• สวัสดีครับชาวโลมาสีฟ้า cefiro-thailand.com

    เว็บไซต์แห่งนี้เราเปิดให้ใช้งานกับฟรีๆ สามารถโพสต์อัพเดทสถานการณ์ต่างๆข่าวสารบ้านเมืองและข่าวสารของกลุ่ม cefiro-thailand.com ได้เต็มที่เลยนะครับขอแค่ไม่เป็นการปั่นกระทู้หรือโฆษณาอะไรที่มันล่อแหลมจนเกินไป
    เว็บไซต์ไม่ต้องเสียค่าสมัครใดใดทั้งสิ้นมีข้อเสนอแนะอะไรสามารถแนะนำเข้ามาได้ครับยินดีปรับแต่งและแก้ไขถ้าสามารถทำได้

    กฎระเบียบของเราก็ไม่มีอะไรมากท่านสามารถใช้งานได้เต็มที่

อยากรู้ว่า เปิดแอร์ทิ้งไว้ แล้วสตาร์ทรถ จะเป็นไรมั้ยครับ

  • ผู้เริ่มหัวข้อ ผู้เริ่มหัวข้อ A31233
  • วันที่เริ่มต้น วันที่เริ่มต้น

กรุณาปิด โปรแกรมบล๊อกโฆษณา เพราะเราอยู่ได้ด้วยโฆษณาที่ท่านเห็น
Please close the adblock program. Because we can live with the ads you see

A31233

สมาชิกชมรมเซฟิโร่-ไทยแลนด์
Cefiro-Thailand Members
เข้าร่วม
22 มิถุนายน 2007
ข้อความ
257
  • กระทู้ ผู้เขียน
  • #1
พอดีมีสตาร์ทรีโมทอ่ะคับ เวลาร้อนๆ ก็อยากกดสตาร์ทเปิดแอร์สักพักก่อนขึ้นรถ ทำโดยต้องเปิดสวิตแอร์ทิ้งไว้ แต่ก็เห็นบางคนก็บอกว่าไม่ดี แต่บางคนก็บอกไม่เป็นไร เลยอยากรู้ว่าจริงๆ แล้วมันดีหรือไม่ดีอย่างไรครับ กับการเปิดสวิตแอร์ทิ้งไว้ขณะสตาร์ทรถ

ขอบคุณครับ :coolly-0008:
 


ผมก็เปิดทิ้งใว้ ไม่เห็นมันจะเป็นอะไร
 
จขกท
หมายถึงการกดปุ่ม AC ค้างไว้เลยใช่ไหมครับ

คือแบบตามปรกติ
กรณีหน้าจอแอร์ธรรมดาไม่ไใช่แบบ Digital
ก่อนจะดับรถเราๆจะกดปิด AC ก่อน จากนั้นก็ปิดพัดลมแล้วค่อยดับเครื่อง
พอจะใช้รถก็Start รถก่อน เปิดพัดลม แล้วกด AC ตามอ่ะครับ

งงไม๊ ผมยังงงตัวเองเลย 555
 
ผมก็ทำแบบอั้มนะ ทั้งก่อนสตาร์ทแล้วก็ก่อนดับ ทำจนเป็นนิสัยไปแล้ว
แต่ถ้าแบบ จขกท ว่ามา
ณ วินาทีที่สตาร์ทเนี่ย ถ้าเครื่องยนต์หรือไดชาร์ท ไดสตาร์ท คอมแอร์ ระบบไฟ...อุปกรณ์พวกนี้ ถ้ามั่นใจว่าสมบูรณ์ก็ทำได้ครับ ...

