ช่วยวิเคราะห์ด้วยคับ

  • ผู้เริ่มหัวข้อ ผู้เริ่มหัวข้อ A31307
  • วันที่เริ่มต้น วันที่เริ่มต้น

กรุณาปิด โปรแกรมบล๊อกโฆษณา เพราะเราอยู่ได้ด้วยโฆษณาที่ท่านเห็น
Please close the adblock program. Because we can live with the ads you see

A31307

สมาชิกชมรมเซฟิโร่-ไทยแลนด์
Cefiro-Thailand Members
เข้าร่วม
16 ก.พ. 2007
ข้อความ
185
  • กระทู้ ผู้เขียน
  • #1

เครื่อง RB20 DE

1. เครื่องจะมีอาการเดินไม่เรียบ ซึ่งอาการนี้จะเป็นหลังจากขับรถออกจากบ้านไปแล้วประมาณ 15-20 กิโล เหมือนน้ำมันใกล้จะหมด เร่งรอบเครื่องสะดุด ลองแวะเข้าปั๊มเติมน้ำมันเต็มถัง ยังไม่หาย ลองดับเครื่องแล้วสตาร์ทใหม่เป็นเหมือนเดิม ลองฝืนขับไปสักพักก็รู้สึกได้กลิ่นน้ำมัน
2. เครื่องมีอาการสตาร์ทติดค่อนข้างยาก แต่เป็นบางครั้ง ปัจจุบันหายแระ แปลก......
 


ลองถอดแอร์โฟล์วมาล้างดูก่อนคับ..(ใช้ฟิลลิปป๋องฟ้าฉีดเข้าไปตรงเซ็นเซอร์ข้างใน)
มันอาจสกปรกแร้วพาลทำให้กล่องสั่งจ่ายน้ำมันหนาไป..
ไหนๆถอดแอร์โฟล์วแร้วก็ทำความสะอาดกรองอากาศไปด้วยเรย... :smile:
 
  • กระทู้ ผู้เขียน
  • #3
ขอบคุณมากคับ
 
เครื่อง RB20 DE

1. เครื่องจะมีอาการเดินไม่เรียบ ซึ่งอาการนี้จะเป็นหลังจากขับรถออกจากบ้านไปแล้วประมาณ 15-20 กิโล เหมือนน้ำมันใกล้จะหมด เร่งรอบเครื่องสะดุด ลองแวะเข้าปั๊มเติมน้ำมันเต็มถัง ยังไม่หาย ลองดับเครื่องแล้วสตาร์ทใหม่เป็นเหมือนเดิม ลองฝืนขับไปสักพักก็รู้สึกได้กลิ่นน้ำมัน
2. เครื่องมีอาการสตาร์ทติดค่อนข้างยาก แต่เป็นบางครั้ง ปัจจุบันหายแระ แปลก......

คล้ายกันมาก
1.มีกลิ่นน้ำมัน....คาดว่ามีการรั่วไหลนะ ของผมเหม็นอยู่นาน เป็นๆหายๆนั้นไม่รู้เพราะอะไร พอเติมโซฮอลจะไม่ค่อยมีกลิ่น แต่พอเติมเบนซินฉุนกึ้ก
ล่าสุดมีกลิ่นออกมา ตัดสินใจก้มดูที่หัวฉีดสูบแรก มันมีคราบสกปรก เลยเอาฟิลิปฟ้าฉีดดูให้สะอาดแล้วติดเครื่องอีกที ....มันนั่นเอง ซึมออกจากตรงนั้น
แต่แปลกอย่าง พอไปถ่ายน้ำมันเครื่องแล้วกลิ่นหายไป แล้วตรงนั้นก้อไม่มีการสกปรกอีกเลย

2.อาการเดียวกันอีกล่ะ แต่ไม่ซีเรียสเท่าไหร่ บางทีติดยากหน่อย หลายครั้งกว่าจะติด แต่มันก้อติด มีลุ้นดีเหมือนกันครับ ช่วงนี้อากาศเย็นๆก้อเป็นนะ
 
เครื่อง RB20 DE

1. เครื่องจะมีอาการเดินไม่เรียบ ซึ่งอาการนี้จะเป็นหลังจากขับรถออกจากบ้านไปแล้วประมาณ 15-20 กิโล เหมือนน้ำมันใกล้จะหมด เร่งรอบเครื่องสะดุด ลองแวะเข้าปั๊มเติมน้ำมันเต็มถัง ยังไม่หาย ลองดับเครื่องแล้วสตาร์ทใหม่เป็นเหมือนเดิม ลองฝืนขับไปสักพักก็รู้สึกได้กลิ่นน้ำมัน
2. เครื่องมีอาการสตาร์ทติดค่อนข้างยาก แต่เป็นบางครั้ง ปัจจุบันหายแระ แปลก......

