• สวัสดีครับชาวโลมาสีฟ้า cefiro-thailand.com

    เว็บไซต์แห่งนี้เราเปิดให้ใช้งานกับฟรีๆ สามารถโพสต์อัพเดทสถานการณ์ต่างๆข่าวสารบ้านเมืองและข่าวสารของกลุ่ม cefiro-thailand.com ได้เต็มที่เลยนะครับขอแค่ไม่เป็นการปั่นกระทู้หรือโฆษณาอะไรที่มันล่อแหลมจนเกินไป
    เว็บไซต์ไม่ต้องเสียค่าสมัครใดใดทั้งสิ้นมีข้อเสนอแนะอะไรสามารถแนะนำเข้ามาได้ครับยินดีปรับแต่งและแก้ไขถ้าสามารถทำได้

    กฎระเบียบของเราก็ไม่มีอะไรมากท่านสามารถใช้งานได้เต็มที่

หนักครับ

  • ผู้เริ่มหัวข้อ ผู้เริ่มหัวข้อ A31427
  • วันที่เริ่มต้น วันที่เริ่มต้น

กรุณาปิด โปรแกรมบล๊อกโฆษณา เพราะเราอยู่ได้ด้วยโฆษณาที่ท่านเห็น
Please close the adblock program. Because we can live with the ads you see

A31427

ก็แค่ NC30
Cefiro-Thailand Members
เข้าร่วม
16 ก.พ. 2007
ข้อความ
11,618
  • กระทู้ ผู้เขียน
  • #1
นาวาเอกผู้หนึ่งได้เข้าไปกราบสมเด็จพระสังฆราชเจ้ากราหลวงวชิรญาณวงศ์ ซึ่งเคยเป็นพระอุปัชฌาย์เขาเมื่อครั้งบวชที่วัดบวรนิเวศ หน้าตาของนาวาเอกดูหม่นหมองและอิดโรย ท่าทางอมทุกข์ สมเด็จฯ จึงรับสั่งถามว่า "เป็นไงมั่งพักนี้?"

20578.jpg



"หนักครับ" เขาทูล "ช่วงนี้แย่มากเลยครับ"

"หนักอะไร" สมเด็จฯ ถาม


แล้วนาวาเอกก็ทูลเล่าถึงปัญหาต่าง ๆ ที่ประดังประเดเข้ามาทั้งเรื่องชีวิต เรื่องการงาน เขาบอกว่าตอนนี้จวนจะแบกไม่ไหวแล้ว จึงมาเฝ้าสมเด็จฯ ขอบารมีเป็นที่พึ่ง


สมเด็จฯ นั่งสักพัก ก็รับสั่งให้เขานั่งคุกเข่าและยื่นมือทั้งสองออกมาข้างหน้า แล้วพระองค์ก็หยิบกระดาษชิ้นหนึ่งมาวางบนฝ่ามือทั้งสองของนาวาเอก จากนั้นพระองค์ก็เสด็จออกไปจากที่ประทับ พร้อมกับรับสั่งว่า "นั่งอยู่นี่แหล่ะ อย่าขยับหรือไปไหนจนกว่าข้าจะกลับมา จะเข้าไปข้างในสักประเดี๋ยว" แล้วจึงเสด็จเข้าไป


นาวาเอกนั่งอยู่ในท่าคุกเข่า และประคองกระดาษทั้งสองมืออยู่เป็นเวลานาน ๑๐ นาทีก็แล้ว ๒๐ นาทีก็แล้ว สมเด็จฯ ก็ยังไม่ออกมา เขาเริ่มเหนื่อย แขนก็เริ่มเมื่อยล้า กระดาษชิ้นเล็ก ๆ ซึ่งเบาหวิวดูจะหนักขึ้นเรื่อย ๆ จนเหงื่อเริ่มออก


ในที่สุด สมเด็จฯ ก็เสด็จเข้ามาประทับที่เดิม ทำทีเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น สักพักก็มองกระดาษที่มือนาวาเอก แล้วทรงถามว่า "เป็นไง?"


"หนักครับ พระเดชพระคุณ เมื่อยจนจะทนไม่ไหว"

"อ้าว ทำไม ไม่วางมันลงเสียละ?" สมเด็จฯ รับสั่ง "ก็ไปยอมให้มันอยู่อย่างนั้น มันก็หนักอยู่อย่างนั้นนะสิ มันจะเป็นอย่างอื่นไปได้ยังไง"


กระดาษชิ้นเล็ก ๆ ที่เบาหวิว หากถือไปนาน ๆ เข้า ก็ย่อมกลายเป็นของหนัก ตรงกันข้าม ก้อนหินก้อนใหญ่ ถ้าไม่ไปแบกหรืออุ้มมัน ก็ไม่รู้สึกหนัก ฉะนั้นถ้าไม่อยากให้ ชีวิตหรือจิตใจหนักอึ้ง ควรรู้จักปล่อยวางเสียบ้าง


แม้แต่ของที่มีประโยชน์ เราควรยึดถือก็ต่อเมื่อถึงเวลาใช้งาน เมื่อใช้เสร็จ ก็ควรวางลงเสีย นับประสาอะไรกับของที่ไร้ประโยชน์ เช่นความทุกข์ ความห่วงกังวล ยิ่งต้องวางทันที ที่รู้ตัวว่ามาครองใจ หาไม่แล้วจะกลายเป็นของหนักจนเอาตัวไม่รอด
 


:eeek: เป็น แง่ คิดที่ดีมากเลยครับ....
............................................................
:redface: ปล่อยวาง...คิดมากก็ปวดหมอง...บั่นทอนจิตใจ...ใครจะว่าอะไร...ช่างเขา...จะด่าอะไร...ก็เรื่องของเขา...อย่าให้สิ่งเหล่านี้มากระทบจิตใจ...มันจะเกิดโมหะ โทสะ ซึ่งเป็นกิเลสกองใหญ่

:biggrin: ปล่อยวาง วางมันเลยครับ ถือก็หนัก อิอิอิ :biggrin:
 

ไฟล์แนบ

  • 012.JPG
    012.JPG
    39.3 กิโลไบต์ · จำนวนการดู: 174
อืม สาระก็เป็นนะกอลลั่ม นึกว่าจะอยู่แต่บอร์ด นู๊นนนนนนนนนนนนน 555
 
กอรั่ม...............ไม่น่าเชื่อจริงๆเลย
 
สาธุ อามิตาพุด
 
:redface: ให้แง่คิดที่ดีครับ:redface:
 

กรุณาปิด โปรแกรมบล๊อกโฆษณา เพราะเราอยู่ได้ด้วยโฆษณาที่ท่านเห็น
Please close the adblock program. Because we can live with the ads you see
กลับ
ยอดนิยม