พิชิตเนิน1408...เยือนเชียงคานเมืองปายแห่งลุ่มน้ำโขง...(จ.เ ลย)

[A31499]

​

ภาพชุดเมืองเลยตลอด 6วันที่ผมไปส่งท้ายปีเก่า2551 เที่ยวนี้ไปกะเพื่อน2คนครับ เราเคยไปกันมาแล้วครั้ง1 ตอนนั้นไปถ่ายทำภาพชุดผีตาโขน ภาพเกี่ยวกับประเพณี วัฒนธรรมพื้นบ้านครับ แต่เที่ยวนี้เราเน้นธรรมชาติและบ้านเมืองเป็นหลักครับ เป้าหมายหลัก ๆ ของเราในทริปนี้คือ
"อำเภอนาแห้ว พิชิตเนิน1408 จุดกางเต็นท์สูงสุดแห่งอีสาน" และ "อำเภอเชียงคาน เมืองปายแห่งลุ่มน้ำโขง..."
ที่เหลือก็แล้วแต่กำลังเงิน และแรงรถเท่านั้นละครับว่าจะพาเราไปได้ถึงไหน ...

หลังจากที่วันนี้ทั้งวันเราเตรียมอุปกรณ์ถ่ายภาพและสัมพาระ พร้อมทั้งอุปกรณ์หุงหาอาหาร จนมืดค่ำ ก็ได้เวลาเดินทางกันเสียทีครับ...เออ...ลืมบอกไป ทริปนี้เราไปแบบ เต๊นท์1หลัง ทำกับข้าวกินเอง เสื้อผ้าเอาเท่าที่จำเป็น ที่เหลือเป็นอุปกรณ์กล้องล้วนๆครับเยอะกว่าเสื้อผ้าเสียอีก 555++ การเดินทางครั้งนี้ เราใช้พาหนะคู่ใจของเพื่อนผมครับ VITARA สีเขียว ครับ พ่วงด้วยเชื้อเพลง2ระบบ แก๊สและน้ำมัน

ฉากที่1.ออกเดินทาง....
25-12-2551
เราเลือกวันเดินทางในคืนวันคริสมาสต์ ออกเดินทางราวๆ 22.00 จากดอนเมือง มุ่งเข้าสู้ ถ.พหลโยธิน ทางหลวงหมายเลข1เข้าวังน้อย สระบุรี ต่อด้วยทางหลวงหมายเลข21 พัฒนานิคม แล้วฝนก็ตกมาเรื่อย ๆ หยุดบ้างตกบ้าง น่าแปลกครับ หน้าหนาวแท้ๆ แต่เส้นทางช่วงนี้ค่อนข้างดีครับ แต่ลำบากหน่อยตรงที่รถค่อนข้างเยอะ ยิ่งรถทัวร์และสิบล้อด้วยแล้ว ถ้าเจอขอให้ห่างเลยครับ พวกตีนผีจิงๆ ตรงวังน้อยอย่าพูดถึง ทั้งนั้นเลย ช่วงพัฒนานิคม เราเริ่มทำความเร็วได้บ้างครับ เรื่อยไป จนถึงศรีเทพ-บึงสามพัน-หนองไผ่ และเพชรบูรณ์ ช่วงนี้เราแวะพักที่7-11 หาอะไรเบาๆรองท้อง และนอนเอาแรงครับ และฝนก็ลงมาอีกชุดเล็ก ๆ 1ชุด ...
พอตี1เกือบๆตี2กว่า ๆ เราก็เดินทางต่อครับ ยิงยาวทีเดียวเลย เข้าหล่มสัก-หล่มเก่าและเข้าทางหลวงหมายเลข203 เข้าจ.เลยแล้วคร๊าบบบบบบบบบบ....แล้วก็แยกออก เข้าทางหลวงจังหวัด 2013 เพื่อแวะออกด่านซ้าย ช่วงทาง203-2013 ถนนค่อนข้างคดเคี้ยว วกวน ทางค่อนข้างชัน เส้นทางนี้ต้องขับด้วยความระมัดระวัง