ส่วนวินาทีก่อนทีจะดับรถเนี่ย หลังจากกดAC ปิดแล้ว ยังเปิดพัดลมให้ทำงานไว้ก่อน จะช่วยละลายน้ำแข็งได้บางส่วนนะ

วิธีตามที่ จขกท บอกมา
...ผมว่ามันโหลดเกินไป น่าจะทำตามขั้นตอนดีกว่า
มันเหมือน เวลาเราทำอะไรหลายอย่างพร้อมกันอะครับ มันเหนื่อยนะ
เสียเวลาสักนิดน่าจะดีกว่า ช่วยยืดอายุอุปกรณ์ต่างๆได้เยอะครับ


ยังไงก็รอท่านอื่นมาเสริมได้ครับ
 
แก้ไขล่าสุด:
ของผมต่อระบบแอร แบบว่าถ้าเครื่องยังไม่ติด ก็เปิดแอร์ไม่ติด

รึว่าเป็นแบบนี้ทุกคันก็ไม่แน่ใจนะ ผมเลยเปิดแอร์ทิ้งใว้ เวลาจอดรถตากแดด

ปรกติเวลาอยู่ที่ ม. จะตั้งเวลาทามเมอร์ให้สตาทเครื่องเอาใว้ เพราะเลิกเรียนตรงเวลา

พอลงมา ที่รถก็ แอรเย็นไม่ร้อน
 
  • กระทู้ ผู้เขียน
  • #6
จขกท
หมายถึงการกดปุ่ม AC ค้างไว้เลยใช่ไหมครับ

คือแบบตามปรกติ
กรณีหน้าจอแอร์ธรรมดาไม่ไใช่แบบ Digital
ก่อนจะดับรถเราๆจะกดปิด AC ก่อน จากนั้นก็ปิดพัดลมแล้วค่อยดับเครื่อง
พอจะใช้รถก็Start รถก่อน เปิดพัดลม แล้วกด AC ตามอ่ะครับ

งงไม๊ ผมยังงงตัวเองเลย 555

ผมก็ทำแบบอั้มนะ ทั้งก่อนสตาร์ทแล้วก็ก่อนดับ ทำจนเป็นนิสัยไปแล้ว
แต่ถ้าแบบ จขกท ว่ามา
ณ วินาทีที่สตาร์ทเนี่ย ถ้าเครื่องยนต์หรือไดชาร์ท ไดสตาร์ท คอมแอร์ ระบบไฟ...อุปกรณ์พวกนี้ ถ้ามั่นใจว่าสมบูรณ์ก็ทำได้ครับ ...
ส่วนวินาทีก่อนทีจะดับรถเนี่ย หลังจากกดAC ปิดแล้ว ยังเปิดพัดลมให้ทำงานไว้ก่อน จะช่วยละลายน้ำแข็งได้บางส่วนนะ

วิธีตามที่ จขกท บอกมา...ผมว่ามันโหลดเกินไป น่าจะทำตามขั้นตอนดีกว่า
มันเหมือน เวลาเราทำอะไรหลายอย่างพร้อมกันอะครับ มันเหนื่อยนะ
เสียเวลาสักนิดน่าจะดีกว่า ช่วยยืดอายุอุปกรณ์ต่างๆได้เยอะครับ

ยังไงก็รอท่านอื่นมาเสริมได้ครับ

ผมไม่เคยปิด AC อย่างว่าเลย ปกติก็ปิดสวิตแอร์ไปเลย เวลาเปิดก็เปิดสวิตแอร์อย่างเดียว ไม่ได้ไปยุ่งอะไรก็ AC อ่ะคับ ก็คงเหมือนหลายๆ คนละมั้ง
เวลาผมเอารถไปซ่อมที่อู่ เวลาช่างเค้าสตาร์ทรถเค้าก็ไม่ได้ปิดสวิตแอร์นะ (สวิตเปิด-ปิดแอร์เลยนะ ไม่ใช่ AC) แบบว่าสตาร์ทแอร์ติด เวลาดับก็ไม่ปิดแอร์ มันไม่มีผลเสีย หรือเค้าไม่ได้สนใจว่าจะเสียรึป่าว :coolly-0043:

ของผมต่อระบบแอร แบบว่าถ้าเครื่องยังไม่ติด ก็เปิดแอร์ไม่ติด

รึว่าเป็นแบบนี้ทุกคันก็ไม่แน่ใจนะ ผมเลยเปิดแอร์ทิ้งใว้ เวลาจอดรถตากแดด

ปรกติเวลาอยู่ที่ ม. จะตั้งเวลาทามเมอร์ให้สตาทเครื่องเอาใว้ เพราะเลิกเรียนตรงเวลา

พอลงมา ที่รถก็ แอรเย็นไม่ร้อน
คือปกติ รถผมคอมเพรสเซอร์มันก็ไม่ทำงานเหมือนกันถ้าไม่สตาร์ทรถ แต่ถ้าบิดกุญแจไปที่ ON พัดลมแอร์(ในห้องผู้โดยสาร)มันก็ติด แต่คอมไม่ทำงานจนกว่าจะสตาร์ทเครื่องติด

แต่สตาร์ทแบบเปิดแอร์มานานแล้วใช่มั้ย แล้วไม่มีปัญหาใช่มั้ย
 
ผมไม่เคยปิด AC อย่างว่าเลย ปกติก็ปิดสวิตแอร์ไปเลย เวลาเปิดก็เปิดสวิตแอร์อย่างเดียว ไม่ได้ไปยุ่งอะไรก็ AC อ่ะคับ ก็คงเหมือนหลายๆ คนละมั้ง
เวลาผมเอารถไปซ่อมที่อู่ เวลาช่างเค้าสตาร์ทรถเค้าก็ไม่ได้ปิดสวิตแอร์นะ (สวิตเปิด-ปิดแอร์เลยนะ ไม่ใช่ AC) แบบว่าสตาร์ทแอร์ติด เวลาดับก็ไม่ปิดแอร์ มันไม่มีผลเสีย หรือเค้าไม่ได้สนใจว่าจะเสียรึป่าว :coolly-0043:


คือปกติ รถผมคอมเพรสเซอร์มันก็ไม่ทำงานเหมือนกันถ้าไม่สตาร์ทรถ แต่ถ้าบิดกุญแจไปที่ ON พัดลมแอร์(ในห้องผู้โดยสาร)มันก็ติด แต่คอมไม่ทำงานจนกว่าจะสตาร์ทเครื่องติด

แต่สตาร์ทแบบเปิดแอร์มานานแล้วใช่มั้ย แล้วไม่มีปัญหาใช่มั้ย

คิดอยู่ว่าจะตอบดีมั๊ย เพราะมันต้องพิมพ์ยาวเลย หุ หุ หุ

1. การปิดสวิทช์ AC ก่อนดับเครื่องจะช่วยยืดอายุการใช้งานของคอยล์เย็นครับ
ถามว่าไม่ปิด AC ก่อนดับเครื่องได้มั๊ย ตอบว่าได้ครับแต่ อายุการใช้งานก็จะสั้นลงเมื่อเทียบกับการทำแบบด้านบน
ส่วนเวลาเปิดก็สามารถเปิดได้เลย ไม่เหมือนตอนปิดครับ อันนี้แล้วแต่เทคนิคของแต่ละคน ไม่ผิดครับ

2. ช่างเค้าทำอย่างนั้นเพราะไม่ใช่รถเค้าน่ะครับ 555+ แต่ด้วยที่เค้าคิดว่าเค้าทำไม่บ่อย แค่ช่วงเข้ามาซ่อม ผลข้างเคียงคงไม่มีอะไร สรุปเค้าไม่สนใจน่ะครับ

3. การสตาร์ทเครื่องแบบเปิดสวิทช์ให้แอร์ทำงานค้างไว้ จะทำให้อายุการใช้งานของคอมแอร์สั้นลงกว่าปกติครับ เพราะหน้าครัชจะสึกหรอเร็วกว่าที่ควรจะเป็น เนื่องจากจะมีโหลดภาระจากการรับแรงกระชากขณะสตาร์ท เพราะเวลา on สวิทช์ AC หน้าครัชคอมแอร์จะถูกดูดเข้าไปทันที แต่....เวลาเราบิดสวิทช์ไปตำแหน่ง ignition ระบบไฟต่างๆจะถูกตัดออก (สังเกตเวลาคุณเปิดวิทยุค้างไว้ ไฟที่จ่ายไปวิทยุจะหายไปตอนบิด ignition) รวมถึงครัชคอมแอร์ด้วย เสี้ยววินาทีที่บิดสวิทช์กลับคืนมาตำแหน่ง on เหมือนเดิม ครัชก็จะกลับมาต่ออีก ซึ่งตอนนั้นรอบเครื่องยังมีแรงบิดที่ยังไม่เสถียรอยู่ หรือถ้ามีการสตาร์ทหลายครั้งกว่าเครื่องจะติด ก็คิดดูว่าครัชจะวิ่งเข้า-ออก เข้า-ออก กี่ครั้งด้วยแรงบิดที่มากกว่าปกติ ถ้าครัชยังใหม่อยู่ สภาพดีก็ยังไม่เห็นผลอะไร แต่ถ้าสภาพส่อแล้วว่าจะไป จะเห็นผลได้เร็วกว่าครับ

