- กระทู้ ผู้เขียน
- #1
สยองปั๊มปตท. รถหัวลากใช้เอ็นจีวีเข้าไปเติมก๊าซ จู่ๆ ถังเกิดระเบิด รถยนต์ที่จอดรอเติมก๊าซเสียหาย 4 คัน มีผู้เคราะห์ร้ายบาดเจ็บ 7 คน ส่วนใหญ่แก้วหูแตก
เหตุการณ์ระทึกขวัญรถหัวลาก 10 ล้อ ใช้ก๊าซเอ็นจีวี เกิดบึมสยองขณะเข้าเติมในปั๊มน้ำมันครั้งนี้ เปิดเผยเมื่อเวลา 00.40 น. วันที่ 31 มี.ค. พ.ต.ท.พีระพงษ์ ภาพพันธ์ พนักงานสอบสวน สภ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ รับแจ้งเหตุระเบิดภายในปั๊มน้ำมัน ปตท. เลขที่ 168/11 ถนนบางนา-ตราด กม. 29 ฝั่งขาออก หมู่ 4 ต.บางบ่อ อ.บางบ่อ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายรายและมีรถยนต์ ได้รับความเสียหายหลายคัน จึงประสานรถดับเพลิง อบต. บางบ่อ และเจ้าหน้าที่ชุดผจญเพลิง อบต.ราชาเทวะ ร่วมเดินทางไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นปั๊มน้ำมันขนาดใหญ่ มีทั้งตู้หัวจ่าย น้ำมันและก๊าซธรรมชาติเอ็นจีวี จุดเกิดเหตุอยู่บริเวณตู้ หัวจ่ายก๊าซเอ็นจีวี พบรถหัวลาก 10 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว หมายเลขทะเบียน 84-4156 ชลบุรี สภาพกระจกรถถูกแรงอัดแตกละเอียด หลังคาบิดเบี้ยว ด้านหลังรถติดตั้งถังก๊าซเอ็นจีวีขนาดความยาว 1.2 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง 50 ซม. รวมทั้งหมด 8 ถัง หลุดออกมา 6 ถัง ส่วนอีก 2 ถัง กระเด็นไปตกกลางถนนบางนา-ตราด ห่างจากตัวรถประมาณ 100 เมตร สภาพถังบุบบู้บี้ แรงระเบิดทำให้หลังคาปั๊มน้ำมันพังลงมา รวมทั้งกระจกหน้าร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ร้าวเป็นแนวยาว
นอกจากนี้ มีรถยนต์ที่จอดรอคิวเติมก๊าซเอ็นจีวี ได้รับความเสียหายอีก 4 คัน ประกอบด้วย 1.รถตู้โดยสารสายบางบ่อ-สำโรง ยี่ห้อโตโยต้า หมายเลขทะเบียน 10-4799 กรุงเทพมหานคร 2.รถตู้โดยสารสายบางบ่อ-สำโรง ยี่ห้อนิสสัน ทะเบียน 10-5047 กรุงเทพมหานคร 3.รถแท็กซี่ โตโยต้า สีชมพู ทะเบียน หน 2982 กรุงเทพมหานคร และ 4.รถกระบะนิสสัน คิงแค็บ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน บน 3828 พิษณุโลก รถส่วนใหญ่ถูกแรงระเบิดกระจกแตกกระจายเกลื่อน เจ้าหน้าที่ได้ฉีดน้ำป้องกันการฟุ้งกระจายของก๊าซรอบรถหัวลาก ในที่เกิดเหตุยังพบนายกันฑ์เอนก วีระวรศาสตร์ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 96/2 หมู่ 5 ต.บ้านบึง อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี คนขับรถหัวลาก ยืนรออยู่ด้วยอาการตื่นตระหนก
