• สวัสดีครับชาวโลมาสีฟ้า cefiro-thailand.com

    เว็บไซต์แห่งนี้เราเปิดให้ใช้งานกับฟรีๆ สามารถโพสต์อัพเดทสถานการณ์ต่างๆข่าวสารบ้านเมืองและข่าวสารของกลุ่ม cefiro-thailand.com ได้เต็มที่เลยนะครับขอแค่ไม่เป็นการปั่นกระทู้หรือโฆษณาอะไรที่มันล่อแหลมจนเกินไป
    เว็บไซต์ไม่ต้องเสียค่าสมัครใดใดทั้งสิ้นมีข้อเสนอแนะอะไรสามารถแนะนำเข้ามาได้ครับยินดีปรับแต่งและแก้ไขถ้าสามารถทำได้

    กฎระเบียบของเราก็ไม่มีอะไรมากท่านสามารถใช้งานได้เต็มที่

ว่ากันด้วยเรื่องของ แบตเตอรี่

  • ผู้เริ่มหัวข้อ ผู้เริ่มหัวข้อ golfsung
  • วันที่เริ่มต้น วันที่เริ่มต้น

กรุณาปิด โปรแกรมบล๊อกโฆษณา เพราะเราอยู่ได้ด้วยโฆษณาที่ท่านเห็น
Please close the adblock program. Because we can live with the ads you see

golfsung

Cefo-Lism
Register
เข้าร่วม
16 ก.พ. 2007
ข้อความ
162
  • กระทู้ ผู้เขียน
  • #1
ขอทราบข้อมูลเป็นความรู้ครับ รบกวนพี่ๆ ที่มีข้อมูลช่วยตอบด้วยครับ

กรณี แบต แบบเติมน้ำกลั่น
1. น้ำกลั่นแห้งเกิดจากอะไร เกี่ยวกับอุณหภูมิ ในห้องเครื่องร้อนหรือไม่ แล้วน้ำกลั่นระเหยไปทางไหนครับ
2. ขณะที่ไดชาร์จ ชาร์จไฟเข้าแบต ตอนรถวิ่ง ขณะที่ แบต มีการชาร์จไฟ เพื่อสะสมพลัีงงาน ช่วงเวลาดังกล่าว เกิด สารใด ที่เป็นกลิ่นแห้งๆ ไหม

รถผมไว้แบตท้ายรถ ไม่เคยเติมน้ำกลั่น เพราะน้ำมันไม่แห้ง แต่มกลิ่นแห้งๆ ท้ายรถ ไม่เหมือนไอเสีย
มีพี่รู้จักกัน เค้าบอกว่า มันเป็นกลิ่นไอแบตเตอรี่ ก็เลยไม่มั่นใจ เพราะทั้งชีวิต ไม่เคยรู้เลยว่า ขณะแบตมันบรรจุไฟ มันมีกลิ่น ออกมาด้วย

ถ้าเป็นจริง ต้องแก้อย่างไร กัวสารตะกั่ว :sweat:
 


กลิ่นน่าจะละเหยออกมาทางรูที่ฝาเติมน้ำกลั่นนะครับ
เวลาเราชาร์ตไฟ ที่บ้านมี มันก็จะมีไอระเหยออกมาอะครับ
 
  • กระทู้ ผู้เขียน
  • #3
กลิ่นน่าจะละเหยออกมาทางรูที่ฝาเติมน้ำกลั่นนะครับ
เวลาเราชาร์ตไฟ ที่บ้านมี มันก็จะมีไอระเหยออกมาอะครับ

แล้วสรุปว่า แบตเตอรี่ เวลาใช้งาน มันเกิดกลิ่นออกมาได้ใช่ไหม
แล้วอันตรายไหม ถ้าไว้ท้ายรถ เพราะมันก็เหมือนอยู่ในตัวรถอ่ะ:verrckt:
 
ฮ่าๆๆๆ เพิ่มเิติมถามด้วย แบบว่ามีถังแก๊สพวงด้วย+กะแบตอยู่หลังรถ น่ากัวโครตๆๆ แต่ว่าทำไงให้ลดอันตรายได้ง่ะ เหอะๆๆ เพราะเหงหลายคนมีถังแก๊สแล้วย้ายแบตไปไว้หลังรถกัน
 
  • กระทู้ ผู้เขียน
  • #5
ฮ่าๆๆๆ เพิ่มเิติมถามด้วย แบบว่ามีถังแก๊สพวงด้วย+กะแบตอยู่หลังรถ น่ากัวโครตๆๆ แต่ว่าทำไงให้ลดอันตรายได้ง่ะ เหอะๆๆ เพราะเหงหลายคนมีถังแก๊สแล้วย้ายแบตไปไว้หลังรถกัน

