อ่านสั้นนิดเดียว แต่ได้ใจความดีมากๆ โดย พระไพศาล วิสาโล

  • ผู้เริ่มหัวข้อ ผู้เริ่มหัวข้อ A31245
  • วันที่เริ่มต้น วันที่เริ่มต้น

กรุณาปิด โปรแกรมบล๊อกโฆษณา เพราะเราอยู่ได้ด้วยโฆษณาที่ท่านเห็น
Please close the adblock program. Because we can live with the ads you see

A31245

สมาชิกชมรมเซฟิโร่-ไทยแลนด์
Cefiro-Thailand Members
เข้าร่วม
12 เม.ย. 2007
ข้อความ
1,650
  • กระทู้ ผู้เขียน
  • #1
คุณอยากได้กล้องถ่ายรูปแบบดิจิตอลสักตัวหนึ่ง
หลังจากหาข้อมูลมาหลายวันทั้งจากหนังสือพิมพ์และคนรู้จัก
ก็ตัดสินใจได้ว่าจะซื้อยี่ห้อและรุ่นอะไร
คุณใช้เวลา ๒-๓ วันในการหาร้านที่ขายถูกที่สุด
แล้วคุณก็พบร้านหนึ่งซึ่งขายต่ำกว่าราคาทั่วไปถึง ๒๕ %
คุณตัดสินใจควักเงิน ๗ , ๕๐๐ บาท แล้วพากล้องใหม่กลับบ้าน
ด้วยความปลื้มใจที่ได้ทั้งของดีและราคาถูก

<o:p></o:p]
แต่เมื่อกลับถึงบ้าน ตั้งใจว่าจะไปเล่าให้เพื่อนบ้านฟัง
แต่กลับพบว่าเขาเพิ่งซื้อกล้องยี่ห้อและรุ่นเดียวกับคุณ
แต่ซื้อได้ถูกกว่านั้น คือจ่ายไปเพียง ๕ , ๐๐๐ บาทเท่านั้น

<o:p></o:p]
คุณจะรู้สึกอย่างไร ? ยังจะยิ้มได้อีกหรือไม่ ?

ถ้าคุณยิ้มไม่ออก ก็น่าถามตัวเองว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ?
ก็คุณเพิ่งได้ของใหม่มา แถมจ่ายน้อยกว่าคนทั่วไป
อีกทั้งสินค้าก็มีคุณภาพและถูกใจคุณเสียด้วย
ทั้งหมดนี้เป็นเหตุผลที่คุณน่าจะดีใจมิใช่หรือ ?
แต่ทำไมคุณถึงเสียใจหรือถึงกับโมโหตัวเอง
เป็นเพราะคุณไปเปรียบเทียบกับเพื่อนบ้านใช่หรือไม่ ?

คุณมีกล้องดีที่น่าพอใจ แต่ทันทีที่คุณไปเปรียบเทียบกับกล้องของคนอื่น
ความรู้สึกไม่พอใจก็เข้ามาแทนที่ คนเราไม่พอใจกับสิ่งที่ตนมีก็เพราะเหตุนี้
จึงมีผู้กล่าวว่าการเปรียบเทียบเป็นหนทางลัดไปสู่ความทุกข์

เคยสังเกตหรือไม่ว่า มีคนจำนวนไม่น้อยที่มักคิดว่ารถของคนอื่นดีกว่ารถของตัว
แฟนของคนอื่นสวย(หรือหล่อ)กว่าแฟนของตัว ลูกของคนอื่นเก่งกว่าลูกของตัว
และอาหารที่คนอื่นสั่งมักน่ากินกว่าจานของตัว

ถ้าคุณเป็นหนึ่งในจำนวนนั้น ชีวิตจะหาความสุขได้ยาก
แม้จะได้มามากเท่าไร ก็ไม่พอใจเสียที

