เปรียบเทียบระหว่าง20โบ-กับเจโบ กำลังจะวางเครื่องคับ

  • ผู้เริ่มหัวข้อ ผู้เริ่มหัวข้อ KUROKAWA
  • วันที่เริ่มต้น วันที่เริ่มต้น

กรุณาปิด โปรแกรมบล๊อกโฆษณา เพราะเราอยู่ได้ด้วยโฆษณาที่ท่านเห็น
Please close the adblock program. Because we can live with the ads you see

KUROKAWA

New member
Register
เข้าร่วม
7 พฤษภาคม 2007
ข้อความ
67
  • กระทู้ ผู้เขียน
  • #1
ข้อถามเป็นข้อๆนะคับ
1.20 กับ1เจโบ ความอึดแตกต่างกันมากมั๊ยคับ
2. อัตราการกินน้ำมัน ระหว่าง20โบกับเจโบ เกียร์ออโต้ ต่างกันรึเปล่า
3.ถ้าให้เลือกระหว่างเครื่อง 2 ตัว นี้ ตัวไหนน่าเล่นกว่ากัน รถใช้งานทุกวัน วิ่งประมาณ 25 โล ไปกลับบ้าน-ที่ทำงาน
4. ช่วยฟันธงด้วยคับ เพราะตอนนี้ไม่รู้จะเอาเครื่องตัวไหนดี
เพราะมีคนเคยบอกว่าถ้าเล่น20 มันจุกจิก เปราะ สู้1เจไม่ได้
เหตุผลนี้เลยทำให้ผมหลอนกับ20โบอยู่
5. 20โบกับ20de 12วาล์ว อัตราการกินน้ำมันต่างรึเปล่าคับ
6. 20โบเกียร์ธรรมดา ตอนนี้ราคาอยู่ที่เท่าไหร่คับ
แล้วต่างกันเท่าไหร่
ขอบคุณมากคับ
 


มาอีกก็ตอบอีกนะสำหรับมือไหม่หัดเล่นเซฟเหมือนผมเมื่อก่อนละ:augenrollen: :smile:
ข้อถามเป็นข้อๆนะคับ ก็ตอบเท่าที่รู้เป็นข้อๆเหมือนกัน:smile:
1.20 กับ1เจโบ ความอึดแตกต่างกันมากมั๊ยคับ
1.เกียรเดียวกัน ที่ใช่เช็คกันมาไม่ต่างกันเท่าไหร่ครับอยู่ที่ความสมบรูณ ของเครื่องและคนวางเก่งตัวไหน
2. อัตราการกินน้ำมัน ระหว่าง20โบกับเจโบ เกียร์ออโต้ ต่างกันรึเปล่า
2.อัตราการกินน้ำมัน นิดหน่อย RB20 เครื่อง2000 jเครื่อง2500กินน้ำมันพอกันก็พอจะเดาออกนะครับ อยู่ที่อุปนิสัยคนขับครับ
3.ถ้าให้เลือกระหว่างเครื่อง 2 ตัว นี้ ตัวไหนน่าเล่นกว่ากัน รถใช้งานทุกวัน วิ่งประมาณ 25 โล ไปกลับบ้าน-ที่ทำงาน
3.1Jboชอบประหยัดก็ยัดvvtครับ ผมใช้Jboธรรมดาอยู่ อิอิเชียรกันเอง:biggrin:
4. ช่วยฟันธงด้วยคับ เพราะตอนนี้ไม่รู้จะเอาเครื่องตัวไหนดี
เพราะมีคนเคยบอกว่าถ้าเล่น20 มันจุกจิก เปราะ สู้1เจไม่ได้
เหตุผลนี้เลยทำให้ผมหลอนกับ20โบอยู่
4.1jboครับเพิ่มตังอีก10ก็วิ่งปรือครับ ของเล่นjถูกแปลงน้อย
อย่า โบออฟ อย่าปรับบูส อย่างยัดโบเดี่ยว เพราะไม่ต้องยุ่งกับแอรโฟร
5. 20โบกับ20de 12วาล์ว อัตราการกินน้ำมันต่างรึเปล่าคับ
5.ไม่รู้นะผมไม่ได้ใช้20โบ(รอพี่ๆเค้ามาตอบ)แต่ส่วนตัว 12vกับ1jboที่ใช้อยู่ไม่ต่างกันเลย แต่แรงก่ากันมากมาย วางมาไหม่ใด้หลงเธอเลยอยากขับเช้าเย็น(ข้าวไหม่ปลามันหนะ):biggrin:
6. 20โบเกียร์ธรรมดา ตอนนี้ราคาอยู่ที่เท่าไหร่คับ
แล้วต่างกันเท่าไหร่
6.ข้อนี้ต้องรอคนเล่นRbมาตอบจ้า
ขอบคุณมากคับ
ไม่เป็นไรครับตอบเท่าที่รู้ถ้ากำลังซื่อCefก็ยินดีต้อนรับครับ
เอารูปมาฝากซ๊ะเลย
อันแรก ของผมระหว่าง 12vและแปลงร่างเป็น1Jbo
อันสองเป็น Rb20boเดิม
อันที่สามเป็น1jboเดิม
อันที่สี่เป็น2jboเดิม
อันที่ห้าเป็น1jBovvt
ปล.เพื่อความรู้ขออภัยท่านเจ้ารถในรูปคราบ:wink:
 

