Template errors

  • Template public:post_macros: [E_USER_WARNING] Cannot call method isMemberOf on a non-object (NULL) (src/XF/Template/Templater.php:1268)
  • Template public:post_macros: [E_USER_WARNING] Cannot call method isMemberOf on a non-object (NULL) (src/XF/Template/Templater.php:1268)
  • สวัสดีครับชาวโลมาสีฟ้า cefiro-thailand.com

    เว็บไซต์แห่งนี้เราเปิดให้ใช้งานกับฟรีๆ สามารถโพสต์อัพเดทสถานการณ์ต่างๆข่าวสารบ้านเมืองและข่าวสารของกลุ่ม cefiro-thailand.com ได้เต็มที่เลยนะครับขอแค่ไม่เป็นการปั่นกระทู้หรือโฆษณาอะไรที่มันล่อแหลมจนเกินไป
    เว็บไซต์ไม่ต้องเสียค่าสมัครใดใดทั้งสิ้นมีข้อเสนอแนะอะไรสามารถแนะนำเข้ามาได้ครับยินดีปรับแต่งและแก้ไขถ้าสามารถทำได้

    กฎระเบียบของเราก็ไม่มีอะไรมากท่านสามารถใช้งานได้เต็มที่

สตาร์ทติดยากอีกแล้ว.....

  • ผู้เริ่มหัวข้อ ผู้เริ่มหัวข้อ A31499
  • วันที่เริ่มต้น วันที่เริ่มต้น

กรุณาปิด โปรแกรมบล๊อกโฆษณา เพราะเราอยู่ได้ด้วยโฆษณาที่ท่านเห็น
Please close the adblock program. Because we can live with the ads you see

A31499

DOE.(รักคนอ่าน..555)
Cefiro-Thailand Members
เข้าร่วม
17 ก.พ. 2007
ข้อความ
2,917
  • กระทู้ ผู้เขียน
  • #1
อยากรู้จิง ๆ ครับพี่น้อง...........ว่าต้องทำอะไรอีก

ตอนนี้ที่ทำไปแล้ว.....หัวเทียนเปลี่ยนแล้ว ไดสตาร์ทเปลี่ยนแล้ว
แบตเปลี่ยนแล้ว รีเลย์สตาร์ทก็ติดแล้ว...AAC วาว เปลี่ยนแล้วล้างแล้ว แอร์โฟร์ล้างแล้ว กรองเป่าแล้ว ยังเหลืออะไรอีกพี่น้องช่วยบอกที
จะไล่ทำมันให้หมดเลย.....เบื่อจิง ๆ เรื่องนี้ :super:

แรก ๆ ก็ทีเดียวติด แต่ตอนนี้เริ่มหนักครับพี่น้องกว่าจะขุดกันขึ้น.....บางทีบิดแล้วเงียบก็มี บางทีดังรัว ๆ ก็มี....ส่วนใหญ่ จะดังรัว ๆ ...
นี้คือตอนสตาร์ทน้ำมันนะ ถ้าแก็สไม่ต้องพูดถึง ก่อนจะไปติดแก็สก็สตาร์ทยากแสนสาหัสแล้ว......

ขอบคุณครับพี่น้อง.............:burn:

ปล.เรื่องสวิทเกียร์ไม่เข้าที่ตำแหน่ง p- n ลองเช็คแล้วนะไม่เกี่ยวครับงานนี้
 


ลองเช็คพวกองศาไฟจุดระเบิดดูครับ ตรงที่เรียกว่ากะลาจานจ่ายลองบิดไปทางซ้ายหรือทางขวาดูน่าจะดีขึ้น -ยังไม่ดีขึ้นแนะนำให้ไปเช็ดมาร์คตัวแคมชาร์ปกับเพลาข้อเหวี่ยงดูครับ อาจจะเคลื่อนตัวได้ ลองดูครับ จากลูกค้าไฟเลี้ยว ลองดูนะครับ ผลเป็นไงบอกด้วยนะครับ
 
สงสัยไฟแก่

ปล.เหลืออย่างเดียวที่ไม่ได้เปลี่ยน ถ้าเปลี่ยนก็จบปัญหาทุกเครื่อง หุหุ :verwirrt:
 
อยากรู้จิง ๆ ครับพี่น้อง...........ว่าต้องทำอะไรอีก

ตอนนี้ที่ทำไปแล้ว.....หัวเทียนเปลี่ยนแล้ว ไดสตาร์ทเปลี่ยนแล้ว
แบตเปลี่ยนแล้ว รีเลย์สตาร์ทก็ติดแล้ว...AAC วาว เปลี่ยนแล้วล้างแล้ว แอร์โฟร์ล้างแล้ว กรองเป่าแล้ว ยังเหลืออะไรอีกพี่น้องช่วยบอกที
จะไล่ทำมันให้หมดเลย.....เบื่อจิง ๆ เรื่องนี้ :super:

แรก ๆ ก็ทีเดียวติด แต่ตอนนี้เริ่มหนักครับพี่น้องกว่าจะขุดกันขึ้น.....บางทีบิดแล้วเงียบก็มี บางทีดังรัว ๆ ก็มี....ส่วนใหญ่ จะดังรัว ๆ ...
นี้คือตอนสตาร์ทน้ำมันนะ ถ้าแก็สไม่ต้องพูดถึง ก่อนจะไปติดแก็สก็สตาร์ทยากแสนสาหัสแล้ว......

ขอบคุณครับพี่น้อง.............:burn:

ปล.เรื่องสวิทเกียร์ไม่เข้าที่ตำแหน่ง p- n ลองเช็คแล้วนะไม่เกี่ยวครับงานนี้


:redface: 1. อาการ Start ติดยาก (กรณีระบบไฟปกตินะครับ) หมายถึงว่าบิดกุญแจแล้วเครื่องหมุนแต่มันไม่ติด ลองเช็คแรงดันน้ำมันเชื่อเพลิงดูครับ หากรถที่ยังไม่มีเรกกูเรตแบบปรับได้ก็ให้ดึงสายแวคคั่มที่หัวเรกกูเรตออกดูครับแต่ถ้ามีเรคกูเรตแบบปรับได้ก็ลองหมุนเข้าไป1 รอบดูก่อนนะครับ แล้ว Start ดูใหม่ ถ้าติดแล้วอย่าลืมเสียบสายแวคคั่มกลับคืนด้วยนะครับ
2. การล้าง ACC VALVE ถ้าเราล้างแล้วและแน่ใจว่าสะอาด แต่ ต้องถามก่อนว่าใช้อะไรล้างครับ ถ้าใช้พวก Contact cleaner ล้างก็ควร ฉีดน้ำมันลงไปที่แกนของ โซลินอยล์ สักนิดก็ดีนะครับเพื่อหล่อลื่นหรือจาระบีขาวก็ได้ เพราะว่าถ้าใช้ Contact cleaner ล้างมันจะกำจัดสารหล่อลื่นออกไปจนหมด ทำให้การเคลื่อนตัวของแกน โซลินอยล์ ไม่สามารถเคลื่อนตัวได้คล่อง เลยอาจทำให้ในขณะที่ เริ่มStart ระบบไม่สามารถชดเชยอากาศให้เครื่องยนต์ในขณะ Strat ได้เลยทำให้ ติดยากครับ (ข้อนี้เวลา Start แล้วต้องเหยียบคันเร่ง ก็ใช่เลยครับ เป็นเพราะปริมาณอากาศไม่พอในขณะ Start แต่ถ้าเหยีบคันเร่งก็แล้วแต่มันยังไม่ติดอีก ข้ามข้อนี้ไปนะครับ)
3. แรงดันน้ำมันสูงเกินไป + ตั้งเขี้ยวหัวเทียนไม่ถูกต้องครับ ถ้าแรงดันในระบบสูง นั่นหมายถึง การฉีดเป็นฝอยละออง หรือ การสเปรย์ ของหัวฉีด ทำการฉีดน้ำมันในปริมาณมากกว่าปกติและแรงกว่าปกติ จึงมีผลทำให้ฝอยละอองที่ถูฏฉีดออกมา ไปกระทบกับเขี้ยว หัว
เทียน บวกกับ การตั้งเขี้ยวหัวเทียนไม่ถูกต้อง มันเลยมีผลทำให้หัวเทียนแฉะไปด้วยละอองน้ำมันเชื้อเพลิง หรือที่เรียกว่าหัวเทียนบอดครับ ลองวิเคราะเอานะครับ ว่าการที่ Stat ติดยากนั้นมันเข้าข่าย ในข้อไหน
4. ย้อนมาเรื่องแรงดันน้ำมันอีกครั้ง อิอิ พอดีนึกได้ ถ้าเราบิดกุญแจแล้ว ปั๊มติ๊กทำงานแล้ว บางทีอาจเป็นเพราะเรคกูเรตค้างนะครับ คือมัน By pass น้ำมันที่หัวเรคกูเรตกลับถังหมดอ่ะครับ

