Template errors
- Template public:post_macros: [E_USER_WARNING] Cannot call method isMemberOf on a non-object (NULL) (src/XF/Template/Templater.php:1268)
- Template public:post_macros: [E_USER_WARNING] Cannot call method isMemberOf on a non-object (NULL) (src/XF/Template/Templater.php:1268)
-
สวัสดีครับชาวโลมาสีฟ้า cefiro-thailand.com
เว็บไซต์แห่งนี้เราเปิดให้ใช้งานกับฟรีๆ สามารถโพสต์อัพเดทสถานการณ์ต่างๆข่าวสารบ้านเมืองและข่าวสารของกลุ่ม cefiro-thailand.com ได้เต็มที่เลยนะครับขอแค่ไม่เป็นการปั่นกระทู้หรือโฆษณาอะไรที่มันล่อแหลมจนเกินไป
เว็บไซต์ไม่ต้องเสียค่าสมัครใดใดทั้งสิ้นมีข้อเสนอแนะอะไรสามารถแนะนำเข้ามาได้ครับยินดีปรับแต่งและแก้ไขถ้าสามารถทำได้
กฎระเบียบของเราก็ไม่มีอะไรมากท่านสามารถใช้งานได้เต็มที่
แอ๊บแบ๊ว...
- ผู้เริ่มหัวข้อ A31562
- วันที่เริ่มต้น
กรุณาปิด โปรแกรมบล๊อกโฆษณา เพราะเราอยู่ได้ด้วยโฆษณาที่ท่านเห็น
Please close the adblock program. Because we can live with the ads you see
Please close the adblock program. Because we can live with the ads you see
ไอ้ประมานนี้ครับ:verrckt: :tongue:
แอ๊บ มาจากคำว่า AB NORMAL แปลว่าไม่ปกติ
แบ๊ว มาจากคำว่า บ้องแบ๊ว ที่แปลว่าพิลึก ถ้าเปิดดูจากพจนานุกรม ความหมายที่เข้าใจผิดกันไปเยอะคือ น่ารัก ไร้เดียงสา
เพราะฉะนั้น แอ๊บแบ๊วในความหมายแพรน่ะ มันแปลว่า พิลึกอย่างผิดปกติ 555+
แต่ ... มันบ่แม่น แอ๊บแบ๊วคือ ....
"แอ๊บแบ๊ว" เป็นอาการทางจ(ริ)ตชนิดหนึ่ง มักเกิดขึ้นในเพศหญิงช่วงแรกสาวเป็นต้นไป แต่เดี๋ยวนี้เริ่มลุกลามในเพศชาย กะเทย และเพศใกล้เคียง โรคนี้จะมีอาการควบคู่ไปกับภาวะแทรกซ้อนที่แสดงออกทางอวัยวะของร่างกายต่างๆ ดังนี้
1. ดวงตา จากที่เคยมีลูกตาขนาดปกติไม่ว่าขนาดใดก็ตาม คนที่ "แอ๊บแบ๊ว" จะมีดวงตากลมบ้องแบ๊ว เกิดประกายวิบวับขึ้นมาอย่างหาสาเหตุไม่ได้ (สันนิษฐานว่าเป็นที่มาของคำว่า "แอ๊บแบ๊ว" นั่นเอง) ถ้านึกภาพไม่ออกให้ลองไปดูเอ็มวี เพลงปู ของเนโกะจั๊มพ์ อะโนโนโน่ อย่างนี้ไม่ดี..... ช็อตที่สองสาวเล่นกับกล้อง นั่นแหละใช่เลย
อุปกรณ์เสริมความแบ๊วในข้อนี้คือ