ขณะเดียวกัน ทราบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ 7 คน ถูกนำส่ง รพ.รวมชัยประชารักษ์ไปแล้ว ทราบชื่อ 1.นายสิลินเดช รัตน์พานิชย์สกุล อายุ 32 ปี คนขับรถตู้โดยสารทะเบียน 10-4799 กรุงเทพมหานคร มีอาการหูอื้อ 2.นายไพทูรย์ ดวงคำจันทร์ อายุ 30 ปี คนขับรถตู้ทะเบียน 10-5047 กรุงเทพมหานคร มีอาการหูอื้อ 3.น.ส.ทิพวรรณ ศรีรักษา อายุ 24 ปี พนักงานร้านเซเว่นอีเลฟเว่น มีอาการหูอื้อ 4.นายสมศักดิ์ สุวรรณมุกข์ อายุ 24 ปี พนักงานร้านเซเว่นอีเลฟเว่น มีอาการหูอื้อ 5.นายสาคร จิตรวัฒนะนนท์ อายุ 35 ปี คนขับรถแท็กซี่ มีอาการสาหัส แก้วหูแตกและมีเลือดไหลออกทางหู 2 ข้าง 6.นายวิษนุ ฉาบพิมาย อายุ 17 ปี พนักงานปั๊มน้ำมัน แก้วหูแตกและมีเลือดไหลออกหู 2 ข้างเช่นกัน และ 7.นายเกรียงศักดิ์ ทับเลิก อายุ 17 ปี พนักงานปั๊มน้ำมัน มีอาการหูอื้อ
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายกันฑ์เอนกขับรถหัวลากคันดังกล่าวเข้าไปเติมก๊าซเอ็นจีวี จากนั้นเดินเข้าไปซื้อของในร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ปรากฏว่าระหว่างที่นายเกรียงศักดิ์ ทับเลิก เด็กปั๊ม เติมก๊าซไปได้ประมาณ 5 นาที จู่ๆ ถังบรรจุก๊าซเกิดระเบิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว เป็นเหตุให้หลังคาปั๊ม กระจกร้านเซเว่นฯ และรถยนต์ที่จอดรอคิวเติมก๊าซถูกแรงอัดได้รับความเสียหาย รวมทั้งเสียงระเบิดทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บแก้วหูแตกและหูอื้อไปตามๆกัน อย่างไรก็ตาม ช่วงเกิดเหตุ ก๊าซเอ็นจีวีได้พุ่งกระจายบนอากาศโดยไม่มีเพลิงลุกไหม้ แต่อย่างใด ส่วนสาเหตุการระเบิดนั้นเบื้องต้นสันนิษฐานว่าอาจเกิดจากเติมปริมาณก๊าซเกินอัตราความบรรจุของถังหรือถังบรรจุก๊าซอาจไม่ได้มาตรฐาน
ต่อมาในช่วงบ่ายวันเดียวกัน พ.ต.ท.ประสงค์ อานมณี สว.วท.ภ.จ.สมุทรปราการ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ เบื้องต้นพบถังบรรจุก๊าซเอ็นจีวีไม่ได้คุณภาพตามมาตรฐาน นอกจากนี้ จากการตรวจสอบพบว่ารถหัวลากคันดังกล่าวมีการติดตั้ง ถังก๊าซถึง 8 ถัง เกินกว่ามาตรฐานทั่วไปที่กำหนดให้รถพ่วงหรือรถ 10 ล้อติดตั้งแค่ 6 ถังเท่านั้น
ด้าน พล.ต.ต.วิทยา ประยงค์พันธ์ ผบก.ภ.จ.สมุทรปราการ กล่าวว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบหาสาเหตุของรถบรรทุกใช้ก๊าซเอ็นจีวีระเบิดอย่างเร่งด่วน เบื้องต้นได้ให้ปั๊มน้ำมันดังกล่าวหยุดดำเนินการไว้ก่อนจนกว่าการตรวจสอบจะเสร็จสิ้น
ส่วนความคืบหน้ากรณีรถร่วม ขสมก.สาย 99 วิ่งระหว่างเทเวศร์-ม.รามคำแหง ที่ใช้ก๊าซเอ็นจีวีเกิดเครื่องยนต์ ระเบิดบริเวณเชิงสะพานข้ามแยกประตูน้ำ ถนนเพชรบุรี ตัดใหม่ ทำให้ผู้โดยสารเสียชีวิตและบาดเจ็บนั้น เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 31 มี.ค. พ.ต.ท.สมิต นันท์นฤมิตร พงส. (สบ 3) สน.พญาไท พร้อมผู้เชี่ยวชาญจากกองพิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่ตำรวจงานเครื่องตรวจพิสูจน์ บก.จร. ตัวแทนจาก ขสมก. เจ้าหน้าที่จาก ปตท. ตัวแทนบริษัทเจ้าของเครื่องยนต์และบริษัทเจ้าของรถ ร่วมกันตรวจสภาพเครื่องยนต์รถเมล์คันดังกล่าวที่จอดอยู่หน้า สน.พญาไท ใช้เวลากว่า 2 ชม.
จากนั้น พ.ต.ท.บรรลือ บุญปลูก สว.งานช่างเครื่องตรวจพิสูจน์ กก.5 บก.จร. กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่า สาเหตุเกิดจากระบบเครื่องยนต์ขัดข้อง ไม่เกี่ยวกับระบบเชื้อเพลิงตามที่เป็นข่าว ตามหลักการอธิบายได้ว่าเกิดจากระบบล้อช่วยแรง (ฟรายวินท์) ซึ่งทำด้วยเหล็กหล่อและหัวหมูที่หล่อครอบระบบเกียร์ คลัตช์ เมื่อมีการใช้งานหนักรอบเครื่องยนต์สูงเกิดขึ้น สภาพของล้อช่วยแรงที่หล่อนั้น เนื้อเหล็กอาจไม่ได้คุณภาพ ทำให้ขอบรอบของล้อช่วยแรงที่ใช้ยึดจานกดคลัตช์แตกออกไปกระแทกหัวหมู ส่งผลให้ชิ้นส่วนเหล็กบางชิ้นกระเด็นทะลุฝาครอบเครื่องที่ทำด้วยไฟเบอร์ออกไปกระแทกชายคนดังกล่าวจนเสียชีวิต
ด้านนายจิตรพงษ์ กว้างสุขสถิตย์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมชั้นต้นและก๊าซธรรมชาติ และรองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงกรณีรถบรรทุกใช้ก๊าซเอ็นจีวีระเบิดในปั๊มน้ำมันว่า จากการตรวจสอบพบว่าสาเหตุเกิดจากรถคันดังกล่าวใช้ถังก๊าซเอ็นจีวีที่ไม่ได้มาตรฐานตามที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด โดยนำถังเอ็นจีวีที่ใช้งานแล้วชนิดที่ 2 (ถังเหล็กหุ้มด้วยไฟเบอร์) มาดัดแปลงโดยถอดไฟเบอร์ออก ทำให้ถังชุดดังกล่าวไม่สามารถรองรับแรงดันใช้งานตามปกติได้ นอกจากนี้จากการตรวจสอบระบบฐานข้อมูลของ ปตท.พบว่ารถคันเกิดเหตุยังไม่ผ่านการตรวจสอบจากหน่วยงานกลางที่ได้รับความเห็นชอบจากกรมการขนส่งทางบกอีกด้วย
นายจิตรพงษ์กล่าวด้วยว่า ปตท.ได้ดำเนินงานเกี่ยวกับการใช้ก๊าซธรรมชาติตามมาตรฐานความปลอดภัย สากลทุกๆด้าน โดยคัดเลือกบริษัทติดตั้งอุปกรณ์เอ็นจีวีที่มีความรู้ ความสามารถและประสบการณ์ มีข้อกำหนดที่จะต้องเป็นไปตามมาตรฐานของ ปตท. และผ่านการรับรองที่เป็นไปตามมาตรฐานขององค์การสหประชาชาติ การติดตั้งต้องเป็นไปตามข้อกำหนดของกรมการขนส่งทางบก มาตรฐานถังบรรจุก๊าซ ปตท.ได้เลือกถังตามมาตรฐานสากล iso 11439 ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ปลอดภัย และกำหนดให้ติดตั้งอุปกรณ์นิรภัยที่วาล์วหัวถังป้องกันถังก๊าซระเบิดกรณีความดันและอุณหภูมิของก๊าซในถังเกินกำหนด
ที่เกิดเหตุเป็นปั๊มน้ำมันขนาดใหญ่ มีทั้งตู้หัวจ่าย น้ำมันและก๊าซธรรมชาติเอ็นจีวี จุดเกิดเหตุอยู่บริเวณตู้ หัวจ่ายก๊าซเอ็นจีวี พบรถหัวลาก 10 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว หมายเลขทะเบียน 84-4156 ชลบุรี สภาพกระจกรถถูกแรงอัดแตกละเอียด หลังคาบิดเบี้ยว ด้านหลังรถติดตั้งถังก๊าซเอ็นจีวีขนาดความยาว 1.2 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง 50 ซม. รวมทั้งหมด 8 ถัง หลุดออกมา 6 ถัง ส่วนอีก 2 ถัง กระเด็นไปตกกลางถนนบางนา-ตราด ห่างจากตัวรถประมาณ 100 เมตร สภาพถังบุบบู้บี้ แรงระเบิดทำให้หลังคาปั๊มน้ำมันพังลงมา รวมทั้งกระจกหน้าร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ร้าวเป็นแนวยาว
นอกจากนี้ มีรถยนต์ที่จอดรอคิวเติมก๊าซเอ็นจีวี ได้รับความเสียหายอีก 4 คัน ประกอบด้วย 1.รถตู้โดยสารสายบางบ่อ-สำโรง ยี่ห้อโตโยต้า หมายเลขทะเบียน 10-4799 กรุงเทพมหานคร 2.รถตู้โดยสารสายบางบ่อ-สำโรง ยี่ห้อนิสสัน ทะเบียน 10-5047 กรุงเทพมหานคร 3.รถแท็กซี่ โตโยต้า สีชมพู ทะเบียน หน 2982 กรุงเทพมหานคร และ 4.รถกระบะนิสสัน คิงแค็บ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน บน 3828 พิษณุโลก รถส่วนใหญ่ถูกแรงระเบิดกระจกแตกกระจายเกลื่อน เจ้าหน้าที่ได้ฉีดน้ำป้องกันการฟุ้งกระจายของก๊าซรอบรถหัวลาก ในที่เกิดเหตุยังพบนายกันฑ์เอนก วีระวรศาสตร์ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 96/2 หมู่ 5 ต.บ้านบึง อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี คนขับรถหัวลาก ยืนรออยู่ด้วยอาการตื่นตระหนก
ขณะเดียวกัน ทราบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ 7 คน ถูกนำส่ง รพ.รวมชัยประชารักษ์ไปแล้ว ทราบชื่อ 1.นายสิลินเดช รัตน์พานิชย์สกุล อายุ 32 ปี คนขับรถตู้โดยสารทะเบียน 10-4799 กรุงเทพมหานคร มีอาการหูอื้อ 2.นายไพทูรย์ ดวงคำจันทร์ อายุ 30 ปี คนขับรถตู้ทะเบียน 10-5047 กรุงเทพมหานคร มีอาการหูอื้อ 3.น.ส.ทิพวรรณ ศรีรักษา อายุ 24 ปี พนักงานร้านเซเว่นอีเลฟเว่น มีอาการหูอื้อ 4.นายสมศักดิ์ สุวรรณมุกข์ อายุ 24 ปี พนักงานร้านเซเว่นอีเลฟเว่น มีอาการหูอื้อ 5.นายสาคร จิตรวัฒนะนนท์ อายุ 35 ปี คนขับรถแท็กซี่ มีอาการสาหัส แก้วหูแตกและมีเลือดไหลออกทางหู 2 ข้าง 6.นายวิษนุ ฉาบพิมาย อายุ 17 ปี พนักงานปั๊มน้ำมัน แก้วหูแตกและมีเลือดไหลออกหู 2 ข้างเช่นกัน และ 7.นายเกรียงศักดิ์ ทับเลิก อายุ 17 ปี พนักงานปั๊มน้ำมัน มีอาการหูอื้อ