ทั้งหมดนี้ไม่ได้ถูกต้องเสมอไปนะครับเพียงแต่อยากแบ่งปันและอยากช่วยแก้ปัญหาให้เพื่อนๆครับ บางครั้งถ้า วิธีการแก้ตามหัวข้อต่างๆนี้ไม่ถูกต้อง ก็ขออภัยเพื่อนๆพี่ๆ ทุกคนด้วยนะครับ:redface:
 
เจ๋งมากครับ ได้ความรู้ดีๆ เพิ่มขึ้นอีกแล้ว
 
:redface: 1. อาการ Start ติดยาก (กรณีระบบไฟปกตินะครับ) หมายถึงว่าบิดกุญแจแล้วเครื่องหมุนแต่มันไม่ติด ลองเช็คแรงดันน้ำมันเชื่อเพลิงดูครับ หากรถที่ยังไม่มีเรกกูเรตแบบปรับได้ก็ให้ดึงสายแวคคั่มที่หัวเรกกูเรตออกดูครับแต่ถ้ามีเรคกูเรตแบบปรับได้ก็ลองหมุนเข้าไป1 รอบดูก่อนนะครับ แล้ว Start ดูใหม่ ถ้าติดแล้วอย่าลืมเสียบสายแวคคั่มกลับคืนด้วยนะครับ
2. การล้าง ACC VALVE ถ้าเราล้างแล้วและแน่ใจว่าสะอาด แต่ ต้องถามก่อนว่าใช้อะไรล้างครับ ถ้าใช้พวก Contact cleaner ล้างก็ควร ฉีดน้ำมันลงไปที่แกนของ โซลินอยล์ สักนิดก็ดีนะครับเพื่อหล่อลื่นหรือจาระบีขาวก็ได้ เพราะว่าถ้าใช้ Contact cleaner ล้างมันจะกำจัดสารหล่อลื่นออกไปจนหมด ทำให้การเคลื่อนตัวของแกน โซลินอยล์ ไม่สามารถเคลื่อนตัวได้คล่อง เลยอาจทำให้ในขณะที่ เริ่มStart ระบบไม่สามารถชดเชยอากาศให้เครื่องยนต์ในขณะ Strat ได้เลยทำให้ ติดยากครับ (ข้อนี้เวลา Start แล้วต้องเหยียบคันเร่ง ก็ใช่เลยครับ เป็นเพราะปริมาณอากาศไม่พอในขณะ Start แต่ถ้าเหยีบคันเร่งก็แล้วแต่มันยังไม่ติดอีก ข้ามข้อนี้ไปนะครับ)
3. แรงดันน้ำมันสูงเกินไป + ตั้งเขี้ยวหัวเทียนไม่ถูกต้องครับ ถ้าแรงดันในระบบสูง นั่นหมายถึง การฉีดเป็นฝอยละออง หรือ การสเปรย์ ของหัวฉีด ทำการฉีดน้ำมันในปริมาณมากกว่าปกติและแรงกว่าปกติ จึงมีผลทำให้ฝอยละอองที่ถูฏฉีดออกมา ไปกระทบกับเขี้ยว หัว
เทียน บวกกับ การตั้งเขี้ยวหัวเทียนไม่ถูกต้อง มันเลยมีผลทำให้หัวเทียนแฉะไปด้วยละอองน้ำมันเชื้อเพลิง หรือที่เรียกว่าหัวเทียนบอดครับ ลองวิเคราะเอานะครับ ว่าการที่ Stat ติดยากนั้นมันเข้าข่าย ในข้อไหน
4. ย้อนมาเรื่องแรงดันน้ำมันอีกครั้ง อิอิ พอดีนึกได้ ถ้าเราบิดกุญแจแล้ว ปั๊มติ๊กทำงานแล้ว บางทีอาจเป็นเพราะเรคกูเรตค้างนะครับ คือมัน By pass น้ำมันที่หัวเรคกูเรตกลับถังหมดอ่ะครับ

