เจอร์ราร์ดกับเกมนัดที่ 400
<SCRIPT language=JavaScript src="/global_js/global_function.js"></SCRIPT><!--START-->
<CENTER]
</CENTER>
เว็บไซด์ทางการ ของ ลิเวอร์พูล www.liverpoolfc.tv ได้ลงบทความน่าสนใจเอาไว้เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ก่อนหน้าเกมที่ ทีมดังแห่งเมอร์ซี่ย์ไซด์จะลงสนามพบกับ อาร์เซน่อล ที่สนาม แอนฟิลด์
บทความนี้น่าสนใจมาก เพราะเป็นการยกย่องกัปตันทีมคนปัจจุบันของพวกเขาที่มีชื่อว่า
"สตีเว่น จอร์จ เจอร์ราร์ด" นักเตะที่ผลิตผลจากสถาบันลูกหนังของ ลิเวอร์พูล เอง
บทความนี้น่าสนใจมากและเป็นงานเขียนของ พอล ฮัสซอลล์ ซึ่งได้เขียนถึงอะไรมากมายกับเกี่ยวกับ "สตีวี่จี" รวมทั้งการลงเล่นให้กับทีมที่เขาเชียร์มาตั้งแต่เด็กเป็นนัดที่ 400 พอดีในเกมที่พบ อาร์เซน่อล ซึ่งเห็นว่าน่าสนใจเลยลองนำเอามาแปลให้กับผู้อ่านของ sanookได้อ่านกัน ซึ่งจะพยายามคงความเป็นภาษาของเจ้าของบทความและอาจมีการดัดแปลงเล็กน้อยเพื่อความเหมาะสม
เขาคือ เจ้าของเหรียญแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก, ฮีโร่ ในศึกเอฟเอ คัพ และ เป็นหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดในโลกฟุตบอลสมัยใหม่ แต่มันจะไม่มีทางหยุดอยู่เพียงแค่นี้แน่นอนสำหรับนักเตะที่มีชื่อว่า สตีเว่น เจอร์ราร์ด
ไม่น่าเชื่อจากแต่ก่อนที่เป็นกองกลางวัยละอ่อน ที่เข้าสกัดคู่แข่งแบบไม่เกรงกลัวและได้รับใบแดงหลายครั้ง จนกระทั่งมาถึงปัจจุบันเขาคนนั้นจะเป็นกองกลางคนสำคัญของทีมไปในที่สุด
ย้อนความทรงจำของคุณไปเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายนปี 1998
เป็นช่วงท้ายเกมแล้วล่ะในเกมที่เอาชนะ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ไป 2-0 และได้มีเด็กหนุ่มหน้าใสจาก ฮุยตั้น (เมืองเล็กอยู่ทางตะวันออกของ ลิเวอร์พูล) ได้รับโอกาสมายืนประจันหน้าอยู่บนเส้นขอบสนามต่อหน้า "เดอะ ค็อป"
การปรากฎกายของหนุ่มคนนี้ได้เรียกเสียงเชียร์และนำรอยยิ้มมาอยู่บนใบหน้าของแฟนบอลที่ชมอยู่บนอัฒจันทร์อย่างมาก เพราะเขาคนนี้เป็นหนึ่งในผลิตผลแห่งความสำเร็จที่คนหลายพันคนฝันถึงกับการได้ลงเล่นให้กับสโมสรฟุตบอล ลิเวอร์พูล
แต่สิ่งหนึ่งที่แฟนบอลเหล่านั้นอาจจะไม่รู้ความจริงในเวลานั้นก็คือมันเป็นช่วงเวลาที่ได้ให้กำเนิดหนึ่งในสุดยอดนักเตะของลิเวอร์พูลที่ได้เริ่มต้นฉายแววช่วงนั้นก่อนจะขึ้นมาสู่จุดสุดยอดในเกมลูกหนัง
มันอาจจะเป็นการลงสนามเพียงระยะเวลาอันสั้นๆ เพราะเขาลงไปเล่นเป็นตัวสำรองแทนที่ เวการ์ด เฮ็กเก้ม ในนาทีที่ 90 แต่ในช่วงเวลาของการทดเจ็บดังกล่าวนั้น เขาได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและแรงขับดันที่จะได้ฉายแววอาชีพนักเตะของ ลิเวอร์พูล