ที่ดัดขนตา,มาสคาร่า และอายไลเนอร์ ที่จะช่วยขับให้ตาแบ๊วขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ เดี๋ยวนี้มีคอนแทคเลนส์ประเภทเพิ่มขนาดเพิ่มลูกตาดำด้วย แต่มีข้อแม้ว่าควรมีทักษะในการเสริมแต่งนิดนึง เมื่อตาโตขึ้นแล้ว อวัยวะข้างเคียงที่จะมีผลกระทบ คือคิ้ว ที่จะเลิกขึ้นนิดๆ หัวคิ้วจะหดเข้าหากันนิดนึง นี่เป็นสาเหตุที่ทำให้คนแอ๊บแบ๊วมีสีหน้าสงสัย ไร้เดียงสาอยู่ตลอดเวลา
2.แก้ม แก้มป่องเป็นอาการแอ๊บแบ๊วที่ขาดไม่ได้ คนที่แก้มป่องอยู่แล้วก็ถือว่าโชคดีไป แต่สำหรับคนที่แก้มตอบ โหนกปูด กรามสองข้างทำฉากซึ่งกันและกัน เราก็จะได้เห็นอาการพยายามอมลมไว้ในปาก แล้วดันกระพุ้งแก้มให้ป่องออกมาจนกระทั่งดูน่าหยิกเล่น ถ้าแก้มยังทำให้คุณแบ๊วไม่สมใจละก็ ปากยังช่วยคุณได้ค่ะ
3.ปาก ไม่ว่าตามปกติใครจะมีริมฝีปากแบบใดก็ตาม ปากของสาวแอ๊บแบ๊วจะถูกกำหนดให้มีริมฝีปากบนบางๆ แล้วยกเชิดขึ้นจนเป็นฟันคู่หน้านิดๆ ส่วนริมฝีปากล่างขณะแอ๊บแบ๊วนั้นมีข้อบังคับว่า ห้ามเผยออกมาจนห้อยย้อย ต้องเกร็งไว้นิดๆ เบะคางให้ดูคล้ายแอบงอนใครมาหน่อยนึง และทีเด็ดคือ ต้องยิงมุมปากให้เบี้ยวไปข้างที่ถนัดข้างใดข้างหนึ่งพอประมาณ ออกมาจะดูแก่นเซี้ยวแสนซน "อย่าลืมรักษารูปปากไว้ตลอดเวลาที่พูดคุยด้วยนะค่ะ เสียงที่ออกมาจะได้อ้อมแอ้ม พูดไม่ชัด น่ารัก น่าจีบขึ้นอีกจม 555
4. เสียง เป็นอาการทางกายภาพข้อสุดท้ายของโรคแอ๊บแบ๊ว เสียงมาตรฐานของการแอ๊บแบ๊วคือเสียงเล็กๆ อู้อี้นิดๆ อ้อนหน่อยๆ ใครที่เคยอ่านร้อยแก้วร้อยกรองได้คะแนนเต็มมา อาจต้องไปตัดปลายลิ้นตัวเองก่อน จึงจะออกเสียงแบ๊วๆแบบนี้ได้ น้ำเสียงที่นิยมแอ๊บแบ๊วคือ Level ตั้งแต่ 2 เป็นต้นไป ทำอย่างไรให้ผิดอักขระวิธีให้มากที่สุด เช่น
จริงเหรอ ออกเสียงเป็น จิ๋ง-ง๋อออออออ
ใช่ไหม เป็น ชิเมะ? /ชิป้ะ / ชิม้า ?
ไม่เอา เป็น มิอาวว
คือว่า, เอ่อ เป็น คี่บั๊บ / คี่แบ๊บ / เอิ่มม/ อื่ม
อะไรน่ะ เป็น อี่หลายอ้ะ? เป็นต้น
ตัวอย่างประโยค
"อ้าวสวัสดีแก ไม่ได้เจอกันนาน คิดถึงสุดๆ ไปกินข้าวที่สยามกันมั้ย เดี๋ยวพี่ชายเราไปส่งล่ะ " เป็น
"ฮั้ย! สัสดีแกร.. มะได้เจ๊อกึนนานม๊ากกก คิดถึ่งซูดซู้ดดด ไปกินค๊าวที่ซี่หย่ามกึนเมะ เด๋วพี๊..ชายเราไปส่งแหละ" ฯลฯ