ทั้งหมดนี้ไม่ได้ถูกต้องเสมอไปนะครับเพียงแต่อยากแบ่งปันและอยากช่วยแก้ปัญหาให้เพื่อนๆครับ บางครั้งถ้า วิธีการแก้ตามหัวข้อต่างๆนี้ไม่ถูกต้อง ก็ขออภัยเพื่อนๆพี่ๆ ทุกคนด้วยนะครับ:redface:

เป็นประโยชน์มากๆ ครับ ตอนนี้ผมมีปัญหาเหมือนกันครับ คือหลังจากเปลี่ยนสายแวคคั่มมาสตาร์ทยากครับต้องเหยียบคันเร่งช่วยถึงจะติด ซึ่งก่อนเปลี่ยนติดง่ายมาก สาเหตุเนื่องมาจากหลังดับเครื่องมีน้ำมันซึมจากหัวเรกกูเรต ตัวด้านในที่ติดกับ ACC VALVE (เครื่อง 12 วาล์วเดิม) ดูสายแวคคั่มแล้วสายแข็ง,เริ่มแตก ,หลวมด้วย ผมเลยซื้อสายมาเปลี่ยนเป็นสายยางสีดำธรรมดาขนาดเดียวกัน น้ำมันไม่ซึมแล้วแต่ได้ของแถมเพิ่มมาคือ สตาร์ทยาก เป็นมาจนถึงทุกวันนี้ (เช็คระบบไฟแล้วปกติ ,ACC VALVE เพิ่งล้าง,ปั้มติ๊กแรงดันน้ำมันปกติ) ผมสังเกตขณะเครื่องติดเหมือนมีเสียงลม ฟี๊ดๆ มาจากสายยางลองขยับบางทีเสียงก็หาย รบกวนพี่ๆ ทุกท่านช่วยวิเคราะห์ด้วย และพอจะแก้ไขยังไงได้บ้าง (อยากเปลี่ยนเครื่องเต็มทีแต่ยังไม่มีตัง) ขอบคุณมากครับ
 
เป็นประโยชน์มากๆ ครับ ตอนนี้ผมมีปัญหาเหมือนกันครับ คือหลังจากเปลี่ยนสายแวคคั่มมาสตาร์ทยากครับต้องเหยียบคันเร่งช่วยถึงจะติด ซึ่งก่อนเปลี่ยนติดง่ายมาก สาเหตุเนื่องมาจากหลังดับเครื่องมีน้ำมันซึมจากหัวเรกกูเรต ตัวด้านในที่ติดกับ ACC VALVE (เครื่อง 12 วาล์วเดิม) ดูสายแวคคั่มแล้วสายแข็ง,เริ่มแตก ,หลวมด้วย ผมเลยซื้อสายมาเปลี่ยนเป็นสายยางสีดำธรรมดาขนาดเดียวกัน น้ำมันไม่ซึมแล้วแต่ได้ของแถมเพิ่มมาคือ สตาร์ทยาก เป็นมาจนถึงทุกวันนี้ (เช็คระบบไฟแล้วปกติ ,ACC VALVE เพิ่งล้าง,ปั้มติ๊กแรงดันน้ำมันปกติ) ผมสังเกตขณะเครื่องติดเหมือนมีเสียงลม ฟี๊ดๆ มาจากสายยางลองขยับบางทีเสียงก็หาย รบกวนพี่ๆ ทุกท่านช่วยวิเคราะห์ด้วย และพอจะแก้ไขยังไงได้บ้าง (อยากเปลี่ยนเครื่องเต็มทีแต่ยังไม่มีตัง) ขอบคุณมากครับ