26-12-2551
แล้วเราก็มาถึงด่านซ้ายประมาณตีห้านิด ๆ ของวันที่26 ก็จอดแวะนอนที่พระธาตุศรีสองรัก พอเช้าก็ขึ้นสักการะพระธาตุ และฝนก็ตกลงมาอีก เออ..เอาไงดี ฟ้าไม่เปิดเลยครับวันนี้ เราก็เลยหาข้าวกิน ด้วยการแวะไปที่ร้านประจำที่เคยมาเมื่อ2ปีที่แล้ว ป้าเจ้าของร้านแกยังจำเราได้ครับ และหาเสบียงเตรียมขึ้นภู เช่น มาม่า ปลากระป๋อง ข้าวเหนียว เป็นต้น และก็เดินทางไปนาแห้วต่อใน ตอนสายๆ ใช้เส้นทาง 2113 ด่านซ้าย-นาแห้ว..<!-- / message --><!-- sig -->

 

[A31499]

Re: พิชิตเนิน1408...เยือนเมืองปายแห่งลุ่มน้ำโขง...(จ.เ ลย)

​

ด่านซ้าย ผู้คนทำเกษตรเป็นส่วนใหญ่ เช่น ปลูกข้าวโพด และ ข้าว เป็นส่วนใหญ่ครับ..เราจะเห็นได้ตลอด2ข้างทางเป็นระยะ ...จนถึงนาแห้ว ช่วงบ่าย เราก็แวะหาข้าวกิน แต่ได้ก้วยเตี๋ยวแทน...เราแวะที่จุดผ่อนปรนชายแดนไทย-ลาวบ้านเหมืองแพร่ ชาวบ้านที่นี้ค้าขายสินค้าหัตถกรรม และก็ถั่วลิสงจากฝั่งลาวที่แบกใส่กระสอบข้ามน้ำมาขาย กันค่อนข้างเยอะครับ...เราก็เดินทางต่อเข้าที่บ้านแส งภาแวะน้ำตก(จำชื่อไม่ได้จิง ๆ ครับ แต่จะหาชื่อมาบอกให้ได้) ซึ่งเป็นแหล่งน้ำของชาวบ้านที่นี้ครับ...

​

ก้วยเตี๋ยวแบบลาวๆ
จุดผ่อนปรนบ้านเหมืองแพร่...
มีหญิงชาวลาว แบกขนส่งเข้ามาคัดแยกที่ฝั่งไทย...
​

 

[A31499]

Re: พิชิตเนิน1408...เยือนเมืองปายแห่งลุ่มน้ำโขง...(จ.เ ลย)

บ่ายแก่ๆ เราก็มาถึง อช.นาแห้ว หรือชื่อใหม่ อช.ภูสวนทราย ซึ่งชื่อใหม่นี้ถูกตั้งขึ้นมาใหม่เมื่อ2ปีที่แล้ว...ขณะที่เรามาถึงท้องฟ้าก็ยังปิดอยู่+ทั้งยังมีฝนตกปรอยๆ อยู่ตลอด แล้วเราจะได้ดูพระอาทิตย์ขึ้นไหมนี้....

ที่นี้ทั้งอช.มีนักท่องเที่ยวแค่เรา2คนเองครับ น้อยดี ขนาดช่วงสิ้นปีนะ คนน้อยจิง ๆครับ ที่นี้ค่อนข้างสะดวกครับ มีน้ำอุ่นให้อาบ(แต่โง่ไปอาบน้ำเย็นจนควันออกตัว ถึงรู้ว่ามีน้ำอุ่น) โรงอาหาร บ้านพัก ที่กางเต็นท์ เตามีให้เช่าทำกับข้าว เต็นท์มีให้เช่า สะดวกจิงๆครับ

แต่เราเตรียมมาแล้ว ก็เลยทำการปักเต็นท์ ต้มมาม่ากิน อาบน้ำ นอน เพื่อเอาแรง ขึ้นเนิน1408 ในวันรุ่งขึ้นครับ พรุ่งนี้เราจะต้องถ่ายภาพพระอาทิตย์ขึ้นให้ได้ครับ....