วิธีฝึกง่ายๆคือ ยืนหน้ากระจก ฝึกทำหน้าให้แบ๊วที่สุด แล้วลองอ่านข้อความเหล่านี้อัดเสียงไว้ ถ้าเปิดฟังแล้วรู้สึกอยากกระโดดถีบตัวเองเมื่อไหร่ แสดงว่าคุณผ่านการ "แอ๊บแบ๊ว" ระดับเบสิคได้แล้วล่ะค่ะ
อ้างอิงจาก .. ไม่รู้ที่มาเหมือนกันค่ะ แต่ว่า มีแพร่หลายทั่วไปทางอินเตอร์เน็ต เมื่อไม่นานมานี้
จากข้อ 4. นั่นแหละ ดัดเสียงแอ๊บแบ๊ว ต๊าย .... ฟังแล้วทุเรศหู
แล้วในข่าว ไปเกี่ยวข้องอะไรกับพี่นิโคลเค้าอะ?? พี่เค้าหน้าเด็กเฉยๆ พี่เค้าไม่เคยแอ๊บแบ๊ว แล้วพี่นิโคลก็พูดไทยชัดมากๆด้วย
เหมือนกำลังจับประเด็นภาษาวิบัติมาโยงกับการดัดจริตของเด็กผู้หญิง อืมม
ส่วนคำว่า "แอ๊บแบ๊ว" มันก็ไม่วิบัตินะ มันเหมือนกับว่า เวลาผ่านไป คำศัพท์ใหม่ๆก็เพิ่มขึ้นมา ถูกไหม หรือไม่ถูก ส่วนภาษาวิบัติก็พวกตั้งใจให้เขียนผิดไง อย่างคำว่า "วานเน้แพรบ่งมั่กเกินปัยแย้ว"(วันนี้แพรบ่นมากเกินไปแล้ว)
พูดให้ชัดปัญหาก็คือพูดไม่ชัดนั่นแหละ นั่นน่ะมันเป็นปัญหาตั้งแต่ เด็กเดินไม่ได้ไปจนถึงคนแก่ไม่มีฟัน มันก็ไม่ใช่ปัญหาของคนเฉพาะกลุ่มนะ แพรมองว่า คนไทยจำนวนมากออกเสียงภาษาไทยไม่ชัด ไม่ใช่แค่เฉพาะผู้มีพฤติกรรมแอ๊บแบ๊วหรอกค่ะ เพราะฉะนั้นนี่ก็เป็นปัญหาระดับชาตินะ:tongue:
แอ๊บ มาจากคำว่า AB NORMAL แปลว่าไม่ปกติ
แบ๊ว มาจากคำว่า บ้องแบ๊ว ที่แปลว่าพิลึก ถ้าเปิดดูจากพจนานุกรม ความหมายที่เข้าใจผิดกันไปเยอะคือ น่ารัก ไร้เดียงสา
เพราะฉะนั้น แอ๊บแบ๊วในความหมายแพรน่ะ มันแปลว่า พิลึกอย่างผิดปกติ 555+
แต่ ... มันบ่แม่น แอ๊บแบ๊วคือ ....
1. ดวงตา จากที่เคยมีลูกตาขนาดปกติไม่ว่าขนาดใดก็ตาม คนที่ "แอ๊บแบ๊ว" จะมีดวงตากลมบ้องแบ๊ว เกิดประกายวิบวับขึ้นมาอย่างหาสาเหตุไม่ได้ (สันนิษฐานว่าเป็นที่มาของคำว่า "แอ๊บแบ๊ว" นั่นเอง) ถ้านึกภาพไม่ออกให้ลองไปดูเอ็มวี เพลงปู ของเนโกะจั๊มพ์ อะโนโนโน่ อย่างนี้ไม่ดี..... ช็อตที่สองสาวเล่นกับกล้อง นั่นแหละใช่เลย
อุปกรณ์เสริมความแบ๊วในข้อนี้คือ
ที่ดัดขนตา,มาสคาร่า และอายไลเนอร์ ที่จะช่วยขับให้ตาแบ๊วขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ เดี๋ยวนี้มีคอนแทคเลนส์ประเภทเพิ่มขนาดเพิ่มลูกตาดำด้วย แต่มีข้อแม้ว่าควรมีทักษะในการเสริมแต่งนิดนึง เมื่อตาโตขึ้นแล้ว อวัยวะข้างเคียงที่จะมีผลกระทบ คือคิ้ว ที่จะเลิกขึ้นนิดๆ หัวคิ้วจะหดเข้าหากันนิดนึง นี่เป็นสาเหตุที่ทำให้คนแอ๊บแบ๊วมีสีหน้าสงสัย ไร้เดียงสาอยู่ตลอดเวลา