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายกันฑ์เอนกขับรถหัวลากคันดังกล่าวเข้าไปเติมก๊าซเอ็นจีวี จากนั้นเดินเข้าไปซื้อของในร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ปรากฏว่าระหว่างที่นายเกรียงศักดิ์ ทับเลิก เด็กปั๊ม เติมก๊าซไปได้ประมาณ 5 นาที จู่ๆ ถังบรรจุก๊าซเกิดระเบิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว เป็นเหตุให้หลังคาปั๊ม กระจกร้านเซเว่นฯ และรถยนต์ที่จอดรอคิวเติมก๊าซถูกแรงอัดได้รับความเสียหาย รวมทั้งเสียงระเบิดทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บแก้วหูแตกและหูอื้อไปตามๆกัน อย่างไรก็ตาม ช่วงเกิดเหตุ ก๊าซเอ็นจีวีได้พุ่งกระจายบนอากาศโดยไม่มีเพลิงลุกไหม้ แต่อย่างใด ส่วนสาเหตุการระเบิดนั้นเบื้องต้นสันนิษฐานว่าอาจเกิดจากเติมปริมาณก๊าซเกินอัตราความบรรจุของถังหรือถังบรรจุก๊าซอาจไม่ได้มาตรฐาน
ต่อมาในช่วงบ่ายวันเดียวกัน พ.ต.ท.ประสงค์ อานมณี สว.วท.ภ.จ.สมุทรปราการ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ เบื้องต้นพบถังบรรจุก๊าซเอ็นจีวีไม่ได้คุณภาพตามมาตรฐาน นอกจากนี้ จากการตรวจสอบพบว่ารถหัวลากคันดังกล่าวมีการติดตั้ง ถังก๊าซถึง 8 ถัง เกินกว่ามาตรฐานทั่วไปที่กำหนดให้รถพ่วงหรือรถ 10 ล้อติดตั้งแค่ 6 ถังเท่านั้น
ด้าน พล.ต.ต.วิทยา ประยงค์พันธ์ ผบก.ภ.จ.สมุทรปราการ กล่าวว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบหาสาเหตุของรถบรรทุกใช้ก๊าซเอ็นจีวีระเบิดอย่างเร่งด่วน เบื้องต้นได้ให้ปั๊มน้ำมันดังกล่าวหยุดดำเนินการไว้ก่อนจนกว่าการตรวจสอบจะเสร็จสิ้น
ส่วนความคืบหน้ากรณีรถร่วม ขสมก.สาย 99 วิ่งระหว่างเทเวศร์-ม.รามคำแหง ที่ใช้ก๊าซเอ็นจีวีเกิดเครื่องยนต์ ระเบิดบริเวณเชิงสะพานข้ามแยกประตูน้ำ ถนนเพชรบุรี ตัดใหม่ ทำให้ผู้โดยสารเสียชีวิตและบาดเจ็บนั้น เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 31 มี.ค. พ.ต.ท.สมิต นันท์นฤมิตร พงส. (สบ 3) สน.พญาไท พร้อมผู้เชี่ยวชาญจากกองพิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่ตำรวจงานเครื่องตรวจพิสูจน์ บก.จร. ตัวแทนจาก ขสมก. เจ้าหน้าที่จาก ปตท. ตัวแทนบริษัทเจ้าของเครื่องยนต์และบริษัทเจ้าของรถ ร่วมกันตรวจสภาพเครื่องยนต์รถเมล์คันดังกล่าวที่จอดอยู่หน้า สน.พญาไท ใช้เวลากว่า 2 ชม.
