• สวัสดีครับชาวโลมาสีฟ้า cefiro-thailand.com

    เว็บไซต์แห่งนี้เราเปิดให้ใช้งานกับฟรีๆ สามารถโพสต์อัพเดทสถานการณ์ต่างๆข่าวสารบ้านเมืองและข่าวสารของกลุ่ม cefiro-thailand.com ได้เต็มที่เลยนะครับขอแค่ไม่เป็นการปั่นกระทู้หรือโฆษณาอะไรที่มันล่อแหลมจนเกินไป
    เว็บไซต์ไม่ต้องเสียค่าสมัครใดใดทั้งสิ้นมีข้อเสนอแนะอะไรสามารถแนะนำเข้ามาได้ครับยินดีปรับแต่งและแก้ไขถ้าสามารถทำได้

    กฎระเบียบของเราก็ไม่มีอะไรมากท่านสามารถใช้งานได้เต็มที่

****ถามเรื่องเรกูเรเตอร์หน่อยคครับ****

  • ผู้เริ่มหัวข้อ ผู้เริ่มหัวข้อ panpravong
  • วันที่เริ่มต้น วันที่เริ่มต้น

กรุณาปิด โปรแกรมบล๊อกโฆษณา เพราะเราอยู่ได้ด้วยโฆษณาที่ท่านเห็น
Please close the adblock program. Because we can live with the ads you see

panpravong

Active member
Register
เข้าร่วม
9 เม.ย. 2007
ข้อความ
1,019
  • กระทู้ ผู้เขียน
  • #1
ผมรู้สึกว่ารถมันกินน้ำมันอะครับ ไม่รู้มันเกี่ยวกับเรกูเรเตอร์มั้ยครับ
รถผมเครื่อง 1j bo auto เดิม ๆ ครับ
คือ ซื้อรถมาก็มีเรกูเรเตอร์แต่งมาด้วยอะครับ
ถ้าถอดออกจะดีมั้ยครับ จะประหยัดน้ำมันขึ้นมั้ยครับ หรือต้องตั้งยังงัยให้ประหยัด ๆ
รบกวนหน่อยครับ ขอบคุณครับ
 


ลองดูที่กล่องก่อน หากล่องมาสับดู regulator มีหน้าที่ปรับแรงดันนํ้ามัน
 
มีเกจวัดแรงดันเชื้อเพลิงมั้ยครับ จะได้รู้ว่าปรับเรคกุเรตใว้ขนาดใหน
 
ถ้าจำาไม่ผิดแรงดันนำ้มันเชื้อเพลิงเครื่องเดิมๆๆประมาณ2.5- 3 bar มากกว่านี้หัวฉีดอาจแตกได้
 
  • กระทู้ ผู้เขียน
  • #5
อยู่ที่ประมาณ 2.5 - 3 ครับ ปกติมั้ยครับ
 
ผมรู้สึกว่ารถมันกินน้ำมันอะครับ ไม่รู้มันเกี่ยวกับเรกูเรเตอร์มั้ยครับ
รถผมเครื่อง 1j bo auto เดิม ๆ ครับ
คือ ซื้อรถมาก็มีเรกูเรเตอร์แต่งมาด้วยอะครับ
ถ้าถอดออกจะดีมั้ยครับ จะประหยัดน้ำมันขึ้นมั้ยครับ หรือต้องตั้งยังงัยให้ประหยัด ๆ
รบกวนหน่อยครับ ขอบคุณครับ
รถเข็มก็กินน้ำมัน j โบ เดิมๆๆขับเล่นวันหยุดอย่างเดียว วันทำงานใช้แจ็สกับยาริส ว่าจะติดกูเรเตอร์ ไม่ติดล่ะ:coolly-0033:
 
  • กระทู้ ผู้เขียน
  • #8
รถเข็มก็กินน้ำมัน j โบ เดิมๆๆขับเล่นวันหยุดอย่างเดียว วันทำงานใช้แจ็สกับยาริส ว่าจะติดกูเรเตอร์ ไม่ติดล่ะ:coolly-0033:

คือผมซื้อรถมามันก็ติดมาแล้วครับ ผมเลยไม่รู้ว่าถ้าไม่ติดมันจะเป็นยังงัยอะครับ(ไม่รู้ความแตกต่าง) แต่ผมรู้สึกว่ามันกินน้ำมันชิบเป้งเลย แล้วรถผมไมล์ไม่ขึ้นด้วย ก็เลยเช็คไม่ได้ว่ากี่ฌโลลิตรอะครับ
 