จากวันนั้นจนถึงวันนี้ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ได้ลงสนามให้กับ ลิเวอร์พูล ไปแล้ว 400 นัดในเกมที่เสมอ อาร์เซน่อล ที่สนาม แอนฟิลด์ เมื่อคืนที่ผ่านมา
มันเป็นหลักไมล์ที่น่าทึ่งสำหรับชายที่ได้รับการยกย่องว่า เป็นหัวใจของทีมตลอด 10 ปีที่ผ่านมา
นับตั้งแต่ที่ได้ลงสนามให้กับทีม ลิเวอร์พูล เป็นนัดแรก เขาคนนี้ได้ยิงประตูไปแล้ว 78 ประตู (รวมเกมล่าสุดที่พบ อาร์เซน่อล เมื่อวันอาทิตย์) และสามารถไปคุยได้ถึงความสามารถกับนักเตะคนอื่นๆในโลกลูกหนัง
นับตั้งแต่ที่เขาเบิกสกอร์แรกให้กับตนเองได้ในฐานะนักเตะ ลิเวอร์พูล นัดที่พบ เชฟฟิลด์ เว้นสเดย์ (ชนะ 4-1) ในการเล่นนัดที่ 25 ให้กับทีมบ้านเกิด มาจนกระทั่งถึงการเป็นแรงบันดาลใจสำหรับการโหม่งประตูให้ทีมไล่ เอซี มิลาน 1-3 (นัดชิง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ปี 2005) ที่นครอิสตันบูล ซึ่งได้ช่วยให้ทีมฟื้นกลับมาเป็นผู้ชนะได้ รวมทั้งการยิง 2 ตุงช่วยให้ทีมไล่ตีเสมอ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 3-3 (ก่อนคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ ปี 2006) นั้น เขาก็ได้พัฒนากลายมาเป็นคนที่เกิดมาเพื่อเป็นพระเอกในจังหวะสำคัญเสมอไปแล้ว
หลังจากที่ได้ลงสนามนัดที่พบ อาร์เซน่อล เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เขาได้กลายเป็นนักเตะคนที่ 26 ในประวัติศาสตร์ที่ได้ลงเล่นเกินหลัก 400 ให้กับทีม ลิเวอร์พูล
<CENTER]
</CENTER>
มันช่างเป็นช่วงเวลาที่น่าภาคภูมิใจและเหมาะสมอย่างยิ่งที่ได้มาเจอกับทีม จ่าฝูง อย่าง อาร์เซน่อล สำหรับการได้ลงเล่นนัดที่ 400 ของตัวเอง เพราะกัปตันทีมคนนี้ได้เจอกับทั้งช่วงเวลาที่ดีและเลวร้ายสำหรับการพบทีม "เดอะ กันเนอร์ส" ตลอดหลายปีที่ผ่านมา และตลอด 21 เกมที่ผ่านมาที่เจอกับทีมนี้ เจอร์ราร์ด ได้เจอช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกดีและแย่ผสมปนเปกันไป นับตั้งแต่เกมที่พลิกกลับมาชนะ อาร์เซน่อล 2-1 ในศึกเอฟเอ คัพ ปี 2001 มาจนถึงช่วงที่แย่สุดที่แพ้ไปแบบหมดรูป 3-6 ในเกมคาร์ลิ่ง คัพ เมื่อฤดูกาลที่แล้ว
ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา เจอร์ราร์ด ได้ยิงประตูไปแล้ว 4 ตุงในการพบกับลูกทีมของ อาร์แซน เวนเกอร์ โดยเกมที่ดี่ที่สุดคือการได้ลงเล่นต่อหน้าชาว "เดอะ ค็อป" ที่เอาชนะไปอย่างสวยงาม 4-0 ย้อนไปเมื่อเดือนธันวาคมปี 2000
ผลเสมอที่พบกับ อาร์เซน่อล แม้หลายคนอาจจะรู้สึกเสียดายเพราะต้านมาได้ถึง 80 นาทีก่อนจะมาโดน เชส ฟาเบรกาส ตีเสมอ แต่สิ่งที่น่าภูมิใจคือทีม ลิเวอร์พูล ยังไม่แพ้ใครในฤดูกาลนี้สำหรับเกมลีก รวมทั้งการได้ลงเล่นนัดที่ 400 สำหรับนักเตะท้องถิ่นที่เป็นกัปตันทีมอย่าง เจอร์ราร์ด ด้วย