย คำที่ได้ยินกันบ่อยก็คือ รู้งี้.........
 
  • กระทู้ ผู้เขียน
  • #17
จากที่ทุกท่านกล่าวกันมา สมเหตุสมผลแล้วครับ
ทีนี้ เพราะอะไร เบอร์เดียวกันแท้ๆ แต่ผสมกันมันไม่ดี หรือไม่ควร...

ผมเองก็ไม่มีคำตอบให้ แต่เชื่อว่า เทคโนโลยีคงไม่ต่างกันมาก ในกระบวนการผลิตของแต่ละยี่ห้อ(เอาที่มันเกรดหรือความน่าเชื่อถือใกล้เคียง กันนะครับ)

กระบวนการผลิตแต่ละที่ กว่าจะออกมาเป็นบรรจุภัณฑ์ได้ในแต่ละ Lot การผลิต มันก็มีตัวแปรต่างๆนานาของแต่ละขั้นตอนในการผลิต... แต่ก็ยังคงสภาพที่เรียกว่าอยู่ใน Spec ของแต่ละเจ้า

ถ้าจะให้เปรียบเทียบ ให้ชัดเจนอีกนิด ก็คงจะเหมือนกับยางรถ เพราะพวกเราคุ้นเคยกันดี
ทำไม แต่ละคน เชียร์ยางยี่ห้อนั้นดีหรือไม่ดียังไง มันก็แล้วแต่ละคนจะเจอมา หรือประสบกันมา ที่เคยใช้กันมา...

ทีนี้ เรื่องของยาง ถามว่ามันจะเอามาเปรียบเทียบกันได้กับน้ำมันเครื่องมั้ย เปรียบเทียบกันได้บ้างครับ เพราะสูตรคอมปาวน์ยางของแต่ละเจ้านั้นไม่เหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า น้ำมันเครื่อง จะต้องสูตรต่างกันนะ มันก็อาจเหมือนกันบ้างและมีต่างกันได้นิดหน่อย

แต่ก็ด้วยที่แต่ละเจ้านั้น ได้มาตรฐานการผลิตของอุตสาหกรรมรถยนต์นั้นแหละครับ
มันเป็นตัวยืนยันว่าเติมด้วยกันได้ ผสมกันได้ เพราะมันได้มาตรฐานนั้นมาแล้ว
เกรดเดียวกัน สามารถใช้ได้ในมาตรฐานเดียวกัน

แต่ในเชิงลึก เราไม่สามารถรู้อะไรได้ ว่ามันจะมีอะไรไปขัดกันในแต่ละกระบวนการผลิตของน้ำมันที่เราเติมผสมลงไปหรือเปล่า
ซึ่งมาถึงจุดนี้ ก็คงต้องพิจารณากันไปแต่ละบุคคล..ว่าจะจัดการกับปัญหานี้อย่างไรดี..

เพราะฉะนั้น การที่เราทุกคนบอกควรหรือไม่ควร มันเป็นแค่การปกป้องเครื่องยนต์ของเราครับ เราไม่รู้ชัดเจน ว่ามันมีผลยังไง แต่ถ้ามีงบถึง และมันไม่ยากเกินจะถ่ายเปลี่ยนทิ้งไป ผมว่ามันก็สมเหตุสมผลในระดับนึงนะ ของผมโดยส่วนตัว ไล่จนเอาน้ำมันเกรดต่ำนิดนึง ขับแบบรถบ้าน ไปสักอาทิตย์ แล้วไล่ออกให้หมด แล้วเอาของใหม่เติมเข้าไป... เหตุผลของย่อหน้านี้ คือเครื่องเราทำมาเท่าไหร่แล้ว จะยอมเสี่ยงเพราะเหตุนี้กันหรอครับ...


ถ้าจะให้ชัดเจนยิ่งขึ้นไปอีก...มันก็คงคล้ายๆ หรือเป็นอย่างที่เราเห็นกัน ทำไม น้ำมันเชื้อเพลิง เราเติมยี่ห้อนั้นยี่ห้อนี้ ทำไมเราถึงรู้สึกแตกต่าง ....ทำไม พอเติมเจ้าที่เราคิดว่าดี พอวันต่อไปมาเติม เอ๊ะ ทำไมไม่เห็นวิ่งดีๆลื่นๆไม่เหมือนอย่างทีเราคุ้นเคย ฉันท์ใดก็ฉันท์นั้นครับ ไม่งั้น ก็ต้องเติมน้ำมันผูกมัดเจ้าเดียวกันไปตลอดซิครับ เดินทางต่างจังหวัด คงแย่ ถ้าไม่ได้วางแผนกันดีจริงๆ ยังไงคงต้องมีผสมเจ้ากันบ้าง

