ถามเรื่องวิธีไล่อากาศในหม้อน้ำหน่อยครับ

  • ผู้เริ่มหัวข้อ ผู้เริ่มหัวข้อ 2527
  • วันที่เริ่มต้น วันที่เริ่มต้น

กรุณาปิด โปรแกรมบล๊อกโฆษณา เพราะเราอยู่ได้ด้วยโฆษณาที่ท่านเห็น
Please close the adblock program. Because we can live with the ads you see

2527

Member
Register
เข้าร่วม
3 ก.ย. 2007
ข้อความ
190
  • กระทู้ ผู้เขียน
  • #1
มันไล่อากาศตรงไหนครับ เครื่อง rb แล้วเราต้องปิดฝาหม้อน้ำด้วยหรือป่าวครับ ตอนไล่อากาศ และ เราจะรู้ได้ยังไงว่าอากาศมันหมดแล้วครับ ขอบคุณครับ
 


เขาไอดี มีน๊อตไล่น้ำอยู่ครับ ตอนไล่น้ำ ผมก็เปิดฝาหม้อน้ำด้วยนะ
 
แล้วถ้าเป็น jz อะครับ
 
เปิดฝาหม้อน้ำแล้วสตาตเครื่องทิ้งไว้รอจนวาวน้ำเปิดให้น้ำวนก้น่าจะไล่ออกหมดแล้วมังครับ (รึเปล่า)
 
ถ้าเจ ก็ต้องไล่ที่ฝาหม้อน้ำอย่างเดียว แหละครับ
 
แล้วถ้าเป็น jz อะครับ

เปิดฝาหม้อน้ำแล้วสตาตเครื่องทิ้งไว้รอจนวาวน้ำเปิดให้น้ำวนก้น่าจะไล่ออกหมดแล้วมังครับ (รึเปล่า)

แล้ววิธีทำ ทำยังไงครับ ขอความรู้หน่อย ขอบคุณครับ

ตามหลักสูตร(ของผมเองอะนะ)หลังจากเติมน้ำให้เต็มตามที่ต้องการแล้ว อากาศในหม้อน้ำและในห้องเครื่องจะยังคงมีค้างอยู่ วิธีการไล่น้ำของผมคือ

สตาร์ดเครื่อง น้ำก้จะลดลงไปบ้างเราก้คอยเติมเรื่อยๆ เอามือบีบที่ท่อหม้อน้ำเพื่อไล่อากาศบางส่วนออกมา(เหมือนเร่งให้มันออกเร็วขึ้น)ถ้าท่อน้ำนั้นแข็งบีบไม่ค่อยจะลง ก้ควรเปลี่ยนท่อน้ำอันใหม่ซะ เมื่อพอน้ำเริ่มร้อนเนี๊ยมันจะเริ่มดันน้ำให้ล้นออกนอกหม้อน้ำ ผมก้จะเอาน้ำเปล่าเติมใส่ขวดใหญ่ขนาดประมาณ1ลิตรรึ1ลิตรครึ่งคว่ำลงไปที่ช่องเติมน้ำหม้อน้ำ แล้วขยับให้น้ำมันไหลซึมออกให้น้อยที่สุด(มันจะพอดีกัน ไม่ต้องเอามือจับไว้) หลังจากนั้นก้ปล่อยให้สตาร์ดทิ้งไว้ เราก้จะเห็นการถ่ายเท เปลี่ยนที่ของอากาศกับน้ำในขวดที่คว่ำไว้ และปล่อยให้ วาล์วน้ำทำงาน ซึ่งตัวเครื่องยนต์จะถ่ายเทเอาน้ำเก่าในเครื่องออกมาเปลี่ยนกะน้ำหม้อน้ำ ซึ่งมันจะพาเอาอากาศออกมาด้วย ถึงตรงนี้ น้ำในขวดจะถูกดูดลงไปไวมาก(ควรจะมีน้ำอยู่เกือบเต็มขวด)หลังจากวาล์วน้ำปิดแล้วเราก้ตบขวดน้ำออกจากหม้อน้ำได้(เพราะขวดมันจะรีบแบนและร้อนมาก) แล้วปิดฝาหม้อน้ำซะ
หลังจากนั้นควรเติมน้ำในถังพักไว้ให้เติมอีกทีเพราะการที่เราปล่อยให้วาล์วน้ำทำงานแค่ครั้งเดียวใช่ว่าอากาศในหม้อน้ำและห้องเครื่องจะหมดไป คือหลังจากขับรถออกไปข้างนอก ก้ลองเปิดดูอีกทีว่าน้ำในหม้อพักหายไปเยอะแค่ไหน แล้วก้เติมภายหลังซะอีกที
วิธีนี้คือการที่เราเปลี่ยนถ่ายน้ำรึเปลี่ยนหม้อน้ำลูกใหม่

แต่ถ้าเป็นวิธีที่ วางเครื่อง ลงเครื่องใหม่ จะต้องปล่อยให้ วาล์วน้ำทำงานซัก2-3ครั้ง จึงจะปิดฝาหม้อน้ำได้...

ก้น่าจะประมาณเนี๊ยอะครับ...
 
แก้ไขล่าสุด:
ถ้าเจ ก็ต้องไล่ที่ฝาหม้อน้ำอย่างเดียว แหละครับ


เราจะดูยังไงครับว่าวาล์วน้ำมันเปิดหรือไม่เปิดอะครับ
ขอบคุณครับ
 
เจโบว์ววววววว :coolly-0028:
 
ตามหลักสูตร(ของผมเองอะนะ)หลังจากเติมน้ำให้เต็มตามที่ต้องการแล้ว อากาศในหม้อน้ำและในห้องเครื่องจะยังคงมีค้างอยู่ วิธีการไล่น้ำของผมคือ

สตาร์ดเครื่อง น้ำก้จะลดลงไปบ้างเราก้คอยเติมเรื่อยๆ เอามือบีบที่ท่อหม้อน้ำเพื่อไล่อากาศบางส่วนออกมา(เหมือนเร่งให้มันออกเร็วขึ้น)ถ้าท่อน้ำนั้นแข็งบีบไม่ค่อยจะลง ก้ควรเปลี่ยนท่อน้ำอันใหม่ซะ เมื่อพอน้ำเริ่มร้อนเนี๊ยมันจะเริ่มดันน้ำให้ล้นออกนอกหม้อน้ำ ผมก้จะเอาน้ำเปล่าเติมใส่ขวดใหญ่ขนาดประมาณ1ลิตรรึ1ลิตรครึ่งคว่ำลงไปที่ช่องเติมน้ำหม้อน้ำ แล้วขยับให้น้ำมันไหลซึมออกให้น้อยที่สุด(มันจะพอดีกัน ไม่ต้องเอามือจับไว้) หลังจากนั้นก้ปล่อยให้สตาร์ดทิ้งไว้ เราก้จะเห็นการถ่ายเท เปลี่ยนที่ของอากาศกับน้ำในขวดที่คว่ำไว้ และปล่อยให้ วาล์วน้ำทำงาน ซึ่งตัวเครื่องยนต์จะถ่ายเทเอาน้ำเก่าในเครื่องออกมาเปลี่ยนกะน้ำหม้อน้ำ ซึ่งมันจะพาเอาอากาศออกมาด้วย ถึงตรงนี้ น้ำในขวดจะถูกดูดลงไปไวมาก(ควรจะมีน้ำอยู่เกือบเต็มขวด)หลังจากวาล์วน้ำปิดแล้วเราก้ตบขวดน้ำออกจากหม้อน้ำได้(เพราะขวดมันจะรีบแบนและร้อนมาก) แล้วปิดฝาหม้อน้ำซะ
หลังจากนั้นควรเติมน้ำในถังพักไว้ให้เติมอีกทีเพราะการที่เราปล่อยให้วาล์วน้ำทำงานแค่ครั้งเดียวใช่ว่าอากาศในหม้อน้ำและห้องเครื่องจะหมดไป คือหลังจากขับรถออกไปข้างนอก ก้ลองเปิดดูอีกทีว่าน้ำในหม้อพักหายไปเยอะแค่ไหน แล้วก้เติมภายหลังซะอีกที
วิธีนี้คือการที่เราเปลี่ยนถ่ายน้ำรึเปลี่ยนหม้อน้ำลูกใหม่

แต่ถ้าเป็นวิธีที่ วางเครื่อง ลงเครื่องใหม่ จะต้องปล่อยให้ วาล์วน้ำทำงานซัก2-3ครั้ง จึงจะปิดฝาหม้อน้ำได้...

ก้น่าจะประมาณเนี๊ยอะครับ...
ขอบเตียง แล้วจะลองทำดูครับ ขอบคุณครับ
 

กรุณาปิด โปรแกรมบล๊อกโฆษณา เพราะเราอยู่ได้ด้วยโฆษณาที่ท่านเห็น
Please close the adblock program. Because we can live with the ads you see
กลับ
ยอดนิยม