ไฟล์แนบ

  • cef.Eg.JPG
    cef.Eg.JPG
    28.8 กิโลไบต์ · จำนวนการดู: 322
  • drag_a039.jpg
    drag_a039.jpg
    114.1 กิโลไบต์ · จำนวนการดู: 333
  • Pict257.jpg
    Pict257.jpg
    59.5 กิโลไบต์ · จำนวนการดู: 321
  • Pict243.jpg
    Pict243.jpg
    53.8 กิโลไบต์ · จำนวนการดู: 337
  • 1kiu.jpg
    1kiu.jpg
    20.4 กิโลไบต์ · จำนวนการดู: 328
วางเจเถอะคับ ผม รู้แระว่าทำไมคนถึงนิยมวางเจกัน
 
ยังไงๆผมก็ชอบ rb ไม่รู้ทำไม ไม่เคยพิสวาสเครื่อง j เลยแม้แต่นิด:sweat:
 
:eeek: เหมือนไอ้หัวเหม่งข้างบนอ่ะ
ผมรัก RB. คร๊าบบบบบ.....พี่น้อง
ใช้ RB-20DET A/T มาตั้งแต่ซื้อรถ 6 ปีแล้ว
ถ้าไม่บรรลัยเพราะไปซัดกับ BM. มาก่อนก็เตรียม
จะยัดไนตรัส LPG. ไว้ท้ายรถแว๊วววว......

เครื่องทุกยี่ห้อ มันก็มีจุดเปราะแตกต่างกันออกไป
อยู่ที่งบประมาณ ความคุ้ม ความเสี่ยง ฯลฯ
อ้อ...ความรัก และเข้าใจในเครื่องยนต์ที่ใช้อยู่

ถ้าแนะนำ...วาง 1jz เถอะครับ

RB. มันต้องคนที่ใจรักจริงๆ จุดเปราะคือเรื่องของ ท่อน้ำที่เดินระโยงระยางไปตามจุดต่างๆ ภายในเครื่องยนต์ โอกาสรั่ว มีถ้าดูแลไม่ถึง นอกนั้นก็ไม่มีอะไรมาก แล้วเรื่องสายไฟในห้องเครื่อง มันจะกรอบแตกเมื่อถึงอายุของมัน อะไหล่หาง่ายดาย เบิกศูนย์ได้ ใช้กับตัว 24v. ที่จำหน่ายในเมืองไทยได้ครับ

แค่นี้คงพอรู้แล้วนะครับว่า วาง 1Jz ดีกว่า...:biggrin:
 
1 J เหมาะครับถ้าเอามาใช้เดิมๆ (ต้องเดิมๆสนิท จิงๆ นะ) ความทนทานของท่อนล่างมีมากกว่าเครื่อง RB จุดด้อยของ J อยู่ที่ฝามันไม่ค่อยจะทันสมัยเหมือน RB เท่าไหร่ ถ้าเอามาติดแก๊สใช้งานผมว่าน่าจะเหมาะมาก สำหรับ Cefiro เพราะว่าระยะห่างร่องแหวนลูกสูยมันสูงกว่า RB จึงทำให้มันสามารถทนแรงอัดสูงๆ หรืออัตราส่วนผสมน้ำมันที่มันไม่เหมาะสมที่จะทำให้ร่องแหวนแตกนั้น สามารถทนได้มากกว่าลูกสูบของเครื่อง RB