จากนั้น พ.ต.ท.บรรลือ บุญปลูก สว.งานช่างเครื่องตรวจพิสูจน์ กก.5 บก.จร. กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่า สาเหตุเกิดจากระบบเครื่องยนต์ขัดข้อง ไม่เกี่ยวกับระบบเชื้อเพลิงตามที่เป็นข่าว ตามหลักการอธิบายได้ว่าเกิดจากระบบล้อช่วยแรง (ฟรายวินท์) ซึ่งทำด้วยเหล็กหล่อและหัวหมูที่หล่อครอบระบบเกียร์ คลัตช์ เมื่อมีการใช้งานหนักรอบเครื่องยนต์สูงเกิดขึ้น สภาพของล้อช่วยแรงที่หล่อนั้น เนื้อเหล็กอาจไม่ได้คุณภาพ ทำให้ขอบรอบของล้อช่วยแรงที่ใช้ยึดจานกดคลัตช์แตกออกไปกระแทกหัวหมู ส่งผลให้ชิ้นส่วนเหล็กบางชิ้นกระเด็นทะลุฝาครอบเครื่องที่ทำด้วยไฟเบอร์ออกไปกระแทกชายคนดังกล่าวจนเสียชีวิต
ด้านนายจิตรพงษ์ กว้างสุขสถิตย์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมชั้นต้นและก๊าซธรรมชาติ และรองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงกรณีรถบรรทุกใช้ก๊าซเอ็นจีวีระเบิดในปั๊มน้ำมันว่า จากการตรวจสอบพบว่าสาเหตุเกิดจากรถคันดังกล่าวใช้ถังก๊าซเอ็นจีวีที่ไม่ได้มาตรฐานตามที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด โดยนำถังเอ็นจีวีที่ใช้งานแล้วชนิดที่ 2 (ถังเหล็กหุ้มด้วยไฟเบอร์) มาดัดแปลงโดยถอดไฟเบอร์ออก ทำให้ถังชุดดังกล่าวไม่สามารถรองรับแรงดันใช้งานตามปกติได้ นอกจากนี้จากการตรวจสอบระบบฐานข้อมูลของ ปตท.พบว่ารถคันเกิดเหตุยังไม่ผ่านการตรวจสอบจากหน่วยงานกลางที่ได้รับความเห็นชอบจากกรมการขนส่งทางบกอีกด้วย
นายจิตรพงษ์กล่าวด้วยว่า ปตท.ได้ดำเนินงานเกี่ยวกับการใช้ก๊าซธรรมชาติตามมาตรฐานความปลอดภัย สากลทุกๆด้าน โดยคัดเลือกบริษัทติดตั้งอุปกรณ์เอ็นจีวีที่มีความรู้ ความสามารถและประสบการณ์ มีข้อกำหนดที่จะต้องเป็นไปตามมาตรฐานของ ปตท. และผ่านการรับรองที่เป็นไปตามมาตรฐานขององค์การสหประชาชาติ การติดตั้งต้องเป็นไปตามข้อกำหนดของกรมการขนส่งทางบก มาตรฐานถังบรรจุก๊าซ ปตท.ได้เลือกถังตามมาตรฐานสากล iso 11439 ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ปลอดภัย และกำหนดให้ติดตั้งอุปกรณ์นิรภัยที่วาล์วหัวถังป้องกันถังก๊าซระเบิดกรณีความดันและอุณหภูมิของก๊าซในถังเกินกำหนด