เอาแบบนี้ครับ
แก๊สเพียวๆ ไม่ร้อน (เย็นเจี๊ยบๆ ไม่ผ่านการต้ม ผ่านแค่แรงดันบรรยากาศปกติ) จุดไฟติด แต่จุดยาก ไฟต้องตั้งแก่ และไม่หนาเกินไป
แก๊สที่ลดแรงดันจากแรงดันบรรยากาศปกติแล้ว ผ่านการต้มจากความร้อนน้ำหม้อน้ำ จุดไฟติดได้ดี แต่ถ้าบางไปก็จะจุดติดยาก หรือถ้าจูนไว้บางหรือเกือบบาง ถ้าโดนแดดร้อนๆ จะจุดไฟติด แต่ระเบิดได้ไม่ค่อยดี ต้องพอดีๆ ครับ
คราวนี้ถ้าอากาศเย็นจัดๆ แล้วเราจูนไว้หนา มันจะจุดไม่ค่อยติดครับ ถ้าจุดติดก็จะไม่ค่อยดี มันจะวิ่งตื้อๆ
แต่สำหรับรถใครใช้แก๊สแล้ว ตอนฝนตกวิ่งดี ตอนดึกๆ วิ่งดี อันนี้คือจูนมาพอดีครับ ตามหลักอากาศเย็นมันหนาแน่นแล้วจะจุดระเบิดได้ดีกว่า (เหมือนรถเทอร์โบที่ใส่อินเตอร์ไงครับ ถ้าไม่ใส่ วิ่งได้ แต่ไม่ลื่นเท่า แต่ถ้าใส่อินเตอร์วิ่งลื่น ซัดได้ยาวๆ)
ในกรณีที่หม้อต้อไม่ทำงาน จะบอกว่าถ้ามันไม่ทำงาน คือหมายความว่าติ๊กแก๊สที่ตัวมันไม่ทำงาน แล้วไม่มีแก๊สเข้าครับ อันนี้ต่อให้น้ำเข้าหม้อต้มร้อนขนาดไหน ก็ไม่มีแก๊สเข้าเครื่อง เพราะมันโดนปิดไปตั้งแต่ติ๊กแก๊สแล้ว
คราวนี้ถ้าหม้อต้มทำงาน(ติ๊กแก๊สเปิด) แต่น้ำไม่ร้อน แล้วพอดีดันจูนเกือบหนาหรือหนาไว้ มันก็จะจุดไฟไม่ค่อยติดครับ
ถ้าใครติดแก๊สแล้วเคยไปถ่ายน้ำหม้อน้ำน่าจะเคยเจอ
ลองถ่ายน้ำหม้อน้ำจนหมด แล้วติดเครื่อง จากนั้นลองสับไปใช้แก๊สเลยครับ ไม่ต้องรอเครื่องร้อน จะสังเกตุได้ว่าหม้อต้มจะเย็นเจี๊ยบปล่อยไปซักพักน้ำแข็งจะเกาะเลย แล้วเครื่องก็จะเดินพรึ่บๆ พรั่บๆ จะดับเอาให้ได้ หรือไม่ก็ดับไปเลยครับ ถ้าหากว่าเราจูนแก๊สไว้เกือบหนาหรือหนา
อันนี้จะเห็นได้ว่า ทั้งๆ ที่เราจูนไว้เท่าเดิม แต่ความร้อนมันไม่ได้ แก๊สมันโดนลดแรงดันไม่พอ มันก็เลยจุดไม่ค่อยติด ประมาณนี้ครับผม
อีกสาเหตุก็คือพวกวาล์วน้ำตาย, ปั๊มน้ำไม่ดี หรือมีน้ำรั่วในระบบ ทำให้น้ำพร่อง ความร้อนของน้ำที่ไปผ่านหม้อต้มมันก็ไม่พอ แล้วถ้าไปเจออากาศเย็นๆ เข้าไปอีก ก็ไปกันใหญ่ครับ