คือผมซื้อรถมามันก็ติดมาแล้วครับ ผมเลยไม่รู้ว่าถ้าไม่ติดมันจะเป็นยังงัยอะครับ(ไม่รู้ความแตกต่าง) แต่ผมรู้สึกว่ามันกินน้ำมันชิบเป้งเลย แล้วรถผมไมล์ไม่ขึ้นด้วย ก็เลยเช็คไม่ได้ว่ากี่ฌโลลิตรอะครับ
รถเข็มก็ไมล์ไม่ขึ้น..5555555:coolly-0033:
 
ที่คิดว่า กิน อาจจะไม่ก็ก็ได้ ถ้าวัดระยะทาง เทียบกับจำนวนน้ำมัน/ลิตร ที่เติมไป

อย่าวัดเป็นตัวเงินครับ เพราะราคา มันเปลี่ยนแปลงตลอด
 
  • กระทู้ ผู้เขียน
  • #11
ขอบคุณครับ
 
เอา เรกูเรเตอร์ เดิมที่รถผมไปใส่ไหมอะครับ...แลกกัน...55555

เพื่อประหยัดลงจริง ส่วนของผมอะ จอดซะมากกว่าขับ ฮิ้ว....
 

ไฟล์แนบ

  • 17102008320.jpg
    17102008320.jpg
    34.9 กิโลไบต์ · จำนวนการดู: 86
คือผมซื้อรถมามันก็ติดมาแล้วครับ ผมเลยไม่รู้ว่าถ้าไม่ติดมันจะเป็นยังงัยอะครับ(ไม่รู้ความแตกต่าง) แต่ผมรู้สึกว่ามันกินน้ำมันชิบเป้งเลย แล้วรถผมไมล์ไม่ขึ้นด้วย ก็เลยเช็คไม่ได้ว่ากี่ฌโลลิตรอะครับ
เค้าใส่เร็กกูเพราะต้องการแรงดันน้ำมันเพิ่มขึ้นไปรอที่หัวฉีด แล้วฉีดออกมาเป็นฝอยมากๆๆทำให้เผาไหม้เร็วขึ้น และได้แรงดันน้ำมันที่คงที่ด้วย รถเดิมๆ 3 barก็พอแล้ว:coolly-0046:ส่วนการกินน้ำมันไม่น่าเกี่ยวกับเร็กกูเรเตอร์
 
เรกกูเรเตอร์ หรือ ตัวควบคุมแรงดันน้ำมันเชื้อเพลิง เป็นอุปกรณ์ที่สำคัญที่สุดในระบบเชื้อเพลิง
โดยมีหน้าที่ควบคุมแรงดันน้ำมันที่ดูดมาจากถังน้ำมัน ปั้มน้ำมันหรือปั้มติ๊ก แล้วถูกส่งไปยังท่อน้ำมัน
แล้วผ่านระบบกรองน้ำมันหรือ กรองเบนซิล จึงไหลเข้าสู่รางหัวฉีดแล้วจึงจะไหลผ่านเจ้า เรคกูเรเตอร์ก่อนไหลกลับสู่ถังน้ำมันไหลกลับ

หน้าที่การทำงานด้วยสุญญากาศ
เรคกูเรเตอร์ จะทำงานร่วมกับระบบสุญญากาศ โดยสังเกตุเห็นว่าบนหัวของเรคกูเรเตอร์ทุกตัว
จะมีท่อสูญญากาศเล็กๆเพื่อต่อกับท่อร่วมไอดีด้านหลังลิ้นปีกผีเสื้อ ดังนั้นเมื่อเหยียบคันเร่งน้อยเเรงดูดจากเครื่องจะมากอากาศไหลผ่านลิ้นน้อย
สูญญากาศก็เกิดมาก เมื่อเหยียบคันเร่งมากอากาศไหลผ่านลิ้นมากสูญญากาศก็เกิดน้อย
แรงดูดตัวนี้หละที่จะคอยควบคุมให้เรกกูเรเตอร์ทำงานเพื่อควบคุมเเรงดันน้ำมันให้คงที่
ไม่ว่าจะลิ้นปีกผีเสี้อจะเปิดมากหรือเปิดน้อยก็ตามที

