- เข้าร่วม
- 15 ก.พ. 2007
- ข้อความ
- 46
- กระทู้ ผู้เขียน
- #1
บนถนนสายเอเชีย ประมาณตี 1 - ตี 3 คืนวันที่ 15 เข้าเช้ามืด 16 กรกฎาคมที่ผ่านมา เป็นรถคันที่ผมอยู่ในเหตุการณ์ด้วยเป็นประสบการณ์ตรงล่าสุดที่อยากจะมาถ่ายทอดเป็นเชิงวิชาการแบบง่ายๆ ครับ ขากลับจากพะเยา (ผมไปงานศพคุณแม่ของวิศวกรที่บริษัทครับ ) ผมโชคดีได้พี่คนหนึ่งที่สนิทกันช่วยขับรถกลับให้เพราะต้องกลับกรุงเทพเหมือนกันผมนั่งคุยกับแกมาตลอดทาง จนฝนตกหนักแกถามว่าในรถมีแว่นกันแดดไหมจึงหยิบให้เขาเขาให้ผมลองใส่ดูปรากฏว่าเห็นทางชัดเจนมาก ทัศนะวิสัยดีมาก
ถึงจะไม่เทียบเท่ากับตอนฝนไม่ตก แต่ก็เกือบ 90%%แล้วผมก็รีบเอาแว่นให้พี่เขาความรู้โดยบังเอิญตรงนี้พี่เขาก็เล่าสถานการณ์ให้ฟังผมก็ฟังไปด้วย คิดถึงเหตุผล ไปด้วยจนค่อนข้างแน่ใจว่าโดยคุณสมบัติของแว่นกันแดดแล้วจะทำหน้าที่กรองที่เกินความจำเป็นในการมองเห็นและทำอันตรายของดวงตาออกไปยิ่งมีคุณสมบัติดียิ่งมีการเคลือบหรือเทคนิคในการผลิตดีตามและราคาสูง ดังนั้นถ้าเป็นเรื่องนี้ไม่ควรประหยัด
เมื่อเม็ดฝนที่ตกหนักตามแรงโน้มถ่วงของโลก จากที่สูงขนาดของเม็ดฝนซึ่งมีขนาดต่างๆ ตกกระทบฝากระโปรงหน้าด้วยแรงกระแทกมหาศาลทำให้เม็ดฝนแตกกระจายอย่างละเอียดรวมทั้งบนหน้ากระจกรถของเราด้วยในตอนกลางคืนหรือกลางวันก็ตามจะมีแสงจากธรรมชาติอยู่แล้ว หรืออาจจะมาจากที่มนุษย์สร้างขึ้นเป็น แสงสว่างต่างๆเม็ดฝนมีการสะท้อนแสงหรือบางขณะก็รวมตัวกันมากๆ แบบไม่เป็นระเบียบ> > จึงทำให้ภาพที่เรามองไปข้างหน้าบนถนน มี"ตัวกลาง " มากั้นซึ่งก็คือม่านน้ำฝน และละอองฝน ซึ่งตัวมันเองก็มีค่าดัชนีหักเหอยู่แล้วเมื่อบวกกับการสะท้อนแสง ของละอองฝน ทำให้ทัศนวิสัยจึงแย่มากแว่นกันแดดจึงกรองแสงจ้าที่เกิดการสะท้อนจากละอองฝนและสายฝนที่อาบอยู่ บนกระจกหน้ารถ ชนิดที่เรียกว่า ที่ปัดน้ำฝน speedแรงสุดก็เอาไม่อยู่ ออกไปจึงทำให้ทัศนวิสัยในขณะขับรถตอนกลางคืน ฝนตกหนักเยี่ยมมากดังนั้นจึงสามารถใช้ความเร็วได้ในระดับหนึ่ง และปลอดภัยมากผมยังเชื่อว่า ถ้าเป็นตอนกลางวัน และฝนตกหนักก็น่าจะใช้ได้เหมือนกัน ถึงจะยังไม่ได้ทดลองแต่คิดว่าน่าจะไม่มีปัญหาอะไรผมหวังว่าความรู้ที่ได้จากประสบการณ์ตรงครั้งนี้คงเป็นประโยชน์กับหนอนทุกคนถ้าใครได้ทดลองใช้ก็นำมาเล่าสู่กันฟังบ้างนะครับสุดท้ายนี้ภาพที่คมชัดขึ้นกับคุณภาพแว่นกันแดดด้วย