2.แก้ม แก้มป่องเป็นอาการแอ๊บแบ๊วที่ขาดไม่ได้ คนที่แก้มป่องอยู่แล้วก็ถือว่าโชคดีไป แต่สำหรับคนที่แก้มตอบ โหนกปูด กรามสองข้างทำฉากซึ่งกันและกัน เราก็จะได้เห็นอาการพยายามอมลมไว้ในปาก แล้วดันกระพุ้งแก้มให้ป่องออกมาจนกระทั่งดูน่าหยิกเล่น ถ้าแก้มยังทำให้คุณแบ๊วไม่สมใจละก็ ปากยังช่วยคุณได้ค่ะ
3.ปาก ไม่ว่าตามปกติใครจะมีริมฝีปากแบบใดก็ตาม ปากของสาวแอ๊บแบ๊วจะถูกกำหนดให้มีริมฝีปากบนบางๆ แล้วยกเชิดขึ้นจนเป็นฟันคู่หน้านิดๆ ส่วนริมฝีปากล่างขณะแอ๊บแบ๊วนั้นมีข้อบังคับว่า ห้ามเผยออกมาจนห้อยย้อย ต้องเกร็งไว้นิดๆ เบะคางให้ดูคล้ายแอบงอนใครมาหน่อยนึง และทีเด็ดคือ ต้องยิงมุมปากให้เบี้ยวไปข้างที่ถนัดข้างใดข้างหนึ่งพอประมาณ ออกมาจะดูแก่นเซี้ยวแสนซน "อย่าลืมรักษารูปปากไว้ตลอดเวลาที่พูดคุยด้วยนะค่ะ เสียงที่ออกมาจะได้อ้อมแอ้ม พูดไม่ชัด น่ารัก น่าจีบขึ้นอีกจม 555
4. เสียง เป็นอาการทางกายภาพข้อสุดท้ายของโรคแอ๊บแบ๊ว เสียงมาตรฐานของการแอ๊บแบ๊วคือเสียงเล็กๆ อู้อี้นิดๆ อ้อนหน่อยๆ ใครที่เคยอ่านร้อยแก้วร้อยกรองได้คะแนนเต็มมา อาจต้องไปตัดปลายลิ้นตัวเองก่อน จึงจะออกเสียงแบ๊วๆแบบนี้ได้ น้ำเสียงที่นิยมแอ๊บแบ๊วคือ Level ตั้งแต่ 2 เป็นต้นไป ทำอย่างไรให้ผิดอักขระวิธีให้มากที่สุด เช่น
จริงเหรอ ออกเสียงเป็น จิ๋ง-ง๋อออออออ
ใช่ไหม เป็น ชิเมะ? /ชิป้ะ / ชิม้า ?
ไม่เอา เป็น มิอาวว
คือว่า, เอ่อ เป็น คี่บั๊บ / คี่แบ๊บ / เอิ่มม/ อื่ม
อะไรน่ะ เป็น อี่หลายอ้ะ? เป็นต้น
ตัวอย่างประโยค
"อ้าวสวัสดีแก ไม่ได้เจอกันนาน คิดถึงสุดๆ ไปกินข้าวที่สยามกันมั้ย เดี๋ยวพี่ชายเราไปส่งล่ะ " เป็น
"ฮั้ย! สัสดีแกร.. มะได้เจ๊อกึนนานม๊ากกก คิดถึ่งซูดซู้ดดด ไปกินค๊าวที่ซี่หย่ามกึนเมะ เด๋วพี๊..ชายเราไปส่งแหละ" ฯลฯ
วิธีฝึกง่ายๆคือ ยืนหน้ากระจก ฝึกทำหน้าให้แบ๊วที่สุด แล้วลองอ่านข้อความเหล่านี้อัดเสียงไว้ ถ้าเปิดฟังแล้วรู้สึกอยากกระโดดถีบตัวเองเมื่อไหร่ แสดงว่าคุณผ่านการ "แอ๊บแบ๊ว" ระดับเบสิคได้แล้วล่ะค่ะ
อ้างอิงจาก .. ไม่รู้ที่มาเหมือนกันค่ะ แต่ว่า มีแพร่หลายทั่วไปทางอินเตอร์เน็ต เมื่อไม่นานมานี้