เริ่มต้นการทำงานตั้งแต่ก่อนสตาร์ทเครื่อง
เมื่อเราเปิดสวิทย์กุญแจ ปั้มน้ำมันเชื้อเผลิงจะทำงาน
แรงดันน้ำมันจะสูงมาก เพราะเครื่องยังไม่ติด ไม่มีแรงดูดสุญญากาศเเละเมื่อเราเริ่มสตาร์ทเครื่อง
จะทำให้หัวฉีด ฉีดน้ำมันมากทำให้เครื่องยนต์
์สตาร์ทติดง่าย เมื่อเครื่องติดแล้วในรอบเดินเบา
เครื่องยนต์ต้องการน้ำมันน้อย เรกกูเรเตอร์จะเปิดน้ำมัน
ให้ไหลกลับสู่ถัง ไหลกลับมาก เพื่อให้ประหยัดน้ำมัน

เมื่อเริ่มต้นเหยียบคันเร่ง
เครื่องยนต์จะต้องการปริมาณน้ำมันเเพิ่มขึ้น
ตามความต้องการของเครื่องยนต์ ที่ต้องการเร่งรอบ
ให้สูงขึ้นโดยรับข้อมูลมาจากเซนเซอร์ต่างเช่น
airfrowmeter , totelsensor,vaccumesensor,
และเซนเซอร์รอบเครื่องยนต์โดยทั้งหมด
นี้จะส่งข้อมูลไปยังกล่อง ECU โดยกล่อง ECU
จะไปสั่งให้หัวฉีด ฉีดน้ำมันถี่ขึ้นเพื่อเร่งรอบเครื่องยนต ์ ปริมาณการใช้น้ำมันสูงขึ้นซึ่งอาจทำให้แรงดันน้ำมัน
ในรางหัวฉีดตกลง ก็เจ้าเรกกูเรเตอร์นี่แหละ
ที่จะคอยควบคุม ให้แรงดันน้ำมันเพิ่มขึ้นโดย
ทำการปิดน้ำมันไหลกลับสู่ถังน้ำมันไหลกลับน้อยลง

ทฤษฎี
แรงดันน้ำมันในรางหัวฉีดจะอยู่ที่ 2.5-3.3 bar หรือ 36-48 ปอนด์ แล้วแต่ spec ของเครื่องแต่ละยี่ห้อเช่น Toyota จะกำหนดไว้ที่ 2.7 bar Mitsubishi จะกำหนดไว้ที่ 3.3 bar และ Nissan,Honda จะกำหนดไว้ที่ 2.5 bar
เพื่อให้ส่วนผสมของอากาศ และน้ำมันในการเผาไหม้อยู่ที่ 14.7-15 : 1 คือ อากาศ 14.7-15 ต่อน้ำมัน 1 ส่วน
จึงจะถือว่าการเผาไหม้สมบูรณ์ที่สุด ดั้งนั้นเรคกูเรเตอร์ต้องทำหน้าที่รักษาแรงดันน้ำมันให้สอดคล้องกับ
ปริมาณการฉีดน้ำมันของหัวฉีดในแต่ระรอบความเร็ว

เปลี่ยนใหม่ดีหรือไม่
ในเครื่องยนต์ standard เรคกูเรเตอร์มีโอกาสเสียหายได้ เช่นแผ่นไดอะแฟรมขาดเกิดการกระทบ
กระเเทกรุนเเรง การอุดตันในท่อสุญญากาศ และอาการค้างไม่ยอมให้น้ำมันไหลกลับในเครื่องยนต
์ที่ไม่ใช้งานนานๆ มีผลให้ เครื่องยนต์สตาร์ทไม่ติด สตาร์ทติดยาก ไม่มีแรง หรือทำให้กินน้ำมันมากผิดปกติ จึงควรตรวจเช็คหรือทำการเปลี่ยนเสียใหม่

ในเครื่องยนต์โมดิฟลายในเสตปเริ่มต้น หรือเปลี่ยนเครื่องยนต์ใหม่ ติดเทอร์โบเพิ่ม เปลี่ยนเทอร์โบใหม่ หรือปรับบูชให้สูงขึ้น ส่วนใหญ่แล้วยังถือว่า ยังไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนเรคกูเรเตอร์ เพราะเรคกูเรตอร์
ที่ติดตั้งมา ให้กับเครื่องยนต์แต่ละรุ่นได้ออกแบบมาได้เพียงพอต่อการใช้งานแล้ว หรือบางรุ่นทำงานได้ดีกว่า
แบบปรับตั้งได้เสียอีก ดังนั้นควรจะหันมาใส่ใจ ปั้มน้ำมันเชื้อเผลิงจะดีกว่าเพราะมีผลต่อความต้องการ
ของเครื่องยนต์แท้จริง