การ off สวิทช์แอร์ก่อนสตาร์ทเป็นการลดโหลดทางด้านการจ่ายไฟของแบตเตอรี่นะครับ เพราะขณะที่เรา on ไฟจะวิ่งไปเลี้ยงครัชด้วย และก็พัดลมแอร์ทั้งฝั่งคอยล์ร้อน คอล์ยเย็น(กรณีถ้า on ไว้) ถ้าแบตไม่ดี ไม่แรง ก็จะทำให้ไฟไปเลี้ยงไดสตาร์ทไม่พอ ทำให้สตาร์ทยาก

วกกลับมาที่คำถาม ถามว่าทำได้มั๊ย ตอบว่าทำได้ แต่ไม่ควรทำครับ
 
ผมไม่เคยปิด AC อย่างว่าเลย ปกติก็ปิดสวิตแอร์ไปเลย เวลาเปิดก็เปิดสวิตแอร์อย่างเดียว ไม่ได้ไปยุ่งอะไรก็ AC อ่ะคับ ก็คงเหมือนหลายๆ คนละมั้ง
เวลาผมเอารถไปซ่อมที่อู่ เวลาช่างเค้าสตาร์ทรถเค้าก็ไม่ได้ปิดสวิตแอร์นะ (สวิตเปิด-ปิดแอร์เลยนะ ไม่ใช่ AC) แบบว่าสตาร์ทแอร์ติด เวลาดับก็ไม่ปิดแอร์ มันไม่มีผลเสีย หรือเค้าไม่ได้สนใจว่าจะเสียรึป่าว :coolly-0043:

ลองหาคู่มือเซฟิโร่อ่านก็ได้ครับ มีวิธีการใช้เครื่องปรับอากาศอยู่อย่างชัดเจน หรือหาโหลดเอาตามอินเตอร์เนทก็ได้ :coolly-0046:
ส่วนช่างที่เค้าทำแบบนั้น ผมคิดอยู่สองอย่าง
1.คือเค้าไม่สนใจว่าจะเสียรึป่าว
2.เป็นการเพิ่มภาระโหลดให้แอร์ทำงานเต็มที่ ประมาณว่าหนักไว้ก่อน เพื่อจะได้ดูอาการอย่างอื่นควบคู่ไปด้วย
เช่นเพิ่ม-ลดอุณหภูมิกะทันหัน ปรับลดไปลดมา แล้วระบบมันตอบสนองได้ดีมากน้อยแค่ไหน

ปล. อ้าวพี่เหวกมากดตอบก่อนแล้ว 555+

 
ของผมต่อระบบแอร แบบว่าถ้าเครื่องยังไม่ติด ก็เปิดแอร์ไม่ติด

รึว่าเป็นแบบนี้ทุกคันก็ไม่แน่ใจนะ ผมเลยเปิดแอร์ทิ้งใว้ เวลาจอดรถตากแดด

ปรกติเวลาอยู่ที่ ม. จะตั้งเวลาทามเมอร์ให้สตาทเครื่องเอาใว้ เพราะเลิกเรียนตรงเวลา

พอลงมา ที่รถก็ แอรเย็นไม่ร้อน

ไม่กลัวลงมาแล้วไม่เจอเหรอเสียวแทนเลย
 
ผมก็ทำแบบอั้มนะ ทั้งก่อนสตาร์ทแล้วก็ก่อนดับ ทำจนเป็นนิสัยไปแล้ว
แต่ถ้าแบบ จขกท ว่ามา
ณ วินาทีที่สตาร์ทเนี่ย ถ้าเครื่องยนต์หรือไดชาร์ท ไดสตาร์ท คอมแอร์ ระบบไฟ...อุปกรณ์พวกนี้ ถ้ามั่นใจว่าสมบูรณ์ก็ทำได้ครับ ...
ส่วนวินาทีก่อนทีจะดับรถเนี่ย หลังจากกดAC ปิดแล้ว ยังเปิดพัดลมให้ทำงานไว้ก่อน จะช่วยละลายน้ำแข็งได้บางส่วนนะ

