วาว์ลน้ำทำหน้าที่ หลักๆ ก็รักษาอุณหภูมิของน้ำหรือระบบหล่อเย็นของเครื่องยนต์ ให้มีอุณหภูมิเหมาะสมในการใช้งาน เช่นตอนเช้าๆ วาว์ลน้ำจะปิด ไม่ให้น้ำในระบบหมุนเวียน จนกว่าจะถึงอุณหาภูมิทำงาน แล้วแต่สเปคของเครื่องยนต์แต่ละรุ่น วาว์ลน้ำก็จะเปิดให้เกิดหมุนเวียนของน้ำโดยให้น้ำร้อนจากเครื่องไหลเวียนเข้าสู่หม้อน้ำทำการระบายความร้อนแล้วไหลกลับเข้าเครื่องใหม่
กรณีไม่ใส่วาล์วน้ำ น้ำก็จะอยู่ในระบบและเมื่อสต๊าทเครื่องแล้ว ตัวปั้มน้ำก็จะทำหน้าที่ปั้มให้หมุนเวียนภายในระบบตลอดเวลา อุณหภูมิเครื่องก็จะขึ้นช้า รอบจะสูงอยู่ตลอดเวลาจนกว่าจะถึงอุณหภูมิที่เหมาะสมของเครื่องนั้นๆ ลองสังเกตดูตอนเช้าติดเครื่องใหม่ๆ รอบจะขึ้นสูงอยู่นานมาก รอบไม่ลงซักที แต่ถ้ามีวาล์วน้ำรอบจะขึ้นสูงตอนแรกๆ พักเดียวรอบก็จะลงมาปกติครับ และเมื่ออุณภูมิขึ้นช้าก็จะเกิดการสึกหรอและกินน้ำมันมากยิ่งขึ้น เครื่องยนต์โดยปกติจะทำงานได้ดีในอุณหภูมิที่เครื่องนั้นๆ กำหนดไว้
เย็นมากก็ไม่ดีระยะสั้นคงไม่มีปัญหาใดๆ กับเครื่องยนต์แต่จะเห็นผลในเครื่องการกินน้ำมันที่มากขึ้น ระยะยาวเมื่อเกิดการสึกหรอที่ละเล็กทีละน้อยไปเรื่อยก็มีผลกับเครื่องยนต์ครับ
ร้อนมากก็ไม่ดี อันนี้เห็นผลเร็วในระยะสั้น ถึงขั้นพังเลยครับ
บางคนก็บอกว่า ประเทศที่ผลิตรถยนต์ที่เค๊าออกแบบให้มีวาล์วน้ำเพราะต้องการกักเก็บความร้อนไว้ในเครื่องยนต์ระดับหนึ่ง อันจากประเทศนั้นๆ มีอากาศเย็นตลอดปี จึงต้องเก็บความร้อนสะสมไว้ในเครื่องยนต์เพื่อจะได้ทำงานดี และเมื่อถึงอุณหภูมิที่กำหนด ก็ให้วาล์วน้ำเปิดเพื่อให้น้ำในเครื่องไปทำการระบายความร้อนที่หม้อน้ำ แล้วเมื่ออุณภูมิลงตัววาล์วน้ำก็จะปิด แต่ในบ้านเราอากาศร้อนอยู่แล้วไม่จำเป็นต้องมีวาล์วน้ำก็ได้ ปล่อยให้น้ำหมุนวนในระบบแบบนั้นตลอดเวลาก็ไม่เป็นอะไร เพราะเครื่องก็ร้อนอยู่แล้ว+อากาศก็ร้อน - ด้วยระบายความร้อนจากน้ำตลอดเวลา ก็พอดีกับอุณหภูมิเครื่องยนต์..ซึ่งก็มีเหตุมีผลเหมือนกัน แต่โดยส่วนตัวเห็นว่าใส่ไปเถอะวาล์วน้ำอ่ะ ไม่กี่ร้อย.