ในเครื่องยนต์ทีมีการโมดิฟลายในสเตปสูง เช่นการเปลี่ยนหัวฉีดให้มีซีซีสูงขึ้น เปลี่ยนรางหัวฉีด
ที่มีขนาดใหญ่ เพิ่มปั้มแรงดันน้ำมันเชื้อเผลิง เปลี่ยนแอร์โฟร์ ลิ้นปีกผีเสื้อให้มีขนาดใหญ
่ ขยายปริมาตรกระบอกสูบ จนเรคกูเรเตอร์เดิมไม่สามารถรองรับการใช้งานได้ ควรเปลี่ยนเสียใหม่
ทั้งนี้ต้องติดตั้งเกจ์วัดแรงดันน้ำมันเพื่อใช้ในการอ้างอิงในการปรับจูนอยู่เสมอ

การติดตั้ง

ก่อนทำการติดตั้งควรหาเกจ์วัดแรงดันน้ำมันเชื้อเพลิง
มาตรวจวัดเสียก่อนว่าแรงดันที่ใช้อยู่
ในปัจจุบันมีค่าเท่าไร เพื่อตรวจเช็คความพร้อม
ของระบบ และอ้างอิงถึงเเรงดันของเรกกูเรเตอร
์ที่จะถูกเปลี่ยนเข้าไปใหม่

ในบางยี่ห้อที่ทำชุดคิดมาสำหรับเเต่ละเครื่องยนต์ สามารถถอดของเดิมออกและนำของใหม่ใส่แทน
ลงไปได้เลย

ในยี่ห้อที่ต้องติดตั้งใหม่ ควรถอดเรกกูเรเตอร์เดิมออก
แล้วกลึงน็อต หรือต่อท่อไหลกลับมายังเรกกูเตอร์ใหม่ แล้วต่อท่อไหลกลับลงสู่ถังน้ำมัน และอย่าลืมต่อท่อ
สุญญากาศ ที่หัวของเรกกูเรเตอร์แทนที่ของเดิม
หรือหลังลิ้นปีกผีเสื้อไว้ด้วย

การติดตั้งควรอยู่ห่างจากความร้อนเช่นท่อไอเสีย จุดหมุนพวกสายพานต่างๆ และควรสร้างจึดยึด
ให้แน่นหนา เพื่อไม่ให้แกว่งไปตามแรง
เครื่องยนต์ จนท่อน้ำมันเกิดการฉีกขาดได้

ควรเปลี่ยนท่อน้ำมันเชื้อเผลิง และเหล็กรัด
ไปใช้ที่สามารถทนเเรงดันสูงขึ้นเพราะต้องรับภาระ
แรงดันน้ำมันสูงจนเกิดการหลุดแตก

ข้อดี
สามารถเพิ่มปริมาณการฉีดน้ำมันให้สูงได้ง่ายๆ ทำให้เครื่องยนต์มีแรงขึ้นแก้ไขในกรณีปั้มเเรงดันเชื้อเพลิง
เริ่มเสื่อมประสิทธิภาพ และในการปรับจูนเครื่องยนต์ให้ที่ต้องการแรงดันน้ำมันสูงกว่าปกติมากๆ

ข้อเสีย
ในเครื่องยนต์ที่เรคกูเรเตอร์เดิมสามารถทำงานได้ดีอยู่แล้ว หรือปรับแต่งไม่ถูกต้อง ทำให้เครื่องยนต์กินน้ำมัน
โดยใช่เหตุ เครื่องแรงตก แรงต้นปลายไม่แรงเผาไหม้ไม่หมดเกิดมลภาวะ หรือถ้าแรงดันน้ำมัน น้อยเกินไป
ทำให้ส่วนผสมบางเครื่องยนต์อาจพังได้


copy มาให้อ่าน
 
ความรู้ดีมากเลยคับ ขอบคุณ
 
ผมว่ารถมันไม่กินน้ำมันหรอก...ก็น้ำมันมันแพงเองอ่ะ ฮ่าๆๆๆ
 

กระทู้ที่คล้ายกัน


กรุณาปิด โปรแกรมบล๊อกโฆษณา เพราะเราอยู่ได้ด้วยโฆษณาที่ท่านเห็น
Please close the adblock program. Because we can live with the ads you see
กลับ
ยอดนิยม