ไม่รู้จะเกี่ยวรึป่าวนะ......เป็นคล้ายๆ ผม พอเร่งเครื่องจะสะดุด
พอผมเปลี่ยนกรองเบนซิน หายเลย :smile: :smile: :smile:
 
นั่นแหละครับ สาเหตุน่าจะเป็นเหมือนของพี่โด คือ กรอง เบนซิน สกปรก ครับลองเปลี่ยนดู นะครับไม่กี่ตังค์เอง :redface:
 
แก้อะไรไปแล้ว ได้ผลยังไงก้อมาอัพกันด้วยเด้อ.........
 
  • กระทู้ ผู้เขียน
  • #8
ขอบคุณทุกคำแนะนำคับ จะลองแก้ไขตามที่แนะนำคับ ผลเป็นอย่างไรมากรายงานแน่นอนคับ
 
  • กระทู้ ผู้เขียน
  • #9
นั่นแหละครับ สาเหตุน่าจะเป็นเหมือนของพี่โด คือ กรอง เบนซิน สกปรก ครับลองเปลี่ยนดู นะครับไม่กี่ตังค์เอง :redface:
จัดการเปลี่ยนกรองเบนซินแล้วคับ แต่ไม่หาย คือถ้าเครื่องเย็น เครื่องมันเดินปกติ แต่พอเครื่องร้อนแล้วเนี้ยะ เริ่มสั่นเลยคับ ไม่รู้เป็นที่หัวเทียนป่าว :frown:
 
เป็นที่ คลอย์จุดระเบิดริป่าวครับ ลองหาของพรรคพวกมาสับดู
 
  • กระทู้ ผู้เขียน
  • #11
เป็นที่ คลอย์จุดระเบิดริป่าวครับ ลองหาของพรรคพวกมาสับดู
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำคับ จะลองแก้ไขตามที่แนะนำคับ
ผลเป็นไงจะแจ้งให้ทราบ:smile:
 
