เครื่อง RB20 DE
1. เครื่องจะมีอาการเดินไม่เรียบ ซึ่งอาการนี้จะเป็นหลังจากขับรถออกจากบ้านไปแล้วประมาณ 15-20 กิโล เหมือนน้ำมันใกล้จะหมด เร่งรอบเครื่องสะดุด ลองแวะเข้าปั๊มเติมน้ำมันเต็มถัง ยังไม่หาย ลองดับเครื่องแล้วสตาร์ทใหม่เป็นเหมือนเดิม ลองฝืนขับไปสักพักก็รู้สึกได้กลิ่นน้ำมัน
2. เครื่องมีอาการสตาร์ทติดค่อนข้างยาก แต่เป็นบางครั้ง ปัจจุบันหายแระ แปลก......
:redface: ลองดูนะ อาการตามข้อ 1 อาจมาจากหลายสาเหตุที่น่าจะป็นไปได้ดังต่อไปนี้
- หัวฉีดรั่วซึม สังเกตุตรงบริเวณปลั๊กหัวฉีดนะครับ จะมีคราบน้ำมันเบนซินเกาะอยู่ เมื่อมันรั่วหรือซึม ในขณะเครื่องร้อนมันจะทำให้เหล็ก(ตัวหัวฉีด) ขยายตัวตรงรอยต่อระหว่างเหล็กกับพลาสติกอ่ะครับ เลยทำให้แรงดันน้ำมันเบนซินภายในหัวฉีดลดลง การฉีดเป็นฝอยละอองของน้ำมันจึงไม่ดีเท่าที่ควร เลยทำให้การจุดละเบิดก็ไม่สมบูรณ์ไปด้วยเครื่องจึงสั่นบ้างไม่สั่นบ้าง ถ้าเป็นแบบนี้เราสามารถพิสูจน์ได้ว่ามันเผาไหม้หมด หรือไม่หมด วิธีก็คือถอดหัวเทียนออกมาตรวจดูครับว่ามันเยิ้ม หรือมีคราบเขม่าสีดำแฉะๆเกาะหรือไม่
-ยางคอยรั่วหรือเสื่อม ยางตัวที่ครอบหัวเทียนอ่ะครับ ทำให้ไฟกระโดดลงกราวที่ตัวเครื่อง แทนที่จะไปลงกราวที่หัวเทียน ถ้าเป็นแบบนี้สังเกตุที่ยางครับมันจะมีรอยขาวๆ คล้ายๆรอยขี้เกลือจับเป็นดวงๆตรงบริเวณที่มันรั่วครับ สาเหตุนี้ก็เลยทำให้เมื่อเหยียบคันเร่งทันทีหรือเร่งเครื่องก็ตาม น้ำมันที่ฉีดออกมามาก แต่ไม่เกิดการจุดระเบิดหรือบางทีอาจจะจุดระเบิดแต่ก็ไม่สมบูรณ์เพราะกระแสไฟมาไม่เต็มที่ ก็อาจทำให้เครื่องสะดุดได้ครับ
- อาการอย่างอื่นที่น่าจะเป็นไปได้อีกก็คือ แอร์โฟล์สกปรก ถ้าแอร์โฟล์สกปรก มันจะกินน้ำมันควบคู่ไปด้วยครับ แต่ถ้าล้างแอร์โฟล์แล้วไม่หายให้ลองวัดค่าดูนะครับว่าแอร์โฟล์เสียหรือไม่ ตามนี้ครับ
1 ถอดแอร์โฟล์ออก มา
2 หันตัวปลั๊กเสียบเข้าหาตัวให้นับขั้วทางซ้ายมือสุดเป็นขั้วที่1นะครับ)
3 เอาไฟ + เข้าที่ ขั้วที่ 5 ไฟลบเข้าขั้วที่3 (ให้ตัวครีบหนีบเอานะครับ ระวังมันช้อตขั้วกันนะ)
4 เอามิเตอร์วัดที่ ขั้ว 2 กับขั้ว 4 ครับ ถ้าใช้ได้ต้องอ่านค่าได้ ประมาณ1.8-2.2 โวล์
แต่ถ้าอ่านได้ต่ำกว่า0.8 โวล์แสดงว่าแอร์โฟล์ ม่องไปแล้ว อิอิ
ขี้เกียจพิมละครับ เดียวมาใหม่ แหะๆ:biggrin:
ป.ล มันจะใช่ป่าวไม่รู้นะครับ ก็แค่ให้ความเห็นเพิ่มเติม :biggrin: