• สวัสดีครับชาวโลมาสีฟ้า cefiro-thailand.com

    เว็บไซต์แห่งนี้เราเปิดให้ใช้งานกับฟรีๆ สามารถโพสต์อัพเดทสถานการณ์ต่างๆข่าวสารบ้านเมืองและข่าวสารของกลุ่ม cefiro-thailand.com ได้เต็มที่เลยนะครับขอแค่ไม่เป็นการปั่นกระทู้หรือโฆษณาอะไรที่มันล่อแหลมจนเกินไป
    เว็บไซต์ไม่ต้องเสียค่าสมัครใดใดทั้งสิ้นมีข้อเสนอแนะอะไรสามารถแนะนำเข้ามาได้ครับยินดีปรับแต่งและแก้ไขถ้าสามารถทำได้

    กฎระเบียบของเราก็ไม่มีอะไรมากท่านสามารถใช้งานได้เต็มที่

รับมืออย่งชุลมุน

  • ผู้เริ่มหัวข้อ ผู้เริ่มหัวข้อ A31324
  • วันที่เริ่มต้น วันที่เริ่มต้น

กรุณาปิด โปรแกรมบล๊อกโฆษณา เพราะเราอยู่ได้ด้วยโฆษณาที่ท่านเห็น
Please close the adblock program. Because we can live with the ads you see

A31324

ลอยตัว...
Cefiro-Thailand Members
เข้าร่วม
19 ก.พ. 2007
ข้อความ
1,488
  • กระทู้ ผู้เขียน
  • #1
ความเข้าใจเรือ่งการบริหารระบบอัตาแลกเปลี่ยนในสังคมไทย มีค่อนข้างน้อยจริงๆ แบงค์ชาติจึงบริหารอัตราแลกเปลี่ยนไปตามลำพัง โดยปราศจากเสียงท้วงติง วิพากษฺวิจารณ์ แม้กระทั่งกระทรวงการคลัง ก็แทบจะแตะต้องอะไรแบงค์ชาติไม่ได้เลย
ต้องเกิดปัญหาปะทุขึ้นมาเสียก่อนนั้นแหละ สังคมภายนอกถึงจะรู้ว่า แบงค์ชาติบริหารงานผิดพลาดอีกแล้ว
เมื่อสับดาห์ที่ผ่านมานี้เอง ขณะที่บ้านเมืองกำลังตื่นตกใจกับเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว ก็เกิดเรื่องผิดฝาผิดตัวเกิดขึ้น
นั้นคือ รัฐบาลญี่ปุ่นตัวสินใจเพิ่มวงเงินสำรองช่วยเหลือหากประเทศไทยเกิดวิกฤติเรื่องทุนสำรอง จาก 3,000 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ เป็น 6,000 ล้านดอลลาร์
หนังสือพิมพ์ใหญ่ฉบับหนึ่งถึงกับนำไปพาดหัวโตหน้า 1 โดยจับเอาเรื่องการขยายวงเงินสำรองช่วยเหลือของญี่ปุ่น มาเชื่อมโยงกับวิกฤติค่าเงินบาทของไทยเราในเวลานี้
ทั้งที่เป็นการช่วยเหลือแบบผิดที่ผิดเวลา และป็นการรักษาไข้ต่างโรคกัน

โรคภัยเมื่อปีวิกฤติ 2540 เป็นเรื่องของเงินไหลออก ทุนสำรองฯ หด ค่าเงินบาทอ่อนตัว แต่โรคภัยในปี 2550 นี้เป็นเรื่องของเงินทุนไหลเจ้ามากผิดปกติ ทุนสำรองฯ เกิดส่วนเกินมาก และเงินบาทก็แจ็งค่าจนทำร้ายการส่งออก
ฉะนั้นการแบะท่าจะช่วยเหลือเติมทุนสำรองของญี่ปุ่นจึงเป็นการมาแบบผิดที่ผิดเวลา ไม่เกี่ยวอะไรกันเลยกับปัญหาที่ประเทศไทยกำลังประสบอยู่ในขณะนี้

เงินบาทที่ทำท่าจะวิ่งไหค่าอัตราแลกเปลี่ยนที่ 30 บาท/ดอลลาร์ ยังมองไม่ออกว่าจะหาวิธีสกัดให้ได้ผลในระยเวลาเฉพาะหน้าอย่างไร
ทั้งนี้ก็เพราะไม่เคยมีการตระเตรียมเครื่องมอในการควบคุมอัตราแลกเปลี่ยนกันมาก่อนแม้แต่น้อย
เครื่องมือของแบงค์ชาติ ล้วนแล้วแต่เป็ฯเครื่องมือเก่าๆ ที่ใช้กับการบริหารอัตราแลกเปลี่ยนในยุควิกฤติต้มยำกุ้งทั้งสิ้นไม่มีการปรับแต่งเครื่องมอให้เข้ากับวิกฤติเงินทุนไหลท่วมแต่ประการใด
เดี๋ยวนี้ก็ยังควบคุมกองทุนไปลงทุนต่างประเทศได้แค่กองละ 50 ล้านเหรียญฯ อยู่เลย ซึ่งเล็กน้อยมาก ตอนนี้ก็เลยตื่นตัวจะส่งเสริมให้บริษัทจัดการกองทุนรวมต่างๆ ขนเงินไปลงทุนกันยกใหญ่
ผู้ส่งออกขายสินค้าได้ดอลลาร์กลับมา ก็ยังต้องปฎิบัติตามระเบียบแบงค์ชาติ คือ ถือครองดอลลาร์ไว้ได้ไม่เกิน 15 วัน จะต้องเปลี่ยนดอลลาร์เป็ฯเงินบาท
เช่นนี้แล้ว จะไม่ให้ค่าเงินบาทแข็งได้อย่างไร แล้วแบงค์ชาติก็มาหาแพะซี้ซั๊ว โทษผู้ส่งออกว่ารีบขายดอลลารฺเป็ฯการซ้ำเติมสถานการณ์
นโยบายการลงทุนในภาครัฐก็มีส่วน แทนที่เศรษฐกิจชะลอตัว รัฐบาลจะต้องลงทุนด้านโครงกสร้างพื้นฐานหรือ โครงการขนาดใหญ่ให้มาก เพื่อให้เกิน "อิมพอร์ต คอนแทนต์" เป็นการลดการเกินดุลการค้าอย่างมากลงมา
เหมือนโมเดลประเทศจีนแก้ไหปัญหาอัตราแลกเปลี่ยน ที่เร่งลงทุนด้านอินฟราสตรัคเจอร์ขนาดใหญ่
แต่นี่รัฐบาลไทยเรา มัวแต่กอดตำราเศรษฐกิจพอเพียงกันแบบผิดๆ กินเขียม ใช้เขียม ไม่คิดสร้างานขนาดใหญ่กันเลย ดอลลาร์ถึงได้ท่วมประเทศอยู่ในเวลานี้
เนื่องเพราะไม่เคยมีการตระเตรียมระบบพื้นฐานอะไร มาก่อน ทั้งแบงค์ชาติและกระทรวมการคลัง จึงแก้ปัญหาเงินบาทอักเสบกันค่อนข้างชุลมุล
หาเรือ่งโทษแพะกันให้ชุลมุล เดี๋ยวก็โทษผูส่งออก เดี๋ยวก็โทษตลาดหุ้น นี่ก็ร่ำๆ มีเสียงเรียกร้องจะให้มีการเก้บภาษีกำไรหุ้นกันอีกแล้ว
แต่ต้องดักคอไว้ก่อนว่า ถ้าจะคิดเก็บภาษีกำไรหุ้นก็ต้องทำทั้ง 2 ขาเหมือนอารยะประเทศเขา คือการลงทุนหุ้นมันมีทังกำไร และขาดทุน ถ้าขาดทุนก็ต้องเอามาหัก
โลกของการลงทุน มันมีทั้ง "แคปปิตอล เกน" และ"แคปปิตอล ลอส" จะคิดแต่เก็บภาษีกำไรห้นด้านเดียวได้เสียเมื่อไหร่เล่า
ในเมื่อไม่มีการตระเตรียมระบบมาก่อน การจะหวังแก้ปัญหาวิกฤติเงินบาทเที่ยวนี้ให้ได้ผลในระยะเวลาอันสั้นปัญหาเฉพาะหน้าควยคู่กันไป

แต่ขอร้องอย่าง อย่าได้คิดมาตรการอุตริ เช่น การสกัดทุน 30% ออกมาอีกก็แล้วกัน

ชาญชัย สงวยวงศ์
 


ตรงเป๊ะ....
 
ไม่เห็นต้องซีเรียสเลยครับ ใครเป็นนหนี้ฝรั่งหรือจะซื้อเครื่องจักร
หรือของแพงๆที่จะมาพัฒนาธุรกิจ หรือซื้อของมาขาย
ก็รีบซะครับ อุอุอุ ญี่ปุ่เมื่อ 15 ปีที่แล้วหรือไงเนี่ย ญี่ปุ่นก็โดนไอ้กันกะอียู
ถล่มแบบนี้ละ ปรากฎ ค่าเงินญี่ปุ่นขึ้นจาก 14 บาทเป็น 22 บาท
ต่อ 100 เยน ในชั่วข้ามคืน ที่ทำเพื่อสกัดสินค้าราคาถูกจากญี่ปุ่น

ปรากฏญี่ปุนก็แค้น แต่แล้วก็ชอบเพราะพี่แก ก็ย้ายฐานผลิต
ลดต้นทุนไปต่างประเทศ ก็ซื้อเครื่องจักรราคาที่เคยแพง
มหาศาลมาใช้ ก็เลยกลายเป็นว่าของญี่ปุนคุณภาพสูงขายได้ราคา
ขึ้นไปอีก แล้วไอ้กันกับอียูก็ยังขาดดุลเหมือนเดิมจนถึงทุกวันนี้
ดูดิ๊ ประเทศไหนไม่มี toyota กะโซนี่

ถ้ามันผลิตอาวุธสงครามได้ป่านนี้ไอ้กันเจ๊งไปแล้ว แต่บ้านเราก็พึ่ง
การส่งออกมากจริงๆทำ brand ตัวเองไม่ได้เพราะ QC ห่วย
ไอ้นี่ละที่ทำให้ส่งออกเป็นง่อยต้องยอมเป็น Sub เขาไปเรื่อย
เจ๊งๆบ้างจะได้ประเทืองปัญญาขึ้น ทุกอย่างมีสองด้านเสมอ
ต้องเอาด้านดีมันมาใช้ มัวแต่สนใจด้านแย่ๆก็พังกันหมด

ปล.นานาจิตตังนะอย่าคิดมาก
 
  • กระทู้ ผู้เขียน
  • #4
จิงๆ แล้วผลกระทบเรื่องค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น มันมีผลโดยตรงกะเราๆ ไม่น้อยเลยนะซิบอกให้..:biggrin:
 

กระทู้ที่คล้ายกัน

ตอบกลับ
22
จำนวนการดู
3พัน

กรุณาปิด โปรแกรมบล๊อกโฆษณา เพราะเราอยู่ได้ด้วยโฆษณาที่ท่านเห็น
Please close the adblock program. Because we can live with the ads you see
กลับ
ยอดนิยม