เปลี่ยนสายแวคคั่มแล้วสตาร์ทยาก ต้องเหยีบคันเร่งช่วย ก็หมายความว่าระบบแวคคั่มเราดีแล้ว แต่ที่มีปัญหาคือตัวเรคกูเรตครับ ลองพิจารณาตามนะครับ
1. ก่อนเปลี่ยนสายแวคคั่ม จะมีน้ำมันซึม นั่นหมายถึงแรงดันที่มีในตัวเรคกูเรตมันพยายามที่จะเอาชนะแรงดันของสปริงที่อยู่ในตัวเรคกูเรตเพื่อที่จะระบายกลับถังแต่มันกลับยากเพราะระบบแวคคั่มรั่วหรือซึม เลยทำให้น้ำมันที่ไปอั้นอยู่ในตัวเรคกูเรตแทรกซึมตามขอบของเรคกูเรต
2. พอเปลี่ยนสายแวคคั่มมาสตาร์ทยากขึ้น ต้องเหยีบคันเร่งช่วย ก็เพราะ ระบบแวคคั่มมันสมบูรณ์มันจึงไปช่วยยกแผ่นไดอะแฟรมเพื่อที่จะระบายแรงดันได้ง่ายขึ้น น้ำมันก็เลยไม่ซึมแต่ผลตามมาคือ สตาร์ทยาก ข้อนี้คิดว่าเกิดจากสปริงของตัวเรคกูเรตมันล้าแล้วครับ(ถ้าก่อนเปลี่ยนสายแวคคั่มมาสตาร์ทง่ายก็ใช่เลยครับ) ลองเปลี่ยนเรคกูเรตนะครับ
3. ถ้าระบบไฟปกติ ก็น่าจะมาจากระบบน้ำมันครับ ส่วนใหญ่เกิดจากแรงดันน้ำมันไม่พอครับ
4. ถ้าเครื่องเดิมยังดีอยู่ ต้องขออภัยที่แนะนำนะครับ อย่าเปลี่ยนเลยครับ อาการบางอาการอาจทำให้ดูแล้วมันจุกจิก แต่ถ้าเรามองหาถึงต้นเหตุแล้ว มันจะไม่ยากอย่างที่คิดครับ เปลี่ยนเครื่องใหม่แล้วก็อาจจะเจอปัญหาจุกจิกแบบนี้เหมือนกัน แต่ก็ไม่ทุกคันนะครับแล้วแต่อายุการใช้งานของอุปกรณ์ ขออภัยอีกครั้งครับ และยินดีที่จะแบ่งปันประสบการณ์กับเพื่อน พี่น้อง ทุกคนครับ :redface: ไปทำงานก่อนครับพอดีแอบเข้ามา อิอิ
 
  • กระทู้ ผู้เขียน
  • #8
ขอบคุณทุกท่านจิง ๆ จากใจเลยครับ
เด๋วจะลองทำดูทุกกรณีเลย ครับว่ามันเป็นจากสาเหตุอะไร แล้วเด๋วจะมารายงานผลครับพี่น้อง

ขอบคุณมาก ๆ ครับ :smile: :smile: :smile:
 
ลองไล่เองที่ง่ายๆก่อน ทำเองทำเรื่อยๆละเอียดกว่า ไปให้ช่างทำ

งานยากค่อยไปหาช่าง เช่น วัดองศาไฟ อันนี้ใช้ เครื่องยิงจะแม่นกว่า ความรู้สึก บิดไปบิดมา

แล้วก็มารค์ของ สายพานไทมิ่งอีก

ว่าแต่ เคยวัดกำลังอัด มั่งหรือป่าว
 
เปลี่ยนสายแวคคั่มแล้วสตาร์ทยาก ต้องเหยีบคันเร่งช่วย ก็หมายความว่าระบบแวคคั่มเราดีแล้ว แต่ที่มีปัญหาคือตัวเรคกูเรตครับ ลองพิจารณาตามนะครับ
1. ก่อนเปลี่ยนสายแวคคั่ม จะมีน้ำมันซึม นั่นหมายถึงแรงดันที่มีในตัวเรคกูเรตมันพยายามที่จะเอาชนะแรงดันของสปริงที่อยู่ในตัวเรคกูเรตเพื่อที่จะระบายกลับถังแต่มันกลับยากเพราะระบบแวคคั่มรั่วหรือซึม เลยทำให้น้ำมันที่ไปอั้นอยู่ในตัวเรคกูเรตแทรกซึมตามขอบของเรคกูเรต
2. พอเปลี่ยนสายแวคคั่มมาสตาร์ทยากขึ้น ต้องเหยีบคันเร่งช่วย ก็เพราะ ระบบแวคคั่มมันสมบูรณ์มันจึงไปช่วยยกแผ่นไดอะแฟรมเพื่อที่จะระบายแรงดันได้ง่ายขึ้น น้ำมันก็เลยไม่ซึมแต่ผลตามมาคือ สตาร์ทยาก ข้อนี้คิดว่าเกิดจากสปริงของตัวเรคกูเรตมันล้าแล้วครับ(ถ้าก่อนเปลี่ยนสายแวคคั่มมาสตาร์ทง่ายก็ใช่เลยครับ) ลองเปลี่ยนเรคกูเรตนะครับ
3. ถ้าระบบไฟปกติ ก็น่าจะมาจากระบบน้ำมันครับ ส่วนใหญ่เกิดจากแรงดันน้ำมันไม่พอครับ
4. ถ้าเครื่องเดิมยังดีอยู่ ต้องขออภัยที่แนะนำนะครับ อย่าเปลี่ยนเลยครับ อาการบางอาการอาจทำให้ดูแล้วมันจุกจิก แต่ถ้าเรามองหาถึงต้นเหตุแล้ว มันจะไม่ยากอย่างที่คิดครับ เปลี่ยนเครื่องใหม่แล้วก็อาจจะเจอปัญหาจุกจิกแบบนี้เหมือนกัน แต่ก็ไม่ทุกคันนะครับแล้วแต่อายุการใช้งานของอุปกรณ์ ขออภัยอีกครั้งครับ และยินดีที่จะแบ่งปันประสบการณ์กับเพื่อน พี่น้อง ทุกคนครับ :redface: ไปทำงานก่อนครับพอดีแอบเข้ามา อิอิ