 

[A31670]

Re: พิชิตเนิน1408...เยือนเมืองปายแห่งลุ่มน้ำโขง...(จ.เ ลย)

:coolly-0028: vetara คุ้นๆนะเนี่ย อิอิ

 

[A31499]

Re: พิชิตเนิน1408...เยือนเมืองปายแห่งลุ่มน้ำโขง...(จ.เ ลย)

​

ฉากที่2.พิชิตเนิน1408...
27-12-2551
วันนี้เราตื่นขึ้นมาประมาณ 8โมงเช้าครับ เมื่อคืน ผมและเพื่อนหลับสนิท แต่ก็ยังพอรู้ได้ว่ามีฝนตกเป็นบางช่วงเวลา แต่ตกไม่หนักมากครับ เช้านี้เรากินข้าวที่โรงอาหารครับ ราคาอาหารหรือของที่นี้ไม่แพงเลยนะครับ ถ้าเทียบกับกทม. ถ้าพี่น้องคนไหนได้มา อย่าต่อหรือบ่นเลยนะครับ ผมเห็นใจเจ้าหน้าที่ที่นี้มาก ต้องดูแลกันเอง หาข้าวปลากินกันเอง ไม่มีเบี้ยเลี้ยงให้นะครับ ค่าข้าวต่อจานประมาณ25-35บาท โค๊กกระป๋องละ 15 ได้กินถึงบนภู...

พี่ ๆ เจ้าหน้าที่ ใจดีทุกคนครับ ต้อนรับผมและเพื่อนเป็นอย่างดี ยิ้มแย้มทุกคน เค้าจะแนะนำตลอด...ถ้าคนไม่คุ้นนี้อาจจะฟังสำเนียงของเจ้าหน้าที่แปลกๆไปนะครับ
เหมือนจะเป็นภาษาอีสาน+เหนือยังไงไม่รู้...ส่วนใหญ่คนเมืองเลยจะสำเนียงแบบนี้ล่ะครับ..ผมกะเพื่อน โชคดีเรื่องภาษาแบบว่ามีเชื้ออีสานติดตัวกันมาทั้งคู่55++
เลยสนิทกะเจ้าหน้าที่ที่นี้ได้ค่อนข้างเร็ว และคุยรู้เรื่องครับ...
ประมาณ 9โมงเราก็ขึ้นเนิน1408 ครับ...โดยมีเจ้าหน้าที่นำพาขึ้นไป ชื่อพี่เพง เสียค่าไกด์นำทาง300บาทครับ...

เราเก็บเต็นเสร็จก้เริ่มแบ่งสัมพาระกันครับ
1.ผมรับผิดชอบกระเป๋ากล้องตัวเอง+เต็นท์นอน
2.เพื่อนรับผิดชอบกระเป๋ากล้องตัวเอง+อุปกรณ์หุงหาอาหารและกับข้าว
เราเอาเสื้อผ้าขึ้นไปแค่ชุดเดียวครับเอาไปให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อลดน้ำหนัก สรุปแล้วกระเป๋ากล้องร่วมๆ15โลของพวกเราดูจะเป็นตัวถ่วงของพวกเรามากกว่าครับ

ผมไม่แน่ใจว่ามีลูกหาบหรือเปล่า แต่เราก็ไม่คิดจะจ้างอยู่แล้วครับ เพราะดูแล้วน่าจะแบกไหวนะ....

ขอเกริ่นใว้ก่อนว่าเนิน1408 คือจุดที่กางเต๊นท์สูงสุดในอีสานนะครับ อยู่ใน อ.นาแห้ว อช.ภูสวนทราย เนิน1408 นี้มีลักษณะสูงชัน ภูเขาสลับซับซ้อนมากมายครับ มีความสูงจากระดับน้ำทะเล1408 เมตร ถึงได้ชื่อว่าเนิน1408...

ซึ่งถ้าใครยังจำกันได้ เมื่อหลายสิบปีก่อน แต่เดิมนั้นเนิน1408 เป็นฐานปฏิบัติการของทหารไทยช่วงยุทธการบ้านร่มเกล้า เมื่อปี 2531ครับ ที่ไทยและลาวเปิดศึก
ประวัติศาสตร์ ทำการสู้รบกันเพื่อยึดครองเนิน1428 จนฝ่านไทยต้องสูญเสียทหารไปเป็นจำนวนมาก...มาปัจจุบันนี้ไทยและลาว ก็กล้ายเป็นพี่น้องร่วมสายน้ำโขงและไม่มีการสู้รบกันอีกแล้ว...และก็ยังไม่ชี้ชัดได้ว่าฝ่ายใดเป็นผู้ชนะจนถึงทุกวันนี้ครับ...