ขอบคุณครับ ปรีดา ลิ้มนนทกุล
เรื่องนี้ขอยืนยันด้วยคนค่ะ และขอเพิ่มด้วยว่ากลางวันก็ใช้ได้ค่ะ บังเอิญทราบเรื่องนี้จากพี่ที่รู้จักกันคนนึงเมื่อเกือบเจ็ดแปดปีที่แล้วค่ะ ปัจจุบันเวลาฝนตกสามีก็จะใช้วิธีใส่แว่นตาดำตลอดค่ะ ท่านอื่นอยากรู้ว่าจริงหรือเปล่าก็ลองทำดูนะคะ
ถึงจะไม่เทียบเท่ากับตอนฝนไม่ตก แต่ก็เกือบ 90%%แล้วผมก็รีบเอาแว่นให้พี่เขาความรู้โดยบังเอิญตรงนี้พี่เขาก็เล่าสถานการณ์ให้ฟังผมก็ฟังไปด้วย คิดถึงเหตุผล ไปด้วยจนค่อนข้างแน่ใจว่าโดยคุณสมบัติของแว่นกันแดดแล้วจะทำหน้าที่กรองที่เกินความจำเป็นในการมองเห็นและทำอันตรายของดวงตาออกไปยิ่งมีคุณสมบัติดียิ่งมีการเคลือบหรือเทคนิคในการผลิตดีตามและราคาสูง ดังนั้นถ้าเป็นเรื่องนี้ไม่ควรประหยัด
เมื่อเม็ดฝนที่ตกหนักตามแรงโน้มถ่วงของโลก จากที่สูงขนาดของเม็ดฝนซึ่งมีขนาดต่างๆ ตกกระทบฝากระโปรงหน้าด้วยแรงกระแทกมหาศาลทำให้เม็ดฝนแตกกระจายอย่างละเอียดรวมทั้งบนหน้ากระจกรถของเราด้วยในตอนกลางคืนหรือกลางวันก็ตามจะมีแสงจากธรรมชาติอยู่แล้ว หรืออาจจะมาจากที่มนุษย์สร้างขึ้นเป็น แสงสว่างต่างๆเม็ดฝนมีการสะท้อนแสงหรือบางขณะก็รวมตัวกันมากๆ แบบไม่เป็นระเบียบ> > จึงทำให้ภาพที่เรามองไปข้างหน้าบนถนน มี"ตัวกลาง " มากั้นซึ่งก็คือม่านน้ำฝน และละอองฝน ซึ่งตัวมันเองก็มีค่าดัชนีหักเหอยู่แล้วเมื่อบวกกับการสะท้อนแสง ของละอองฝน ทำให้ทัศนวิสัยจึงแย่มากแว่นกันแดดจึงกรองแสงจ้าที่เกิดการสะท้อนจากละอองฝนและสายฝนที่อาบอยู่ บนกระจกหน้ารถ ชนิดที่เรียกว่า ที่ปัดน้ำฝน speedแรงสุดก็เอาไม่อยู่ ออกไปจึงทำให้ทัศนวิสัยในขณะขับรถตอนกลางคืน ฝนตกหนักเยี่ยมมากดังนั้นจึงสามารถใช้ความเร็วได้ในระดับหนึ่ง และปลอดภัยมากผมยังเชื่อว่า ถ้าเป็นตอนกลางวัน และฝนตกหนักก็น่าจะใช้ได้เหมือนกัน ถึงจะยังไม่ได้ทดลองแต่คิดว่าน่าจะไม่มีปัญหาอะไรผมหวังว่าความรู้ที่ได้จากประสบการณ์ตรงครั้งนี้คงเป็นประโยชน์กับหนอนทุกคนถ้าใครได้ทดลองใช้ก็นำมาเล่าสู่กันฟังบ้างนะครับสุดท้ายนี้ภาพที่คมชัดขึ้นกับคุณภาพแว่นกันแดดด้วย
ขอบคุณครับ ปรีดา ลิ้มนนทกุล
เรื่องนี้ขอยืนยันด้วยคนค่ะ และขอเพิ่มด้วยว่ากลางวันก็ใช้ได้ค่ะ บังเอิญทราบเรื่องนี้จากพี่ที่รู้จักกันคนนึงเมื่อเกือบเจ็ดแปดปีที่แล้วค่ะ ปัจจุบันเวลาฝนตกสามีก็จะใช้วิธีใส่แว่นตาดำตลอดค่ะ ท่านอื่นอยากรู้ว่าจริงหรือเปล่าก็ลองทำดูนะคะ