RB อย่างที่พี่โจ้บอกเหมาะสำหรับคนที่รักเครื่องตระกูลนี้จริงๆ เพราะจุดด้อขของเครื่องบล็อกนี้มีเยอะ ถ้าจะใช้ให้เสถียรเต้องแก้ไข้จุดบกพร่องเหล่านี้ให้หมด ก็จะสามารถใช้งานได้เหมือนเครื่องทั่วๆไป แต่เหตุผลที่ RB นั้นยังเป็นเครื่องที่คนเล่นเซฟส่วนหนึ่งยังเลือกใช้งานเพราะเป้นเครื่องตรงรุ่น ไม่ต้องแก้จุดยึดเครื่อง ถ้าวัดเรื่องประหยัดมันพูดยากครับตัวแปรเยอะ แต่ส่วนใหญ่รถที่ CC น้อยกว่า ขนาดหัวฉีดเล็กกว่า มักจะประหยัดกว่านะครับ ส่วนติดแก๊สใช้งานได้ไหมต้องลองถามพี่โจ้ดูว่า ใช้ดีไหมเพราะผมยังไม่ค่อยเห้นใครเอา RB มาติดแก๊ส อะ
 
จากประสบการณ์อันน้อยนิดของผม
1. เครื่อง J auto เดิมๆรถเพื่อนผม ก็แรงดีนะขับใช้งานทุกวันสบายดี แต่มันบ่นว่าอยากติดแก๊สแล้วอาจเป็นเพราะสภาพการจราจรในกรุง
2. ส่วนของผมเพิ่งวาง RB20BOได้ 5-6 เดือน ก็ขับสนุกดีเมื่อเทียบกับ 24v ตัวเก่าของผมการกินน้ำมันเทียบกันแล้วก็พอๆกัน 20BOกินน้อยกว่าด้วยซ้ำ(วิ่งทางไกลสระบุรี-กทม.)
3. ส่วนราคาผมซื้อเครื่อง+หม้อน้ำ+อินเตอร์+ท่ออินเตอร์+ท่อกรองอากาศ จบที่ 25,000 ไม่รู้แพงไปหรือป่าว(เครื่องมันอยู่ในหัวเซฟเลยขอแยกซื้อเฉพาะเครื่องมัน เป็นเซฟอูมเหมือน24บ้านเราเด้ะเลยต่างกันแค่มันเป็น20BOเกียร์กระปุก) ก็ดูได้ที่ห้องเครื่องผมเลยครับเหมือนตอนที่เครื่องมันอยู่ในหัวเลยครับต่าง แค่ผมเปลียนกรอง
เปลือยแล้ว

ปล.ข้อความข้างต้นเป็นประสบการณ์ส่วนตัวถ้าอยากทราบให้ระเอียดกว่านี้รอท่านอื่นมาบอกต่อนะครับ
 

ไฟล์แนบ

  • 11062007987.jpg
    11062007987.jpg
    61.3 กิโลไบต์ · จำนวนการดู: 412
  • กระทู้ ผู้เขียน
  • #8
-ขอบคุณมากคับ ว่าแต่ราคา1เจโบ ออโต้ตอนนี้อยู่ที่เท่าไหร่คับ
 
-ขอบคุณมากคับ ว่าแต่ราคา1เจโบ ออโต้ตอนนี้อยู่ที่เท่าไหร่คับ

ผมซื้อเมื่อปี47 28000 บาทครับ ปลั๊กหนา ฟรีปั๊ม ใช้มา3ปีแระถูกใจจริงๆไม่จุกจิกเลย
 
25000-28000 แล้วแต่ละร้านและอุปกรณ์ต่างๆครับ...
ไปเดินมาวันก่อน....
 