อย่าว่าแต่ของที่ซื้อมาด้วยเงินของตัวเลย แม้ของที่เราได้มาฟรี ๆ
เช่น ได้โทรศัพท์มือ ถือมาฟรี ๆ ๑ เครื่อง
ที่จริงน่าจะดีใจ แต่เมื่อรู้ว่าคนอื่นได้รับแจกรุ่นที่ดีกว่าและแพงกว่า

จากเดิมที่เคยยิ้มจะหุบทันที
แถมยังจะทุกข์ยิ่งกว่าตอนที่ยังไม่ได้รับแจกด้วยซ้ำ

นั่นเป็นเ พราะไปเปรียบเทียบกับคนอื่นใช่ไหม ?
ทั้งๆ ที่ตนมีโชคแล้ว แต่ก็ยังรู้สึกว่าตนโชคไม่ดีเหมือนคนอื่น

ความทุกข์ของผู้คนสมัยนี้ส่วนใหญ่เกิดขึ้นเพราะไปมองคนอื่นมากเกินไป

เราจึงไม่เคยพอใจกับสิ่งที่มีหรือเป็นเสียที แม้ว่าจะสวยหรือหุ่นดีเพียงใด

ก็ยังรู้สึกว่าตัวเองขี้เหร่ ผมไม่สลวย ผิวคล้ำไป

แถมวงแขนก็ไม่ขาวนวลเหมือนดารา

แต่เมื่อใดที่เราหันมาพอใจกับสิ่งที่ตนมี

มองเห็นแง่ดีของสิ่งที่มีอยู่และเป็นอยู่

ความสุขจะเพิ่มพูนขึ้นมามากมายทันที

จิตใจจะเบาขึ้น และชีวิตจะหายเหนื่อย

เพราะไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องวิ่งไล่ล่าหาซื้อสิ่งของต่าง ๆ มากมาย

เพียงเพื่อจะได้มีเหมือนคนอื่นเขา


พอใจในสิ่งที่เรามี

ภูมิใจในสิ่งที่เราเป็น <o:p></o:p]
 


  • กระทู้ ผู้เขียน
  • #2
----- แก้วที่ไม่เคยพอ -----<o:p></o:p]​

เรามักถูกสอนให้มองด้านดีว่า แก้วน้ำที่มีน้ำอยู่ครึ่งแก้วนั้น<o:p></o:p]
มีน้ำเหลือตั้งครึ่งแก้วมากกว่าที่จะมองว่าน้ำหายไปครึ่งแก้ว<o:p></o:p]​
แต่จะมองด้านไหนก็ตามก็ทำให้เราคิดว่าแก้วยังขาด พร่อง<o:p></o:p]​
ยังต้องหาน้ำมาเติมให้เต็ม<o:p></o:p]​

<o:p></o:p]
ตลอดชีวิตที่ผ่านมา เราจะรู้สึกว่า เรายังมีไม่พอ ต้องมีนั่น มีนี่<o:p></o:p]​
เสียก่อนแล้วเราจะอิ่มจะเต็ม สิ่งหนึ่งที่เราไม่เคยถูกสอนก็คือ<o:p></o:p]​
ไม่ว่าเราจะพัฒนาความสามารถ ในการหาเงิน หาของ<o:p></o:p]​
หาความรักให้ได้มากสักเท่าไหร่ก็ตาม น้ำในแก้วไม่มีวันเต็ม<o:p></o:p]​
เพราะความอยากในใจเราไม่เคยหยุด แก้วของเราก็จะโตขึ้น<o:p></o:p]​
ไปเรื่อยๆ ไม่เคยพอ<o:p></o:p]​