ตรงตามที่แนะนำเลยครับ ตอนนี้รู้ต้นเหตุแล้ว ขออภัยพี่เจ้าของกระทู้ด้วยครับที่เข้ามา พอดีมันตรงกับอาการที่ผมเจอ ขอบคุณทุกๆ ความช่วยเหลือครับ
 
ตรงตามที่แนะนำเลยครับ ตอนนี้รู้ต้นเหตุแล้ว ขออภัยพี่เจ้าของกระทู้ด้วยครับที่เข้ามา พอดีมันตรงกับอาการที่ผมเจอ ขอบคุณทุกๆ ความช่วยเหลือครับ


ยินดีด้วยครับ :redface:
 
ของผมเป็นกับเจ้าคอย คล้ายๆจานจ่ายที่หน้าเครื่องครับ Rb20 มันมีผลอย่างมากเลยครับกับการสตาร์ท ตอนนี้เอาของ rb20 โบมาใส่ หายสนิทแชะเดียวติดครับ
อันนี้นี่ลองคลายน๊อตแล้วหมุนปรับไฟดูมันก็ ช่วยได้นิดหน่อย แต่พอร้อนๆแล้วพาลเครื่องจะดับเอา อย่ารอให้มันเจ๊งเลยครับ ไม่ก็ยืมของเพื่อนๆมาลองก็ได้ครับ ตัวนึงไม่กี่พัน เอง
 
ตกลงเป็นที่อะไรครับ
 
รถ จขกท เขาขายไปแร้วนี่
 
อยากรู้จิง ๆ ครับพี่น้อง...........ว่าต้องทำอะไรอีก

ตอนนี้ที่ทำไปแล้ว.....หัวเทียนเปลี่ยนแล้ว ไดสตาร์ทเปลี่ยนแล้ว
แบตเปลี่ยนแล้ว รีเลย์สตาร์ทก็ติดแล้ว...AAC วาว เปลี่ยนแล้วล้างแล้ว แอร์โฟร์ล้างแล้ว กรองเป่าแล้ว ยังเหลืออะไรอีกพี่น้องช่วยบอกที
จะไล่ทำมันให้หมดเลย.....เบื่อจิง ๆ เรื่องนี้ :super:

แรก ๆ ก็ทีเดียวติด แต่ตอนนี้เริ่มหนักครับพี่น้องกว่าจะขุดกันขึ้น.....บางทีบิดแล้วเงียบก็มี บางทีดังรัว ๆ ก็มี....ส่วนใหญ่ จะดังรัว ๆ ...
นี้คือตอนสตาร์ทน้ำมันนะ ถ้าแก็สไม่ต้องพูดถึง ก่อนจะไปติดแก็สก็สตาร์ทยากแสนสาหัสแล้ว......

ขอบคุณครับพี่น้อง.............:burn:

ปล.เรื่องสวิทเกียร์ไม่เข้าที่ตำแหน่ง p- n ลองเช็คแล้วนะไม่เกี่ยวครับงานนี้

ขายรถไปเลยดีกว่าน้อง ปัญหามันเยอะก้อ..555
ปล.กระทู้ตั้งกะปี 08 อ่ะ ปัจจุบัน จขกท.เข้าป่าไปแล้วครับ
 

กรุณาปิด โปรแกรมบล๊อกโฆษณา เพราะเราอยู่ได้ด้วยโฆษณาที่ท่านเห็น
Please close the adblock program. Because we can live with the ads you see
กลับ
ยอดนิยม