1.20 กับ1เจโบ ความอึดแตกต่างกันมากมั๊ยคับ
- เจทนกว่า ถ้าเดิมๆ
2. อัตราการกินน้ำมัน ระหว่าง20โบกับเจโบ เกียร์ออโต้ ต่างกันรึเปล่า
- วายสายครบๆ Rb 20 det ประหยัดกว่า
3.ถ้าให้เลือกระหว่างเครื่อง 2 ตัว นี้ ตัวไหนน่าเล่นกว่ากัน รถใช้งานทุกวัน วิ่งประมาณ 25 โล ไปกลับบ้าน-ที่ทำงาน
- ใช้งานทุกวันแนะนำเจ
4. ช่วยฟันธงด้วยคับ เพราะตอนนี้ไม่รู้จะเอาเครื่องตัวไหนดี
เพราะมีคนเคยบอกว่าถ้าเล่น20 มันจุกจิก เปราะ สู้1เจไม่ได้
เหตุผลนี้เลยทำให้ผมหลอนกับ20โบอยู่
- RB ทำให้ถูกจุด ก็ทนนะครับ
5. 20โบกับ20de 12วาล์ว อัตราการกินน้ำมันต่างรึเปล่าคับ
- ถ้าสมบูรณ์ไม่ต่างกันครับ
6. 20โบเกียร์ธรรมดา ตอนนี้ราคาอยู่ที่เท่าไหร่คับ
แล้วต่างกันเท่าไหร่
เคยเจอมา 20000-25000
 
ของผม RB 25 det เกียร์ธรรมดาคับ ใช้งานดีวิ่งดีแรงพอประมาณ แต่มีปัญหานิดโหน่ยยยยย... ก็แก้ๆ กันไป :cry:
 
  • กระทู้ ผู้เขียน
  • #13
ผมซื้อเมื่อปี47 28000 บาทครับ ปลั๊กหนา ฟรีปั๊ม ใช้มา3ปีแระถูกใจจริงๆไม่จุกจิกเลย
เฉลี่ยแล้วตกประมารกี่โลลิตรคับ
 
เฉลี่ยแล้วตกประมารกี่โลลิตรคับ

รถนายโต้ กิน 6-7 กว่าในเมืองน่าจะได้นะ เกียร์ ออโต้

แต่ตอนนี้เป็นเกียร์กระปุกแล้วน่าจะมี 8up
 
เจ เค้าดีจังทนจิง ผมเคยใช้rbมาแล้วครับตอนนี้จะเปลี่ยนเป็นเจแล้วครับ ทนก่าเยอะครับ
 
ผม จะ วาง Rb ตลอดไป ครับ
 
เพิ่งเปลี่ยนมาอ่ะ RB 20 det ใจมันรักยังไงก็ RB
 
ป๋ม ใช้เจโบa/t ปลักบาง ใช้งานมา 3ปี อัตราการรัปประทาน น้ำมัน ในเมือง 6-7 โลลิตร
นอกเมือง 8-9 โลลิตร LPG ในเมือง 1.6-1.7บาท/โล นอกเมือง 1.4-1.5 บาท/โล

ใจจิงผมชอบ RB มากกว่า J แต่ผมไม้ค่อยมีเวลาดูแล แบบตื่นเช้ามา ก็คิดเครื่องแล้วขับออกไปเลย ไม่รออุ่นเครื่อง ไม่เชคสภาพรถ อาทิย์นึงก็ถึงจะดูน้ำมันเครื่อง น้ำ น้ำกลั่น ที รถตัวเองไม่เคยดู ดูแลแต่รถลูกค้า เฮอ
 
รักRBด้วยคน
แต่ตามJ boออโต้ น่าจะเดิมๆไม่ทัน(ไม่รู้รอมกล่องป่าว แต่เห็นเป็นกล่องเดิม โบเดิม) ทำงัย20boออโต้ถึงจะไล่ทัน ไม่ต้องสวนก็ได้แค่เค้าหนีเรามะออกก็พอ (กลัวไส้แตก)
 
ยืนยันเหมือนเดิม ยังไงๆก็ยังเลือก RB

เหตุผล เพราะมันเหมาะสมด้วยประการทั้งปวงครับ

ผมขออธิบายสั้นๆก็แล้วกันนะครับ

โดยส่วนตัวผมจะไม่มองเรื่องพละกำลังว่าใครมากกว่าใคร

ไม่มองถึงความทนทานเพราะหากวางดีๆ ปรับพื้นฐานเครื่องให้ได้ตามสเป็ค ยังไงๆก็พอๆกัน

ไม่มองเรื่องอัตราสิ้นเปลือง เพราะถึงยังไงวางเครื่องที่มีเรี่ยวแรงสูงๆไป เป็นใคร ใครก็ต้องลองกด