และที่สำคัญอย่าลืมครับ ว่ารถเราๆนั้น เวลาเค้นๆ เวลาขับเอามันส์ๆกัน มันอาจจะมีจุดที่เกินความคาดคิดของการเผื่อเหลือเผื่อขาดของแต่ละเจ้าการผลิตก็เป็นได้ 555555 ทุกสิ่งทุกอย่างที่บรรจงตกแต่งลงไปในห้องเครื่องของแต่ละคน มันเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้รายผลิตของน้ำมันซิ่งเกิดขึ้นครับ

และยังมีต่อด้วยนะครับ ว่าน้ำมันซิ่งนั้น เกิดจากกระบวนการผลิตโดยเจ้าไหนกันแน่ ไอ้พวกที่ว่าซิ่งๆเนี่ย 555555 ใครจะรู้ ว่าอาจเป็นเจ้าป้วนเปี้ยนเดียวๆกันแท้ๆ แค่ปุั๊มโลโก้ลงไปใหม่....แค่นั้น........
ขอบคุณมากๆๆๆๆๆๆๆๆครับ:coolly-0005:
อธิบาย เห็นภาพ เลย
เข้าใจ ครับ:coolly-0005:
 
  • กระทู้ ผู้เขียน
  • #18
ขอแชร์นิดนึงนะครับ เนื่องจากทำงานอยู่ในวงการน้ำมัน

ความจริง ถ้าน้ำมันเกรดเดียวกัน มันมาจาก base oil ตัวเดียวกันครับ (ทั้งน้ำมันเชื้อเพลิงและน้ำมันเครื่อง)



ในที่นี้พูดถึง น้ำมันเครื่อง ภาษาชาวโรงกลั่นจะเรียก lube oil
ถ้าเกรดเดียวกัน ผสมกันได้ครับ เพื่อใช้งานทั่วไป อย่าให้น้ำมันเครื่องพร่องเป็นพอ

แต่....มีแต่ ครับ

การจะผสมกันเพื่อใช้งานกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง มีสิ่งที่ต้องพิจารณา คือ อย่าเอาน้ำมันผสมใช้กับเครื่องยนต์ที่มีการใช้งานรอบสูงๆรอบจัดๆอย่างต่อเนื่องบ่อยๆหรือตลอดเวลาครับ เพราะ แต่ละยี่ห้อ มี additive หรือ พูดง่ายๆก็คือ หัวเชื้อ ซึ่งของแต่ละบริษัทก็ไม่เหมือนกัน(สูตรใครสูตรมัน)

ซึ่งไอ้ additive ตัวเนี้ย มันจะมีประสิทธิภาพสูงสุด เมื่อถึงเงื่อนไข ข้อกำหนดและอุณหภูมิการใช้งานของมัน (เคยได้ยินมั๊ยครับว่า ต้องวอร์มเครื่องให้ถึงอุณหภูมิทำงานของมันก่อน) ดังนั้น เมื่อมีการผสมกัน ไอ้ additive ตัวเนี้ย มันก็จะเจือจาง และสูญเสียคุณสมบัติบางส่วนของมันไป

ซึ่งการสูญเสียคุณสมบัตินี้ เมื่อเทียบกับการใช้งานในรถยนต์อย่างเราๆที่ไม่ได้ใช้รอบสูงๆอย่างต่อเนื่อง (ใช้งานทั่วไปยกเว้นแข่งนะครับนั่นอีกเรื่องหนึ่ง) มันไม่ได้มีผลกระทบอะไรมากมายขนาดนั้นครับ

คำว่ารอบสูง หลายคนอาจจะงง ว่า แล้วมันอยู่ที่เท่าไหร่ล่ะ ความจริงแล้ว ตัวเลขเหล่านี้มันจะบอกอยู่ในสเปคเครื่องแต่ละตัวแล้วครับ และ ก็ถ้าดูจริงๆ ทางโรงงานเค้าก็จะบอกไว้แล้วว่า ใช้ lube oil เบอร์อะไร ซึ่งนั่นเป็นเบอร์ที่เหมาะสม อย่าให้เกรดต่ำกว่านั้น แต่สูงกว่าได้ เพราะโรงงานเค้าไม่อยากเปลืองค่าใช้จ่ายในส่วนนั้น จึงกำหนดสเปคมาแค่ใช้งานในระดับทั่วไปได้น่ะครับ มันโยงไปถึงเรื่องต้นทุน