วิธีตามที่ จขกท บอกมา...ผมว่ามันโหลดเกินไป น่าจะทำตามขั้นตอนดีกว่า
มันเหมือน เวลาเราทำอะไรหลายอย่างพร้อมกันอะครับ มันเหนื่อยนะ
เสียเวลาสักนิดน่าจะดีกว่า ช่วยยืดอายุอุปกรณ์ต่างๆได้เยอะครับ

ยังไงก็รอท่านอื่นมาเสริมได้ครับ


ผมก็ทำแบบนี้ครับ....
 
อย่าเปิดเครื่องปรับอากาศ (แอร์) ทันทีที่คุณขึ้นรถ!

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณจอดรถตากแดดไว้ ให้เปิดหน้าต่างหลังจากขึ้นรถ และอย่าเปิดแอร์ทันที ตามผลการวิจัย แผงหน้าปัทม์ (คอนโซล) เบาะที่นั่ง และน้ำหอมปรับอากาศ จะสร้างสารเบนซีน ที่เป็นสารก่อมะเร็งขึ้น (อย่างที่คุณได้กลิ่นเหมือนพลาสติคจาง ๆ ในรถ "โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รถใหม่" : ผู้แปล)
นอกจากเป็นสาเหตุให้เป็นมะเร็งแล้ว สารดังกล่าวยังเป็นพิษต่อกระดูก ทำให้เกิดโรคโลหิตจาง และลดจำนวนเม็ดเลือดขาว ซึ่งในระยะยาวอาจทำให้เป็นโรคลูคีเมีย และอาจเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์มารดาได้
ระดับของสารเบนซีนที่ยอมรับได้ในอาคาร / ในรถ คือ 50 มิลลิกรัม ต่อ ตา รางฟุต แต่ระดับของสารเบนซีนในรถที่จอดอยู่ในร่มมีค่าอยู่ที่ 400 - 800 มิลลิกรัม หากรถจอดอยู่กลางแจ้งที่มีอุณหภูมิสูงเกินกว่า 60 องศาฟาร์เรนไฮท์ (15.5 องศาเซลเซียส"ในเมืองไทยจอดในร่มอุณหภูมิก็สูงเกินแล้ว" : ผู้แปล) ระดับของสารเบนซีนจะสูงขึ้นถึง 2000 -4000 มิลลิกรัม คือสูงกว่าระดับที่ยอมรับได้ถึง 40 เท่า คนที่อยู่ในรถจะหายใจเอาสารพิษที่สูงเกินมาตรฐานดังกล่าวเข้าไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ดังนั้นจึงขอแนะนำว่าให้คุณเปิดประตู หน้าต่างรถ ไว้สักระยะเพื่อให้อากาศที่อยู่ในตัวรถออกมาก่อนจะเข้าไปนั่ง สารพิษที่ร่างกายคุณไม่สามารถขับออกได้โดยง่าย ซึ่งส่งผลร้ายต่อ ตับ ไต ไส้ พุง ("สองอันหลังเพิ่มเอง" : ผู้แปล) จะได้ลดปริมาณลง


อีกอัน

การสตาร์ทเครื่องยนต์ที่ (อาจจะ) ถูกวิธี
ไม่ใช่สิ่งที่ยุ่งยากอะไร หากแต่เป็นการทำให้เป็นนิสัยเพื่อถนอมรถ
ถนอมอุปกรณ์หลาย ๆ อย่าง โดย ...