เนิน1408 นี้เราสามารถขึ้นไปกางเต๊นท์นอนได้ครับ ส่วนใหญ่จะขึ้นไปดูพระอาทิตย์ขึ้นและดูดาวกัน เจ้าหน้าที่บอกว่าถ้าวันไหนฟ้าเปิดสุดๆ จะเหมือนมีดาวอยู่รายรอบตัวเราเลยทีเดียว

ทางขึ้นมีหลายทางครับ
1.ทั้งนั่งรถแล้วเดินเท้าขึ้นไปใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมง หรือ
2.ใช้ทางขึ้น ศึกษาธรรมชาติแบบวันเดียวจบ เดินเป็นวงกลม
3.แต่เราเลือกใช้อีกทางครับเป็นทางขึ้นที่ใช้เวลาเดินเท้า1วันเต็มๆ เพื่อแวะจุดศึกษาธรรมชาติต่าง ๆได้ทั้งภูเลยครับ และจะได้ถ่ายภาพได้อย่างทั่วถึง

เส้นทางเดินเท้าเส้นนี้ ค่อนข้างลำบากครับ เป็นเส้นวัดใจเลยที่เดียวเพราะกว่า70% จะเป็นทางเดินขึ้นและก็ขึ้นอย่างเดียว ใครใจไม่ถึง ร่างกายไม่พร้อม มีร้องให้กลับบ้านแน่ครับ เห็นสูงแค่1408เมตร แต่อย่าดูถูกนะครับ เพราะมันขึ้นอย่างเดียวจิง ๆ ไม่มีทางลงเลย...

และเราก้เริ่มเดินขึ้นกัน3คน มีผม+เพื่อนและพี่เพงเจ้าหน้าที่ แรกๆก้เดินกันดีอยู่ครับสนุกสนานเฮฮา พูดจาด้วยเสียงซาวด์แทรค พื้นบ้านกันสนุกสนาน หลังๆเริ่มมองหน้ากันแล้วครับ
นันท์: เฮ้ยมึงไหวเหรอ
โด: อ้าวไหนมึงบอกให้กรูขึ้นทางนี้ไงละ เอา ๆ เอาไงมึง เดิน1วันเต็มๆนะ...จะถอยกลับไปขึ้นรถเร๊อะ
นันท์:ป่าวกรูถามเล่น ๆ แต่เหนื่อยว่ะ 555++

ไม่ไหวแล้วครับพวกเราเริ่มเหนื่อยทั้ง ๆ ที่เดินได้แค่ไม่ถึง 100เมตรเอง กล้องมันถ่วงพวกเรามากมาย...

แต่เราก็เดิน ๆ ๆ และเดินต่อครับ พักบ้างครั้งคราว ป่าที่นี้หลากหลายครับมีทั้งป่าสน ป่าไผ่ ป่าดิบชื้น และป่ากล้วยก็ยังมีครับ

 

[A31499]

Re: พิชิตเนิน1408...เยือนเมืองปายแห่งลุ่มน้ำโขง...(จ.เ ลย)

ที่สำคัญช่วงนี้เราจะได้ดู ดอกกระโถนฤาษีที่เค้าว่าหาดูอยากครับ....และเราก็ได้ดูจิงๆครับมีขึ้นเป็นระยะสวยงามมากครับ บางจุดมีเยอะเป็นดงเลย ระหว่างทางเราก็เห็นป่าเปลี่ยนสีเป็นระยะ ดูสวยงามมากครับ...แต่ฝนก็ยังตกปรอยๆอยู่...เซง....

เราเดินกันอย่างไม่ย่อท้อครับเดินและก็เดิน พอตกเที่ยงท้องเริ่มหิว เราเริ่มพักกินข้าวกันที่ ก่องเบิก เป็นจุดชมวิว เป็นหน้าผาระหว่างทางเดินขึ้นเนิน1408 ครับ
แต่ตรงนี้ฝนลงหนักมากครับเราต้องเอาฟลายชีตมากางเพื่อนั่งกินข้าว และแรงลมจากหน้าผาปะทะได้หนักหน่วงจริง ๆ ทั้งฝนทั้งหนาว ลมแรงขนาดพัดฟลายชีตจนเชือกตึง...

