แต่ปกติรถแก๊สเนี่ย กรองอากาศตัน รถจะไม่ดับนะ แต่แก๊สมันจะหนาขึ้นครับ คือจากเดิมดูดแก๊สพอดี+อากาศพอดี วิ่งพอดี แต่พอไปเป่ากรอง หรือถอดกรองออก หรือเปลี่ยนกรองใหม่ อากาศมันก็เข้าได้มากขึ้น แก๊สมันก็โดนดูดเท่าเดิม นั่นก็คือในทางเดียวกัน ถึงแก๊สจะจ่ายเท่าเดิม แต่ปริมาณอากาศที่เพิ่มขึ้น ส่วนผสมมันก็จะบางนะครับ
อย่างรถแก๊สบางคัน ตอนติดแก๊สเป่ากรอง แล้วก็จูนแบบประหยัด วิ่งแรกๆ ก็เฉยๆ ปกติ
แต่พอวิ่งไปซักพัก กรองเริ่มสกปรก แหม่ มันขับมันส์จริงๆ
เพราะว่าจากเดิม จูนแบบประหยัด มันก็วิ่งแบบพองาม แต่พอกรองเริ่มสกปรก คราวนี้อากาศที่ถูกดูดเข้ามันก็เข้าได้น้อย แต่ว่าแรงดูด(แวคคั่ม)เท่าเดิม คราวนี้ถ้าอากาศมันผ่านจากกรองมายาก คราวนี้แรงดูดจะไปแรงตรงมิกเซอร์ครับ แล้วมันก็จะไปดูดแก๊สเข้าแทนที่อากาศส่วนที่ดูดไม่เข้า แก๊สก็จะหนาขึ้น วิ่งดีขึ้น
แต่ในบางราย ถ้าตอนจูน จูนมาแบบพีค แบบว่าไม่กลัวเปลือง เอาขับมันส์ไว้ก่อน พอกรองตัน แก๊สมันก็ทะลักกันเข้าไปใหญ่ ในรายพวกนี้รถจะตื้อ วิ่งไม่ออก และกินแก๊สครับ
บางราย ถ้าแรกๆ จูนมาหนามาก พอหลังๆ กรองเริ่มสกปรก ตอนเหยียบคันเร่งแรงๆ แรงดูดมาก แก๊สหนาเกินไป รถจะดับเพราะแก๊สหนาจุดระเบิดไม่ติดครับ
แต่อาการนี้มันเหมือนเบาดับเพราะแก๊สบางอากาศมาก มากกว่านะครับ
เพราะถ้ากรองตันแล้วทำไมสับมาน้ำมันแล้วมันปรกติดีอะ ทั้งๆ ที่กรองก็ตัน แุถมมีมิกเซอร์ขวางทางดูดอยู่อีก ถ้าใช้น้ำมัน อาการมันจะยิ่งไปกันใหญ่นะครับผมว่า
แต่ยังไง ก็ลองดูทั้ง 2 วิธีนะครับ เพราะคนที่ตอบก็ไม่ได้อยู่หน้ารถ คงไม่เห็นอาการดีไปกว่าเจ้าของรถ