จากข้อ 4. นั่นแหละ ดัดเสียงแอ๊บแบ๊ว ต๊าย .... ฟังแล้วทุเรศหู
แล้วในข่าว ไปเกี่ยวข้องอะไรกับพี่นิโคลเค้าอะ?? พี่เค้าหน้าเด็กเฉยๆ พี่เค้าไม่เคยแอ๊บแบ๊ว แล้วพี่นิโคลก็พูดไทยชัดมากๆด้วย
เหมือนกำลังจับประเด็นภาษาวิบัติมาโยงกับการดัดจริตของเด็กผู้หญิง อืมม
ส่วนคำว่า "แอ๊บแบ๊ว" มันก็ไม่วิบัตินะ มันเหมือนกับว่า เวลาผ่านไป คำศัพท์ใหม่ๆก็เพิ่มขึ้นมา ถูกไหม หรือไม่ถูก ส่วนภาษาวิบัติก็พวกตั้งใจให้เขียนผิดไง อย่างคำว่า "วานเน้แพรบ่งมั่กเกินปัยแย้ว"(วันนี้แพรบ่นมากเกินไปแล้ว)
พูดให้ชัดปัญหาก็คือพูดไม่ชัดนั่นแหละ นั่นน่ะมันเป็นปัญหาตั้งแต่ เด็กเดินไม่ได้ไปจนถึงคนแก่ไม่มีฟัน มันก็ไม่ใช่ปัญหาของคนเฉพาะกลุ่มนะ แพรมองว่า คนไทยจำนวนมากออกเสียงภาษาไทยไม่ชัด ไม่ใช่แค่เฉพาะผู้มีพฤติกรรมแอ๊บแบ๊วหรอกค่ะ เพราะฉะนั้นนี่ก็เป็นปัญหาระดับชาตินะ:tongue:
ผมว่า แอ๊บแบ๊ว น่าจะแปลว่า
ทำตัว น่ารัก ๆ คิกขุ ๆ ขำ ๆ
เวลาพูด ทำเสียง แง๊ว ๆ เหมือนแมว
ฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง
เวลาถ่ายรูป ก็ทำหน้าแบบว่า อมลมไว้ ให้แก้มป่อง ๆ
ทำตาแบบไร้เดียงสา ผมพอง ๆ หรือยังไงก็ได้ ที่น่ารัก ๆ น่ะ
รู้ว่าตัวเอง หน้ามุมไหน น่ารัก ก็ให้ถ่ายมุมนั้น
เด๋วนี้ รูปแบบนี้ เยอะมาก ว่าง ๆ จะเอามาให้ดูในนี้
ไม่รู้ว่าผมเข้าใจถูกปะ
เห็นนักข่าวช่อง 3 บอกว่า ต้นตำรับเลย คือ นิโคล เทริโอ น่ะ :sweat:
ทำตัว น่ารัก ๆ คิกขุ ๆ ขำ ๆ
เวลาพูด ทำเสียง แง๊ว ๆ เหมือนแมว
ฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง
เวลาถ่ายรูป ก็ทำหน้าแบบว่า อมลมไว้ ให้แก้มป่อง ๆ
ทำตาแบบไร้เดียงสา ผมพอง ๆ หรือยังไงก็ได้ ที่น่ารัก ๆ น่ะ
รู้ว่าตัวเอง หน้ามุมไหน น่ารัก ก็ให้ถ่ายมุมนั้น
เด๋วนี้ รูปแบบนี้ เยอะมาก ว่าง ๆ จะเอามาให้ดูในนี้
ไม่รู้ว่าผมเข้าใจถูกปะ
เห็นนักข่าวช่อง 3 บอกว่า ต้นตำรับเลย คือ นิโคล เทริโอ น่ะ :sweat:
- เข้าร่วม
- 15 ก.พ. 2007
- ข้อความ
- 6,515
N
NUMNIM
Guest
กรุณาปิด โปรแกรมบล๊อกโฆษณา เพราะเราอยู่ได้ด้วยโฆษณาที่ท่านเห็น
Please close the adblock program. Because we can live with the ads you see
Please close the adblock program. Because we can live with the ads you see