เครื่อง RB20 DE

1. เครื่องจะมีอาการเดินไม่เรียบ ซึ่งอาการนี้จะเป็นหลังจากขับรถออกจากบ้านไปแล้วประมาณ 15-20 กิโล เหมือนน้ำมันใกล้จะหมด เร่งรอบเครื่องสะดุด ลองแวะเข้าปั๊มเติมน้ำมันเต็มถัง ยังไม่หาย ลองดับเครื่องแล้วสตาร์ทใหม่เป็นเหมือนเดิม ลองฝืนขับไปสักพักก็รู้สึกได้กลิ่นน้ำมัน
2. เครื่องมีอาการสตาร์ทติดค่อนข้างยาก แต่เป็นบางครั้ง ปัจจุบันหายแระ แปลก......
:redface: ลองดูนะ อาการตามข้อ 1 อาจมาจากหลายสาเหตุที่น่าจะป็นไปได้ดังต่อไปนี้
- หัวฉีดรั่วซึม สังเกตุตรงบริเวณปลั๊กหัวฉีดนะครับ จะมีคราบน้ำมันเบนซินเกาะอยู่ เมื่อมันรั่วหรือซึม ในขณะเครื่องร้อนมันจะทำให้เหล็ก(ตัวหัวฉีด) ขยายตัวตรงรอยต่อระหว่างเหล็กกับพลาสติกอ่ะครับ เลยทำให้แรงดันน้ำมันเบนซินภายในหัวฉีดลดลง การฉีดเป็นฝอยละอองของน้ำมันจึงไม่ดีเท่าที่ควร เลยทำให้การจุดละเบิดก็ไม่สมบูรณ์ไปด้วยเครื่องจึงสั่นบ้างไม่สั่นบ้าง ถ้าเป็นแบบนี้เราสามารถพิสูจน์ได้ว่ามันเผาไหม้หมด หรือไม่หมด วิธีก็คือถอดหัวเทียนออกมาตรวจดูครับว่ามันเยิ้ม หรือมีคราบเขม่าสีดำแฉะๆเกาะหรือไม่
-ยางคอยรั่วหรือเสื่อม ยางตัวที่ครอบหัวเทียนอ่ะครับ ทำให้ไฟกระโดดลงกราวที่ตัวเครื่อง แทนที่จะไปลงกราวที่หัวเทียน ถ้าเป็นแบบนี้สังเกตุที่ยางครับมันจะมีรอยขาวๆ คล้ายๆรอยขี้เกลือจับเป็นดวงๆตรงบริเวณที่มันรั่วครับ สาเหตุนี้ก็เลยทำให้เมื่อเหยียบคันเร่งทันทีหรือเร่งเครื่องก็ตาม น้ำมันที่ฉีดออกมามาก แต่ไม่เกิดการจุดระเบิดหรือบางทีอาจจะจุดระเบิดแต่ก็ไม่สมบูรณ์เพราะกระแสไฟมาไม่เต็มที่ ก็อาจทำให้เครื่องสะดุดได้ครับ
- อาการอย่างอื่นที่น่าจะเป็นไปได้อีกก็คือ แอร์โฟล์สกปรก ถ้าแอร์โฟล์สกปรก มันจะกินน้ำมันควบคู่ไปด้วยครับ แต่ถ้าล้างแอร์โฟล์แล้วไม่หายให้ลองวัดค่าดูนะครับว่าแอร์โฟล์เสียหรือไม่ ตามนี้ครับ
1 ถอดแอร์โฟล์ออก มา
2 หันตัวปลั๊กเสียบเข้าหาตัวให้นับขั้วทางซ้ายมือสุดเป็นขั้วที่1นะครับ)
3 เอาไฟ + เข้าที่ ขั้วที่ 5 ไฟลบเข้าขั้วที่3 (ให้ตัวครีบหนีบเอานะครับ ระวังมันช้อตขั้วกันนะ)
4 เอามิเตอร์วัดที่ ขั้ว 2 กับขั้ว 4 ครับ ถ้าใช้ได้ต้องอ่านค่าได้ ประมาณ1.8-2.2 โวล์
แต่ถ้าอ่านได้ต่ำกว่า0.8 โวล์แสดงว่าแอร์โฟล์ ม่องไปแล้ว อิอิ
ขี้เกียจพิมละครับ เดียวมาใหม่ แหะๆ:biggrin:

ป.ล มันจะใช่ป่าวไม่รู้นะครับ ก็แค่ให้ความเห็นเพิ่มเติม :biggrin:
 
:redface: ลองดูนะ อาการตามข้อ 1 อาจมาจากหลายสาเหตุที่น่าจะป็นไปได้ดังต่อไปนี้
- หัวฉีดรั่วซึม สังเกตุตรงบริเวณปลั๊กหัวฉีดนะครับ จะมีคราบน้ำมันเบนซินเกาะอยู่ เมื่อมันรั่วหรือซึม ในขณะเครื่องร้อนมันจะทำให้เหล็ก(ตัวหัวฉีด) ขยายตัวตรงรอยต่อระหว่างเหล็กกับพลาสติกอ่ะครับ เลยทำให้แรงดันน้ำมันเบนซินภายในหัวฉีดลดลง การฉีดเป็นฝอยละอองของน้ำมันจึงไม่ดีเท่าที่ควร เลยทำให้การจุดละเบิดก็ไม่สมบูรณ์ไปด้วยเครื่องจึงสั่นบ้างไม่สั่นบ้าง ถ้าเป็นแบบนี้เราสามารถพิสูจน์ได้ว่ามันเผาไหม้หมด หรือไม่หมด วิธีก็คือถอดหัวเทียนออกมาตรวจดูครับว่ามันเยิ้ม หรือมีคราบเขม่าสีดำแฉะๆเกาะหรือไม่
-ยางคอยรั่วหรือเสื่อม ยางตัวที่ครอบหัวเทียนอ่ะครับ ทำให้ไฟกระโดดลงกราวที่ตัวเครื่อง แทนที่จะไปลงกราวที่หัวเทียน ถ้าเป็นแบบนี้สังเกตุที่ยางครับมันจะมีรอยขาวๆ คล้ายๆรอยขี้เกลือจับเป็นดวงๆตรงบริเวณที่มันรั่วครับ สาเหตุนี้ก็เลยทำให้เมื่อเหยียบคันเร่งทันทีหรือเร่งเครื่องก็ตาม น้ำมันที่ฉีดออกมามาก แต่ไม่เกิดการจุดระเบิดหรือบางทีอาจจะจุดระเบิดแต่ก็ไม่สมบูรณ์เพราะกระแสไฟมาไม่เต็มที่ ก็อาจทำให้เครื่องสะดุดได้ครับ
- อาการอย่างอื่นที่น่าจะเป็นไปได้อีกก็คือ แอร์โฟล์สกปรก ถ้าแอร์โฟล์สกปรก มันจะกินน้ำมันควบคู่ไปด้วยครับ แต่ถ้าล้างแอร์โฟล์แล้วไม่หายให้ลองวัดค่าดูนะครับว่าแอร์โฟล์เสียหรือไม่ ตามนี้ครับ
1 ถอดแอร์โฟล์ออก มา
2 หันตัวปลั๊กเสียบเข้าหาตัวให้นับขั้วทางซ้ายมือสุดเป็นขั้วที่1นะครับ)
3 เอาไฟ + เข้าที่ ขั้วที่ 5 ไฟลบเข้าขั้วที่3 (ให้ตัวครีบหนีบเอานะครับ ระวังมันช้อตขั้วกันนะ)
4 เอามิเตอร์วัดที่ ขั้ว 2 กับขั้ว 4 ครับ ถ้าใช้ได้ต้องอ่านค่าได้ ประมาณ1.8-2.2 โวล์
แต่ถ้าอ่านได้ต่ำกว่า0.8 โวล์แสดงว่าแอร์โฟล์ ม่องไปแล้ว อิอิ
ขี้เกียจพิมละครับ เดียวมาใหม่ แหะๆ:biggrin:

ป.ล มันจะใช่ป่าวไม่รู้นะครับ ก็แค่ให้ความเห็นเพิ่มเติม :biggrin:

โอ๊วววว....ลึกๆแบบนี้หาไม่ง่าย เก็บไว้ๆครับ :byebye:
 
  • กระทู้ ผู้เขียน
  • #14
:redface: ลองดูนะ อาการตามข้อ 1 อาจมาจากหลายสาเหตุที่น่าจะป็นไปได้ดังต่อไปนี้
- หัวฉีดรั่วซึม สังเกตุตรงบริเวณปลั๊กหัวฉีดนะครับ จะมีคราบน้ำมันเบนซินเกาะอยู่ เมื่อมันรั่วหรือซึม ในขณะเครื่องร้อนมันจะทำให้เหล็ก(ตัวหัวฉีด) ขยายตัวตรงรอยต่อระหว่างเหล็กกับพลาสติกอ่ะครับ เลยทำให้แรงดันน้ำมันเบนซินภายในหัวฉีดลดลง การฉีดเป็นฝอยละอองของน้ำมันจึงไม่ดีเท่าที่ควร เลยทำให้การจุดละเบิดก็ไม่สมบูรณ์ไปด้วยเครื่องจึงสั่นบ้างไม่สั่นบ้าง ถ้าเป็นแบบนี้เราสามารถพิสูจน์ได้ว่ามันเผาไหม้หมด หรือไม่หมด วิธีก็คือถอดหัวเทียนออกมาตรวจดูครับว่ามันเยิ้ม หรือมีคราบเขม่าสีดำแฉะๆเกาะหรือไม่
-ยางคอยรั่วหรือเสื่อม ยางตัวที่ครอบหัวเทียนอ่ะครับ ทำให้ไฟกระโดดลงกราวที่ตัวเครื่อง แทนที่จะไปลงกราวที่หัวเทียน ถ้าเป็นแบบนี้สังเกตุที่ยางครับมันจะมีรอยขาวๆ คล้ายๆรอยขี้เกลือจับเป็นดวงๆตรงบริเวณที่มันรั่วครับ สาเหตุนี้ก็เลยทำให้เมื่อเหยียบคันเร่งทันทีหรือเร่งเครื่องก็ตาม น้ำมันที่ฉีดออกมามาก แต่ไม่เกิดการจุดระเบิดหรือบางทีอาจจะจุดระเบิดแต่ก็ไม่สมบูรณ์เพราะกระแสไฟมาไม่เต็มที่ ก็อาจทำให้เครื่องสะดุดได้ครับ
- อาการอย่างอื่นที่น่าจะเป็นไปได้อีกก็คือ แอร์โฟล์สกปรก ถ้าแอร์โฟล์สกปรก มันจะกินน้ำมันควบคู่ไปด้วยครับ แต่ถ้าล้างแอร์โฟล์แล้วไม่หายให้ลองวัดค่าดูนะครับว่าแอร์โฟล์เสียหรือไม่ ตามนี้ครับ
1 ถอดแอร์โฟล์ออก มา
2 หันตัวปลั๊กเสียบเข้าหาตัวให้นับขั้วทางซ้ายมือสุดเป็นขั้วที่1นะครับ)
3 เอาไฟ + เข้าที่ ขั้วที่ 5 ไฟลบเข้าขั้วที่3 (ให้ตัวครีบหนีบเอานะครับ ระวังมันช้อตขั้วกันนะ)
4 เอามิเตอร์วัดที่ ขั้ว 2 กับขั้ว 4 ครับ ถ้าใช้ได้ต้องอ่านค่าได้ ประมาณ1.8-2.2 โวล์
แต่ถ้าอ่านได้ต่ำกว่า0.8 โวล์แสดงว่าแอร์โฟล์ ม่องไปแล้ว อิอิ
ขี้เกียจพิมละครับ เดียวมาใหม่ แหะๆ:biggrin:

ป.ล มันจะใช่ป่าวไม่รู้นะครับ ก็แค่ให้ความเห็นเพิ่มเติม :biggrin:
หากพบว่าเป็นอาการตามข้างต้น คือ หัวฉีดรั่วซึม ทำให้หัวเทียนสกปรก ควรเปลี่ยนหัวฉีดใช่ไหมคับ หรือ
กรณียางคอยรั่วหรือเสื่อมต้องเปลี่ยนทั้งชุดคอยหรือป่าว แล้วควรหาซื้ออะหลั่ย ทั้ง 2 รายการได้ที่ไหน คับ
ราคาประมาณเท่าไหร่ แล้วเจ้าหัวฉีด กับยางคอย สามารถนำของ เครื่อง RB 20 NEO มาลองเปลี่ยนดูก่อนได้หรือป่าว :tongue: :tongue:
 
ไม่ได้เข้ามานาน ขอโทษครับ หายหรือยังก็ไม่รู้ ถ้าหายแล้วรบกวนช่วยอัทเดทให้ฟังบ้างนะครับเพราะจะได้เก็บไว้เป็นวิธีแก้ให้เพื่อนๆต่อไปครับ

กรณีหัวฉีดรั่วซึม ของผมเองไม่ได้เปลี่ยนผมใช้ซีเมนต์เหล็กซีลขอบระหว่างพลาสตกกับโครงเหล็ก เพราะที่รั่วมันมักจะรั่วบริเวณ รอยต่อระหว่างพลาสติกกับเหล็กตรงนั้นครับ ผมทำทั้งหมดหกหัว ใช้ได้ดี ปกติไม่รั่วไม่อันตราย ใช้ยันเครื่องพังครับ ตอนหลังถึงได้วางเครื่องใหม่ ที่เครื่องพัง(เครื่องเดิม RB20 24V auto) เกียร์มันพังครับเลยยกเครื่องเลย

ยางคอยรั่ว หากจะปลี่ยนแค่ยางคิดว่าน่าจะหายากครับ แต่ไดเร็กคอยล์แบบนี้โอกาสรั่วน้อย แต่ก็มีให้เห็นกันบ่อย ส่วนใหย่จะเกิดจากคอยล์เสื่อมมากกว่า หาซื้อได้ที่เชียงกง หกตัว ทั้งคอยล์ทั้งยางมาทั้งชุด ผมเคยไปเอามา 2000 ครับ บางร้าน ขายตัวละ 500 ครับ หาหลายๆร้านจะได้ของถูก

หัวฉีด นีโอใส่แทนกันไม่ได้ครับ ปลั๊กไม่ตรงกัน



ขอโทษที่ตอบช้านะครับ ผมไม่ค่อยได้เข้ามา ผมก็ไม่ได้เก่งอะไรแต่หากช่วยแนะนำได้ก็จะแนะนำให้ครับ
 

กรุณาปิด โปรแกรมบล๊อกโฆษณา เพราะเราอยู่ได้ด้วยโฆษณาที่ท่านเห็น
Please close the adblock program. Because we can live with the ads you see
กลับ
ยอดนิยม