1. ปลดเกียร์ว่าง เหยียบคลัตช์ให้สุด เพื่อเป็นการตัดภาระที่เครื่องยนต์จะส่งไปที่ชุดคลัตช์ ชุดเกียร์
ถึงจะอยู่ในตำแหน่งเกียร์ว่าง ก็ตาม เพราะอย่างน้อย ลูกปืนชุดคลัตช์เป็นตัวแรกที่รับภาระแรงบิดจากเครื่องยนต์
ในจังหวะเริ่มหมุนทำให้ยืดอายุการใช้งาน และเป็นการ Safety ด้วยเพราะอาจเกิดอาการ ปลอกเลื่อนเกียร์ค้าง
หรือชุดคลัตช์มีปัญหาไม่ยอมจาก ซึ่งเกิดขึ้นได้น้อยคัน แต่หากเกิดขึ้นแล้ว อันตรายครับ

2. ปิดอุปกรณ์ตัวอื่น หากเปิดค้างไว้ เช่น แอร์ วิทยุ ไฟหน้า ไฟส่องสว่างต่าง ๆ
เพื่อถนอมแบตเตอรี่ คอมฯแอร์ ชุดรีเลย์ไฟฟ้าต่างๆ เพราะเมื่อสตาร์ทเครื่องยนต์ เราต้องการกำลังไฟฟ้าจากแบตเตอรี่
มาใช้ในการสตาร์ทเต็มที่ หากแบตฯยังดีอยู่ก็ยังไม่เท่าไร แต่ถ้าไม่ทำเช่นนี้นานๆเข้า แบตฯก็จะเสื่อมเร็วครับ....
ส่วนคอมแอร์นี่ก็ตัวสำคัญครับ หากเราไม่ปิดแอร์ คลัตช์คอมแอร์ยังจับอยู่ จะไปเพิ่มภาระให้เครื่องยนต์ในตอนสตาร์ท
และ คลัตช์ของคอมแอร์ ลูกปืนต่างๆก็จะไปไวเช่นกันครับ....

3. บิดกุญแจไปที่ตำแหน่ง ON ดูแผงหน้าปัทม์ รอให้ไฟ Check Engine ซึ่งจะติดสักครู่แล้วดับ
แสดงว่ากล่อง ECU ได้พร้อมทำงานเป็นปกติ หากไฟไม่ดับแสดงว่ามีระบบบางอย่างผิดพลาดอยู่
และหากเป็นรถที่มีถุงลมนิรภัยและเบรค ABS ควรรอให้สัญญาณไฟของระบบทั้งสองดับเสียก่อน
เพื่อแสดงว่า ระบบเบรค และถุงลมพร้อมทำงานเป็นปกติเช่นกันครับ

4. เมื่อพร้อมแล้วบิดกุณแจสตาร์ทจนกระทั่งเครื่องยนต์ติด
แต่หากบิดแช่ไว้ประมาณ 4-5 วินาทีแล้วเครื่องยนต์ยังไม่ติด อย่าฝืนแช่ไว้
ให้ปล่อยกุญแจ แล้วรอสัก 4-5 วินาทีเช่นกันแล้วลองใหม่ หากเกินสามสี่ครั้งเครื่องยนต์ยังไม่ติดก็ไปหาช่างเลยครับ
ทั้งนี้เพื่อป้องกันมอเตอร์สตาร์ทไหม้ หากเราบิดกุญแจแช่นานตอนสตาร์ท

5. เมื่อเครื่องยนต์ติด ไม่ต้องเหยียบคันเร่ง ปล่อยกุญแจ เหยียบคลัตช์ไว้สักครู่ประมาณ 4-5 วินาที
แล้วยกคลัตช์ขึ้นช้าๆ เพื่อถนอมลูกปืนคลัตช์ และเพื่อแน่ใจว่าเกียร์ไม่ค้าง ไม่ควรปล่อยคลัตช์ทันที
เพราะจะเปรียบเทียบเครื่องยนต์เริ่มติด ก็เหมือนคนเพิ่งตื่นนอน ควรให้รอบเครื่องยนต์หมุน
โดยปราศจากภาระจนรอบเครื่องยนต์เดินเรียบเสียก่อน ECU ของรถ จะสั่งการรอบเดินเบาเอง
โดยคำนวณจากเซ็นเซอร์ต่างๆ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง กรณีสตาร์ทในตอนเครื่องเย็น

6. ไม่ควรออกรถหรือเร่งเครื่องยนต์ทันที เมื่อติดเครื่องยนต์ใหม่ๆ อย่างน้อยประมาณ 10-15 วินาที
เพื่อให้แน่ใจว่า รอบเครื่องยนต์ ระบบไฟฟ้าต่าง ๆ ทำงานปกติ น้ำมันเครื่องยนต์ไปหล่อเลี้ยงส่วนต่างๆ ได้สมบูรณ์
โดยเฉพาะอย่างยิ่งแกนเทอร์โบชาร์จ (สำหรับรถยนต์ที่มีการติดตั้งเทอร์โบ) สักพักจึงค่อยเปิดแอร์ หรือวิทยุครับ

7.หากเครื่องยนต์เย็น (มาก) ควรอุ่นเครื่องยนต์เสียก่อนโดยเดินเบาทิ้งไว้อย่างน้อย 5-10 นาที
แต่ไม่ควรเกิน 30 นาที เพราะจะสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ

8.เมื่อจะออกรถในขณะที่อุณภูมิความร้อนของเครื่องยนต์ยังไม่เต็มที่
(เกจ์วัดอุณภูมิน้ำหล่อเย็นบนแผงหน้าปัทม์ยังไม่ได้ระดับกึ่งกลางระหว่างแถบ C และ H) ควรขับแบบค่อย ๆ
เป็นค่อยไปออกรถนิ่ม ๆ อย่าเพิ่งลากรอบเครื่องยนต์สูงมาก ค่อย ๆ เพิ่มความเร็วช้า ๆ
จนกระทั่งอุณหภูมิน้ำหล่อเย็นของเครื่องยนต์ได้ระดับ และถึงแม้ว่าออกรถตอนที่เครื่องยนต์ร้อนอยู่
ก็อย่าเพิ่งจมคันเร่งซะมิดหรือออกรถพรวดพราดก็แล้วกันครับ ทั้งไม่ถนอมเครื่องยนต์แล้วยังอันตรายอีกด้วย....

เมื่อจะดับเครื่องยนต์ ...
1.เมื่อจอดรถในที่ๆปลอดภัยแล้ว หรือแวะปั๊ม ซื้อของ หากเราขับทางไกลด้วยความเร็วสูงหรือใช้รอบเครื่องยนต์สูง
เช่น ขึ้นเขามาเป็นเวลาพอสมควร อย่าเพิ่งรีบดับเครื่องยนต์ ควรปล่อยให้เครื่องยนต์เดินเบาอย่างน้อย 1-3 นาที
แล้วแต่ว่าเราจะซัดมาขนาดไหน (หากมีรถที่มี Turbo Timer ที่คำนวณอุณหภูมิของเครื่องยนต์และมีโหมด Auto ก็จะสะดวกมาก)
ทั้งนี้เพื่อถนอมแกนเทอร์โบชาร์จที่ยังหมุนด้วยความเร็วสูงมากอยู่ให้หมุนเฉื่อยลงจนปกติ
และให้น้ำมันเครื่องไปทำการระบายความร้อนแกนเทอร์โบชาร์จ และชิ้นส่วนต่างๆของเครื่องยนต์ด้วย
ดังนั้นทั้งเครื่องยนต์ทั้งเทอร์โบก็จะมีอายุยืนยาวขึ้นครับ สำหรับรถที่ไม่มีเทอร์โบชาร์จ ก็ควรเดินเบาไว้สักครู่เช่นกันครับตามเหตุผลที่บอก