<o:p></o:p]
เมื่อก่อนที่เราคิดว่า ถ้าเรามีเงินล้าน เราจะมีความสุข <o:p></o:p]​
พอเรามีเข้าจริงๆปริมาณความต้องการ มาตรฐานการครองชีพ<o:p></o:p]​
ความเป็นอยู่ของเราก็โตรุดหน้าไป จนเราต้องหาเพิ่มตลอดเวลา<o:p></o:p]​
ซึ่งอย่าว่าแต่คนมีเงิน 10 ล้าน 100 ล้านขนาดคนที่มีเป็นหมื่นล้าน<o:p></o:p]​
ยังหาเงินอย่างไม่รู้จักอิ่มรู้จักพอ รวมทั้งคนที่เรารักหนักหนา<o:p></o:p]​
ยากลำบากกว่าจะได้มา พออยู่กันไปนาน ๆใจเราก็เรียกร้อง<o:p></o:p]​
มากขึ้นๆ เห็นจุดอ่อนข้อบกพร่อง ไม่อิ่ม ไม่เต็มได้ตลอดเวลา<o:p></o:p]​
แก้วน้ำหรือความอยากในใจเราไม่เคยหยุดโตหาเท่าไหร่ก็ไม่เคยเต็ม...<o:p></o:p]​

<o:p></o:p]
เคล็ดลับของความสุขก็คือ เราพยายามอย่างเต็มที่ในการหาเงิน<o:p></o:p]​
หาความรัก เหมือนหาน้ำมาใส่แก้ว แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือ<o:p></o:p]​
เราต้องเรียนรู้ที่จะปรับขนาดของแก้วให้พอดีกับน้ำ<o:p></o:p]​
ให้ใจเราสามารถที่จะมีความสุขสงบพอใจกับขณะนี้ เดี๋ยวนี้<o:p></o:p]​
โดยไม่ต้องรออนาคต***<o:p></o:p]​

<o:p></o:p]
ถ้าเรามีน้ำอยู่ครึ่งแก้ว แต่เราสามารถลดขนาดของแก้วน้ำลง<o:p></o:p]​
จนเหลือเพียง 1 ใน 4 น้ำที่มีครึ่งแก้ว ก็จะล้นมีเกินอยู่อีกเท่าตัว<o:p></o:p]​
มีเกินพอสำหรับเรา และ พอที่จะแบ่งให้คนอื่นเมื่อเราเต็ม<o:p></o:p]​
เราก็ไม่ต้องไปวิ่งหาน้ำมาเติมอีก มีเวลาเหลือเฟือให้คนที่เรารัก<o:p></o:p]​
ให้กับสิ่งที่มีความหมายต่อชีวิตเราอย่างแท้จริง<o:p></o:p]​

<o:p></o:p]
การลดขนาดของแก้วน้ำก็คือ การที่เราหมั่นตามรู้ ตามดูจิตใจ<o:p></o:p]​
ความรู้สึก ความคิดของเราแต่และขณะที่เรารู้ทันใจเราที่อยากได้<o:p></o:p]​
อยากให้คนอื่นคิดให้ถูกใจเรา ทุกขณะที่เรารู้ทัน ความอยากทำงาน<o:p></o:p]​
ไม่ได้ เราก็ได้ลดขนาดของแก้วลงทุกขณะที่เรามีความรู้สึกตัว<o:p></o:p]​
ชีวิตเราก็จะเป็นแก้วที่อิ่มเต็มพอดี พอเพียงมีความสุขมั่งคง<o:p></o:p]​
 
แล้วป้ายังจะคิดไปแปลงเพศตัวเองอยู่หรือป่าว:cry:
 
ซึ้งจริงๆ อิอิ
 

ไฟล์แนบ

  • Image(556).jpg
    Image(556).jpg
    49.4 กิโลไบต์ · จำนวนการดู: 125
จงพอใจในสิ่งที่ตนมีอยู่.....สาธุ
 
เกือบไม่อ่านซะแร้ว...
 
แล้วเลิกกะอีแตงโมทำมายยยย
แตงโมมันไม่ดีตรงไหน.....
 
ได้ใจความดีครับ ซึ้งจริงๆ แต่ก็ไม่พ้นน เรื่อง เกย์ 5555 :biggrin: :biggrin: :biggrin:
 
ขออนุโมธนา สาธุ
 

กรุณาปิด โปรแกรมบล๊อกโฆษณา เพราะเราอยู่ได้ด้วยโฆษณาที่ท่านเห็น
Please close the adblock program. Because we can live with the ads you see
กลับ
ยอดนิยม