อาหารที่เตรียมไปเราจัดแจงเอามานั่งกินกับพี่เพงเจ้าหน้าที่ครับ...พี่ก็ใจดีดูแลเราอย่างดีครับเป็นกันเองดีมาก...อาหารของเราง่ายๆ เอาแค่กันหิวครับ....
เราพักกินข้าวได้ประมาณชั่วโมงเราก็เดินกันต่อครับหลังจากนี้ทั้งป่าจะปกคลุมไปด้วยหมอกและละอองน้ำครับ เดินแล้วก้เดิน ก็ยังไม่ถึงเสียที ทำไมมันเดินเยอะเสียนี้กระไร...แต่เราก็ไม่ท้อครับ เราเคยเดินมานักกว่านี้มากครับประเภทเดิน2วัน2คืนก้เคยมาแล้ว แค่นี้อย่ากลัว...!!!

​

ป่าเปลี่ยนสี...

 

[A31499]

Re: พิชิตเนิน1408...เยือนเมืองปายแห่งลุ่มน้ำโขง...(จ.เ ลย)

แถวนี้เริ่มมีพญาเสือโคร่ง หรือซากุระพอให้ได้เห็นบ้างครับไม่มาก นาน ๆ ทีเดินเจอต้นสองต้น พี่เพงบอกว่าช่วงนี้กะลังบานครับ เราก็จัดการถ่ายภาพซะ แอบพักไปในตัว...
เวลาเริ่มนานขึ้น ท้องฟ้าเริ่มมืดลง ดูนาฬิกา บ่าย3โมงกว่าๆ อากาศก็เริ่มหนาวเย็นมากเรื่อย ๆ เราใกล้ถึงแล้วครับ พอเราเดินพ้นต้นพญาเสือโคร่ง มาได้ประมาณ100 เมตรเรามาถึงแล้วครับ เนิน1408 จุดกางเต็นท์สูงสุดแห่งอีสาน ที่ระดับความสูง1408เมตรจากระดับน้ำทะเล เรามาถึงเวลา4โมงครึ่งครับ หายเหนื่อยเลยงานนี้ แต่ก้เศร้าใจเพราะท้องฟ้าก็ยังไม่เปิดเสียที จะได้ดูดาวไหมเนี้ย ส่วนพระอาทิตย์ขึ้นต้องรอลุ้นพรุ่งนี้แล้ว...

​

พญาเสือโคร่งอีกมุมหนึ่ง
นั่งพักเหนื่อยข้างอาวุธคู่กายที่แบกขึ้นไปหลังแทบหัก... :coolly-0007:​

 

[A31499]

Re: พิชิตเนิน1408...เยือนเมืองปายแห่งลุ่มน้ำโขง...(จ.เ ลย)

​

พอมาถึงเราก็สำรวจสถานที่ครับ ลักษณะที่เนินนี้ เป็นเนินเกือบหัวแหลม ที่ราบมีไม่มากนัก มีหลุมหลบภัย บังเกอร์ สนามเพลาะ และป้อมตรวจการ อีกทั้งยังมี อ่างเก็บน้ำที่ทหารสมัยนั้นได้สร้างใว้ บนนี้มีน้ำใช้ครับ น้ำบนนี้เย็นมากๆ น้ำที่นี้จะดื่มเลยก็ได้หรือใครไม่แน่ใจจะต้มก่อนก็ดีครับ...แต่เจ้าหน้าที่ ที่นี้เค้าดื่มเลยไม่มีต้ม...ห้องน้ำก็มี จะอาบน้ำหรือทำธุระส่วนตัวก็แล้วแต่สะดวก...เรียกว่าก็ยังพอหาความสบายได้ แต่ไม่มีไฟฟ้านะครับจุดเทียนเอาอย่างเดียว...

ปล.ลืมบอกไปบนนี้มีสัญาณโทรศัพท์มือถือนะครับ แต่ระหว่างทางที่ขึ้นมาจะไม่มีเลย

 

[A31499]

Re: พิชิตเนิน1408...เยือนเมืองปายแห่งลุ่มน้ำโขง...(จ.เ ลย)

สักพักเราก็กางเต็นท์กัน เพราะว่ามืดเร็วมากๆ คงด้วยจากหมอกที่ปกคลุมตลอดเวลา อีกทั้งละอองน้ำค้างหรือน้ำฝน ไม่ทราบแน่ชัด ทำให้ระยะทำการของสายตาเรามองเห็นได้แค่ไม่เกิน10เมตร หลังจากนั้นจะดูมืดและเทาไปหมด...