เดี๋ยวจะยาวเอาแค่นี้ก่อนละกันครับ

สรุป
ถ้าผสมเพื่อใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน มีแซ้ดบ้างตามอารมณ์ไม่บ่อยสามารถทำได้ครับ

แต่ถ้าวันไหนต้องการไปวิ่งแดร็ก ไปวิ่งเซอร์กิต ที่ต้องเรียกรอบสูงๆตั้งแต่ตอนสตาร์ท แนะนำควรเปลี่ยนออก แล้วใช้ยี่ห้อเดียวกันครับ
ชัดเจน..........
มีอ้างอิง จากการทำงาน
เชื่อถือได้นะครับ
อ่านแล้วเข้าใจ
ขอบคุณมากๆๆๆครับ:coolly-0005:
***และในใจ อยากผสม ใจจะขาดอยู่แล้ว:coolly-0028::coolly-0028::coolly-0028:***
 
  • กระทู้ ผู้เขียน
  • #19
ใช่ครับ

ถ้าเครื่องแพงๆอย่าง rb26 หรือ 2 เจ อย่าเสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่ายเลยครับ

เครื่องตัวนึงเกือบแสน เมื่อเทียบกับน้ำมันเครื่องแกลลอนละพันกว่าบาท ลงทุนไปเถอะครับ อย่าเสี่ยงครับไม่คุ้มกันหรอกครับ


มีเรื่องเล่าให้ฟังนิด
ผมมีเพื่อนวาง 2 เจในกระบะ พอดีเค้าหลงไปใช้ นมค.ยี่ห้อหนึ่ง fully syn. ด้วย(รู้ทีหลังว่าปลอม)เพราะเห็นว่ามีคนเอามาขายในราคาถูก ซัดไม่กี่ทีชาร์ปละลาย เสียดายเครื่องมาก ราคาเครื่อง 6 หมื่นกว่าสูญไปเพราะ นมค.ราคาไม่ถึงพันบาท

สุดท้าย คำที่ได้ยินกันบ่อยก็คือ รู้งี้.........
อืม...........................
นี่ก็มีเหตุผลดีครับ
อีซูซุ ผมก็หลงไปเติม ป.ต.ท. มา:coolly-0004:
วิ่งไป พันกว่าโล เอะทำไมเสียงดังจัง ....ฟะ:coolly-0042:
ทนไช้ไปถึง 2000 โลไม่ไหวละ:coolly-0042:
เปลี่ยน ทิ้ง เติมโมบิลเข้าไป
เสียงเงียบเลย
แต่งานเข้าซะแล้ว น้ำหาย
แล้วตอนเติมน้ำ สตาร์ทเรื่อง ไว้
ฟองอากาศ แบบฟองเบีนร์ ละเอียดๆๆ เพียบ
เศร้า:coolly-0041:
 
อืม...........................
นี่ก็มีเหตุผลดีครับ
อีซูซุ ผมก็หลงไปเติม ป.ต.ท. มา:coolly-0004:
วิ่งไป พันกว่าโล เอะทำไมเสียงดังจัง ....ฟะ:coolly-0042:
ทนไช้ไปถึง 2000 โลไม่ไหวละ:coolly-0042:
เปลี่ยน ทิ้ง เติมโมบิลเข้าไป
เสียงเงียบเลย
แต่งานเข้าซะแล้ว น้ำหาย
แล้วตอนเติมน้ำ สตาร์ทเรื่อง ไว้
ฟองอากาศ แบบฟองเบีนร์ ละเอียดๆๆ เพียบ
เศร้า:coolly-0041:
จริงๆแล้วไม่ใช่ว่า ปตท.ไม่ดีนะครับ
26ผมก็ใช้อยู่แต่เป็น fully synthetic แท้เลยไม่เทียมครับ
ซื้อจากแหล่งที่เชื่อถือได้ อัดกระจายไม่เคยพังเลย
แต่เปลี่ยนครั้งต่อไปโดน sunoco แน่นอนครับ:coolly-0010:
 

กรุณาปิด โปรแกรมบล๊อกโฆษณา เพราะเราอยู่ได้ด้วยโฆษณาที่ท่านเห็น
Please close the adblock program. Because we can live with the ads you see
กลับ
ยอดนิยม