- กระทู้ ผู้เขียน
- #1
เกิดคดีความ ฟ้องร้อง ต่อศาล
ชายเหี้ยมหาญ ฮึกสยบ ตบผู้หญิง
สอบปากคำ จำเลย เผยความจริง
เหตุผลติง สำนวนต่อ น่าพอใจ
พิจารณา สรุปความ คำถามสุดท้าย
จำเลยชาย ต้องตอบ คำถามใหม่
"คุณเป็นชาย แล้วไปตบ หล่อนทำไม
เหตุผลใด ให้การมา อย่าโมเม"
ชายเหลืออด คู่กรณี เห็นทีหยิ่ง
แล้วให้การ ตามจริง ไม่หันเห
ผมเจอหล่อน ที่ ป้าย จอดรถเมล์
ยืนหน้าเบ้ บุญไม่รับ อับประมาณ
ขึ้นรถเมล์ คันเดียวกัน มันงี่เง่า
พอกระเป๋า เขามาเก็บ ค่าโดยสาร
เธอสำแดง เดชบอก ออกอาการ
สุดทนทาน นั่งข้างเธอ ผมเผลอไป
เธอเปิดกระเป๋าใหญ่ แล้วหยิบ กระเป๋าเล็ก
เปิดกระเป๋าเล็ก แล้วปิด กระเป๋าใหญ่
หยิบแบ้งค์ จากกระเป๋าเล็ก ในทันใด
แล้วเปิด กระเป๋าใหญ่ ในทันที
เธอปิดกระเป๋าเล็ก แล้วใส่ลง กระเป๋าใหญ่
ส่งเงินให้ เด็กกระเป๋า ขมันขมี
พลางปิด กระเป๋าใหญ่ ไม่รอรี
ครั้นรับตั๋ว ทันที เธอฉับไว
เปิดกระเป๋าใหญ่ แล้วหยิบ กระเป๋าเล็ก
เปิดกระเป๋าเล็ก แล้วปิด กระเป๋าใหญ่
เอาตั๋วใส่ กระเป๋าเล็ก อย่างเร็วไว
แล้วเธอเปิด กระเป๋าใหญ่ ไม่รอช้า
ปิดกระเป๋าเล็ก แล้วใส่ลง กระเป๋าใหญ่
แล้วก็ปิด กระเป๋าใหญ่ อย่างแน่นหนา
รับตังค์ทอน จากกระเป๋า แล้วกานดา
เปิดกระเป๋าใหญ่ แล้วหยิบหา กระเป๋าเล็ก
เปิดกระเป๋าเล็ก แล้วปิด กระเป๋าใหญ่
ตังค์ทอนใส่ กระเป๋าเล็ก แล้วปิดเหง็ก
หยิบกระเป๋าใหญ่ แล้วเปิดใส่ กระเป๋าเล็ก
ปิดกระเป๋าใหญ่ แล้วตรวจเช็ค เหมือนเช่นเคย
ครั้นนายตรวจ ขึ้นมา หาช้าไม่
เธอเปิดกระเป๋าใหญ่ หยิบกระเป๋าเล็ก หน้าตาเฉย
ปิดกระเป๋าใหญ่ เปิดกระเป๋าเล็ก ไม่ช้าเลย
หยิบตั๋วเผย ให้นายตรวจ ได้ครวจตรา
แล้วปิดกระเป๋าเล็ก ก่อนเปิด กระเป๋าใหญ่
เปิดกระเป๋าเล็ก แล้วปิด กระเป๋าใหญ่
เอาตั๋วใส่ กระเป๋าเล็ก แล้วปิดไว
เปิดกระเป๋าใหญ่ ใบเล็กใส่ จนเนียนัว
ตุลาการ นั่งฟังความ ตามคดี
บอกหยุดที ฟังแล้ว น่าเวียนหัว
กระเป๋าเล็ก กระเป๋าใหญ่ ดูพันพัว
น่าเวียนหัว พัลวัน พอกันที
จำเลยชาย ได้จังหวะ จึงฉะฉาน
ข้าแต่ศาล ที่เคารพ คิดดูที
ท่านเพียงฟัง ยังเวียนหัว ถึงเพียงนี้
แล้วผมนี่ นั่งข้างหล่อน จะทนไย
ตุลาการ พินิจผล ถึงต้นเหตุ
พิจารณาพิเศษ เห็นสมควร จะตบได้
จึงยกฟ้อง ปลดปล่อย จำเลยไป