บนนี้ลมแรงมาก เต็นท์ใครไม่มีสมอบกนี้ปลิวได้ง่ายๆ เลย บนพื้นหญ้ามีน้ำค้างจับเต็มไปหมด อากาศค่อนข้างชื้นแฉะและลมแรง อุณหภูมิที่พี่เค้าบอกมาประมาณ 8 องศาครับ...หนาวเข้ากระดูกเลยทีเดียว...

 

[A31499]

Re: พิชิตเนิน1408...เยือนเมืองปายแห่งลุ่มน้ำโขง...(จ.เ ลย)

จากนั้นเราก็เริ่มเก็บภาพแม้จะทรมานแค่ไหนก็ต้องเอามาฝากกันดูให้ได้ คือมันไม่อยากจับต้องอะไรเลย อยากนอนนิ่งๆอยู่ในเต็นท์เท่านั้นครับ หนาวจริงๆ
เสร็จจากถ่ายภาพ ก็หาข้าวกินกันคงไม่พ้นมาม่า ข้าวเหนียว น้ำพริก ผักดอง เหมือนมื้อเที่ยงนี้ละครับ...

 

[A31849]

Re: พิชิตเนิน1408...เยือนเมืองปายแห่งลุ่มน้ำโขง...(จ.เ ลย)

งามจริงๆ พี่โด เหมือนอยู่อีกโลกนึงเลยอ่ะ

 

[A31273]

Re: พิชิตเนิน1408...เยือนเมืองปายแห่งลุ่มน้ำโขง...(จ.เ ลย)

ภาพสวยแหล่มว่ะน้า

 

[A31794]

Re: พิชิตเนิน1408...เยือนเมืองปายแห่งลุ่มน้ำโขง...(จ.เ ลย)

สวยจังเลยน้า

 

[A31014]

Re: พิชิตเนิน1408...เยือนเมืองปายแห่งลุ่มน้ำโขง...(จ.เ ลย)

แล้วนางแบบจากสระบุรีไปไหน อะ

 

[A31499]

Re: พิชิตเนิน1408...เยือนเมืองปายแห่งลุ่มน้ำโขง...(จ.เ ลย)

แล้วนางแบบจากสระบุรีไปไหน อะ

เมิงก็จะเอาแต่นางแบบสระบุรี ไอ่นันท์มันยกแดกไปนานแล้ว... :sweat:


ปล.เด่วเย็นนี้มาต่อใหม่นะครับรอดูละกัน...ไปทำงานก่อน :byebye:

 

[A31212]

Re: พิชิตเนิน1408...เยือนเมืองปายแห่งลุ่มน้ำโขง...(จ.เ ลย)

ดูรูปแล้วได้อารมณ์หนาว ชื้น แฉะไปด้วยเลยพี่ สวยมากกกกกกกกกก

ไปด้วยความทรหด แล้วจะจดจำ

 

[A31623]

Re: พิชิตเนิน1408...เยือนเมืองปายแห่งลุ่มน้ำโขง...(จ.เ ลย)

แสงแทบจะไม่มีเลย..เล่าเรื่องราวได้ดี..ต้องให้้ชื่อว่า เป็นบันทึกการเดินทางเลยน่ะ..อาจารย์โด

 

[A31643]

Re: พิชิตเนิน1408...เยือนเมืองปายแห่งลุ่มน้ำโขง...(จ.เ ลย)

โห้....
กี่องศานะ คงหนาวอะนะสุดยอด

 

[A31545]

Re: พิชิตเนิน1408...เยือนเมืองปายแห่งลุ่มน้ำโขง...(จ.เ ลย)

ภาพสวยมาก ๆ
ถุงเท้าได้ใจ .......ยกสูงด้วย

 

[A31478]

Re: พิชิตเนิน1408...เยือนเมืองปายแห่งลุ่มน้ำโขง...(จ.เ ลย)

สุดยอดเลยโด

ดีจังมีภาพสวย ๆมาให้เราชมกันอีกแล้ว

นั่งอ่านไปอินไป...เยี่ยม ๆ ๆ