แต่ที่ผมคำนึงถึงก็คือองค์รวมของตัวรถเมื่อวางเสร็จ

รถเซฟิโร่ เริ่มแรกในการวางเลย์เอ้าท์และแพลทฟอร์ม ได้ถูกเลือกและวางมาแบบนี้ รถตระกูลนิสสันขับหลังแทบทุกรุ่น(ไม่นับเครื่อง V6) ก็ถูกวางเลย์เอ้าท์มาแบบเดียวกัน

กล่าวคือ ทางวิศวะกรได้คำนวนมาเหมาะสมแล้วว่า ถังน้ำมันอยู่ค่อนไปทางขวาเพื่ออะไร เคยสังเกตุมั๊ยะว่าทำไมเครื่อง Inline 4 และ Inline 6 (4 สูบแถวเรียงและ 6 สูบแถวเรียง) ของนิสสันทำไมต้องเอียง ทำไมไม่ทำให้มันตั้งตรงเหมือนโตโยต้าล่ะ เหตุผลก็คือเพื่อต้านแรงเหวี่ยงของแนวการหมุนของตัวเครื่อง ลองนึกภาพตามนะครับ ลองมองจากท้ายรถ ผ่านเพลากลางไปจนถึงหน้าเครื่อง ลักษณะกานหมุนของเพลากลางจะหมุนตามเข็มนาฬิกา ในระหว่างที่เพลากำลังหมุน มันก็จะมีแรงจากศูนย์กลางของเพลา เหวี่ยงไปรอบๆแกนเพลาและจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆเมื่อความเร็วรอบเครื่องมากขึ้น ไอ้แรงเหวี่ยงนี้จะแปรผันเป็นน้ำหนักกดลงตามทิศทางของการหมุน นั่นก็คือด้านขวาของตัวรถ วิศวะกรของนิสสันแก้ไขแรงกดจากแรงเหวี่ยงนี้โดยการวางตำแหน่งเครื่องให้เอียงไปทางด้านซ้าย (มองจากท้ายรถ) เพื่อให้น้ำหนักเครื่องเป็นตัวหน่วงหรือต้านกับแรงเหวี่ยงจากศูนย์กลางของเพลา

แต่เท่านั้นยังไม่พอ ไอ้แรงเหวี่ยงนี้มันไม่ได้มีสถานะคงที่ กล่าวคือมันจะมีมากมีน้อยขึ้นอยู่กับจังหวะของการเร่งรอบ ผลที่ตามมาคือ ความไม่สมดุลย์ของแรงที่เกิดขึ้น ทำให้มีแรงเหวี่ยงและแรงต้านย้อนกลับไปมาตามแนวยาวของตัวรถ ส่งผลให้เกิดกระถ่ายเทแรงกดไปมาซ้ายขวา และนี่เองคือเหตุผลที่ทำไมถังน้ำมันมันต้องอยู่ค่อนไปทางขวา และเมื่อบวกกับน้ำหนักโดยเฉลี่ยของคนขับแล้ว ก็จะเกิดความสมดุลย์หรือใกล้เคียงสมดุลย์มากขึ้นนั่นเอง

ยังมีรายละเอียดปลีกย่อยอีกหลายอย่าง เกี๋ยวกับ เซฟิโร่ที่เราใช้ ใว้โอกาสหน้าหากมีเวลาจะเอามาเล่าให้ฟังครับ

แต่จะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามแต่ นั่นก็เป็นเพียงมุมที่ผมมอง เป็นเพียงความเหมาะสมจากความคิดเห็นของผมเอง

เจ้าของรถเองก็ต้องเลือกทางที่ดีและสะดวกของตัวเองครับ

หวังว่าคงไม่ยาวเกินไปนะ:biggrin:
 

กรุณาปิด โปรแกรมบล๊อกโฆษณา เพราะเราอยู่ได้ด้วยโฆษณาที่ท่านเห็น
Please close the adblock program. Because we can live with the ads you see
กลับ
ยอดนิยม