กระเป๋าเล็ก กระเป๋าใหญ่ พอกันที
ชายเหี้ยมหาญ ฮึกสยบ ตบผู้หญิง
สอบปากคำ จำเลย เผยความจริง
เหตุผลติง สำนวนต่อ น่าพอใจ
พิจารณา สรุปความ คำถามสุดท้าย
จำเลยชาย ต้องตอบ คำถามใหม่
"คุณเป็นชาย แล้วไปตบ หล่อนทำไม
เหตุผลใด ให้การมา อย่าโมเม"
ชายเหลืออด คู่กรณี เห็นทีหยิ่ง
แล้วให้การ ตามจริง ไม่หันเห
ผมเจอหล่อน ที่ ป้าย จอดรถเมล์
ยืนหน้าเบ้ บุญไม่รับ อับประมาณ
ขึ้นรถเมล์ คันเดียวกัน มันงี่เง่า
พอกระเป๋า เขามาเก็บ ค่าโดยสาร
เธอสำแดง เดชบอก ออกอาการ
สุดทนทาน นั่งข้างเธอ ผมเผลอไป
เธอเปิดกระเป๋าใหญ่ แล้วหยิบ กระเป๋าเล็ก
เปิดกระเป๋าเล็ก แล้วปิด กระเป๋าใหญ่
หยิบแบ้งค์ จากกระเป๋าเล็ก ในทันใด
แล้วเปิด กระเป๋าใหญ่ ในทันที
เธอปิดกระเป๋าเล็ก แล้วใส่ลง กระเป๋าใหญ่
ส่งเงินให้ เด็กกระเป๋า ขมันขมี
พลางปิด กระเป๋าใหญ่ ไม่รอรี
ครั้นรับตั๋ว ทันที เธอฉับไว
เปิดกระเป๋าใหญ่ แล้วหยิบ กระเป๋าเล็ก
เปิดกระเป๋าเล็ก แล้วปิด กระเป๋าใหญ่
เอาตั๋วใส่ กระเป๋าเล็ก อย่างเร็วไว
แล้วเธอเปิด กระเป๋าใหญ่ ไม่รอช้า
ปิดกระเป๋าเล็ก แล้วใส่ลง กระเป๋าใหญ่
แล้วก็ปิด กระเป๋าใหญ่ อย่างแน่นหนา
รับตังค์ทอน จากกระเป๋า แล้วกานดา
เปิดกระเป๋าใหญ่ แล้วหยิบหา กระเป๋าเล็ก
เปิดกระเป๋าเล็ก แล้วปิด กระเป๋าใหญ่
ตังค์ทอนใส่ กระเป๋าเล็ก แล้วปิดเหง็ก
หยิบกระเป๋าใหญ่ แล้วเปิดใส่ กระเป๋าเล็ก
ปิดกระเป๋าใหญ่ แล้วตรวจเช็ค เหมือนเช่นเคย
ครั้นนายตรวจ ขึ้นมา หาช้าไม่
เธอเปิดกระเป๋าใหญ่ หยิบกระเป๋าเล็ก หน้าตาเฉย
ปิดกระเป๋าใหญ่ เปิดกระเป๋าเล็ก ไม่ช้าเลย
หยิบตั๋วเผย ให้นายตรวจ ได้ครวจตรา
แล้วปิดกระเป๋าเล็ก ก่อนเปิด กระเป๋าใหญ่
เปิดกระเป๋าเล็ก แล้วปิด กระเป๋าใหญ่
เอาตั๋วใส่ กระเป๋าเล็ก แล้วปิดไว
เปิดกระเป๋าใหญ่ ใบเล็กใส่ จนเนียนัว
ตุลาการ นั่งฟังความ ตามคดี
บอกหยุดที ฟังแล้ว น่าเวียนหัว
กระเป๋าเล็ก กระเป๋าใหญ่ ดูพันพัว
น่าเวียนหัว พัลวัน พอกันที
จำเลยชาย ได้จังหวะ จึงฉะฉาน
ข้าแต่ศาล ที่เคารพ คิดดูที
ท่านเพียงฟัง ยังเวียนหัว ถึงเพียงนี้
แล้วผมนี่ นั่งข้างหล่อน จะทนไย
ตุลาการ พินิจผล ถึงต้นเหตุ
พิจารณาพิเศษ เห็นสมควร จะตบได้
จึงยกฟ้อง ปลดปล่อย จำเลยไป
กระเป๋าเล็ก กระเป๋าใหญ่ พอกันที