2. เมื่อจะบิดกุญแจดับเครื่องยนต์ อย่ากดคันเร่ง หรือเบิ้ลเครื่อง ตามความเชื่อผิด ๆ
ที่ว่าเพื่อให้น้ำมันเครื่องดันขึ้นไปแช่อยู่ตามชิ้นส่วนต่าง เพื่อหล่อลื่นในการสตาร์ทครั้งต่อไป อันที่จริงแล้วเมื่อเราดับเครื่องยนต์
น้ำมันหล่อลื่นที่ค้างอยุ่ในส่วนต่างๆจะค่อยไหลกลับลงมาที่อ่างน้ำมันเครื่องเอง และชิ้นส่วนต่าง ๆ ก็จะมีฟิล์มบาง ๆ ของน้ำมันเครื่องไปเคลือบอยู่แล้ว
อีกทั้งในกรณีของเครื่องยนต์ที่มีระบบเทอร์โบชาร์จ การเบิ้ลเครื่องก่อนดับ ก็จะส่งผลเสียต่อแกน และกังหันของเทอร์โบ
เพราะเมื่อเร่งเครื่อง แกนก็จะหมุนเร็วตามแรงของไอเสียที่เครื่องยนต์ขับ และจากเหตุผลในข้อแรกก่อนหน้านี้
เราจึงควรปล่อยให้แกนเทอร์โบมันหมุนเฉื่อยสักพักก่อนแล้วจึงดับครับ

3. ปิดคอมแอร์และพัดลม ตลอดจนระบบไฟฟ้าต่างๆก่อน และควรจะเหยียบคลัตช์เมื่อดับเครื่องหากทำได้เพื่อถนอมลูกปืนคลัตช์อีกเช่นกัน

4. หากต้องจอดรถบนทางชันและต้องใส่เกียร์ค้างไว้ ควรหาไม้หรืออุปกรณ์หนุนล้อไว้ หากมีล็อคคลัตช์ก็ควรใส่เพื่อป้องกันการโจรกรรม
และยังป้องกันเด็กไปเล่นเผลอเหยียบคลัตช์โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์อีกด้วย และเมื่อจะกลับมาสตาร์ทรถก็ให้ตรวจสอบคันเกียร์
และเหยียบคลัตช์ทุกครั้งเมื่อสตาร์ทเช่นเดิม

5.ไม่ควรจะเสียบลูกกุญแจทิ้งไว้เมื่อดับเครื่องยนต์แล้ว เพื่อป้องกันเด็กและการโจรกรรม ล็อครถพับเก็บกระจกหากจอดในที่แคบครับ



ไปก๊อบเค้ามา555
 
แก้ไขล่าสุด:
วกกลับมาที่คำถาม ถามว่าทำได้มั๊ย ตอบว่าทำได้ แต่ไม่ควรทำครับ
ผมอ่านมาก้อยาว อยากจะตอบ แต่ก้อตอบแบบเทคนิคไม่เก่ง
เอาเป็นว่าตามคำที่น้าเหวกแกว่าไว้ครับ ทำได้ แต่ไม่ควรทำ
 
  • กระทู้ ผู้เขียน
  • #14
ขอบคุณทุกคนเลยนะคับ สรุปว่าไม่ควรทำ
 
สังเกตไหมว่าระบบแอร์ เซฟิโร่ เดิมๆถ้าไม่มีการดัดแปลงจากการวางเครื่อง ถ้าเครืองไม่ติด หน้าครัชแอร์จะไม่ล๊อก ถึงจะเปิดพัดลมค้างไว้ กดปุ่ม A/C ค้างไว้ด้วยก็ตาม และหากเครื่องติดแล้วมันจะหน่วงเวลาประมาณ 1 วินาที หน้าครัชคอมแอร์ถึงจะล๊อกและหากรอบเครื่องต่ำกว่าปกติแอร์ก็จะตัดมันจะหน่วงเวลาประมาณ 1 วินาทีเช่นกัน ยกเว้นรถปิคอัพบางรุ่นมันจะล๊อกตลอดอีกอย่างหน้าสัมผัสของกุญแจรถทุกคันตามวิสัยแล้ว หากบิดมาที่ start มันจะตัดไฟทุกจุดไปที่ได start
(ส่วนตัวนะครับ) ฉันใดก็ฉันนั้น สูงสุดสู่สามัญ ต่อออฟชั่นมากๆ เวลามันเกเรมันจะพาลวนทั้งระบบนะครับ
 
แก้ไขล่าสุด:

กรุณาปิด โปรแกรมบล๊อกโฆษณา เพราะเราอยู่ได้ด้วยโฆษณาที่ท่านเห็น
Please close the adblock program. Because we can live with the ads you see
กลับ
ยอดนิยม