ถ้าแก้สไม่รั่ว ขั้วแบตไม่หลวม ไม่เกิดประกายไฟ คงไม่เป็นไร มั๊ง :biggrin:
 
ตรงฝาครอบวาล์วของถังแก๊สจะต้องมีฝาปิดและมีท่อโปโลต่อออกใต้ท้องรถด้วยเวลาเติมแก๊สเสร็จต้องปิดฝาให้สนิทเพราะหากแก๊สรั่วแล้วมันจะได้ระบายออกนอกรถ ส่วนแบ๊ตเตอรี่เวลาช๊าจไฟมันจะมีก๊าซออกมาลองเปิดฝาดูขณะติดเครื่อง เป็นก๊าซติดไฟด้วย และกลิ่นเป็นกลิ่นของถังแก๊สรึป่าว
 
เวลาชาร์ตแล้วมีกลิ่นแบตนี่ปกติครับ......เพราะว่าเวลาชารต์แบตเนี่ยจะเกิดความร้อนถ้าชาร์ตนาน..ๆ อาจทำให้น้ำกรดในแบตของเรานั้นเดือดเวลาเดือดก็จะมีไรออกมาทางรูระบายอากาศครับ ส่วนสารที่เกิดจากแบตนั้นผมจำชื่อไม่ได้ครับแต่มีกลิ่นครับ ละก็เหม็นด้วย สูดเข้าไปเยอะ ๆนี่ทำให้เยื่อจมูกพังได้ครับ

ถ้าถามว่าเอาแบตไว้หลังรถแล้วมีกลิ่นนี่...ตอบได้เลยครับว่าอันตรายมากๆๆๆ เพราะน้ำที่อยู่ในแบตนั้น
ไม่ใช่น้ำธรรมดา แต่เป็นน้ำกรดนะครับ ถึงแม้ว่าเราจะเติมน้ำกลั่นเข้าไปแต่น้ำที่อยู่ในแบตก็ยังนี้น้ำกรดผสมอยู่ครับ...นี่คือ1.เหตุผลที่โรงงานผลิตรถเอาแบตไว้ข้างนอกงัยครับ แนะนำให้เอาแบตไว้ข้างหน้าเหมือนเดิมครับ ถ้าเดาไม่ผิดส่วนมากจะเป็นรถที่วางเจมาใช่มั้ยครับ เพราะว่ามันไม่มีที่วางแบต
บางอู่เค้าเอาแบตมาวางตรงด้านหน้าซ้ายครับ ดัดตรงท่ออินเตอร์ก่อนเข้าไอดีนิดหน่อยครับ....
 
  • กระทู้ ผู้เขียน
  • #8
เวลาชาร์ตแล้วมีกลิ่นแบตนี่ปกติครับ......เพราะว่าเวลาชารต์แบตเนี่ยจะเกิดความร้อนถ้าชาร์ตนาน..ๆ อาจทำให้น้ำกรดในแบตของเรานั้นเดือดเวลาเดือดก็จะมีไรออกมาทางรูระบายอากาศครับ ส่วนสารที่เกิดจากแบตนั้นผมจำชื่อไม่ได้ครับแต่มีกลิ่นครับ ละก็เหม็นด้วย สูดเข้าไปเยอะ ๆนี่ทำให้เยื่อจมูกพังได้ครับ

ถ้าถามว่าเอาแบตไว้หลังรถแล้วมีกลิ่นนี่...ตอบได้เลยครับว่าอันตรายมากๆๆๆ เพราะน้ำที่อยู่ในแบตนั้น
ไม่ใช่น้ำธรรมดา แต่เป็นน้ำกรดนะครับ ถึงแม้ว่าเราจะเติมน้ำกลั่นเข้าไปแต่น้ำที่อยู่ในแบตก็ยังนี้น้ำกรดผสมอยู่ครับ...นี่คือ1.เหตุผลที่โรงงานผลิตรถเอาแบตไว้ข้างนอกงัยครับ แนะนำให้เอาแบตไว้ข้างหน้าเหมือนเดิมครับ ถ้าเดาไม่ผิดส่วนมากจะเป็นรถที่วางเจมาใช่มั้ยครับ เพราะว่ามันไม่มีที่วางแบต
บางอู่เค้าเอาแบตมาวางตรงด้านหน้าซ้ายครับ ดัดตรงท่ออินเตอร์ก่อนเข้าไอดีนิดหน่อยครับ....

ตอนนี้ ผมยังไม่ชัดเจน ว่ามันเป็นกลิ่นแบต ขณะชาร์จไฟหรือไม่
เพราะมันเป็นกลิ่นแห้งๆ แต่สงสัยมาก ว่าถ้าแบต ขณะชาร์จไฟ มีกลิ่น
พวกรถมีแบตข้างท้าย เค้าทำอย่างไรกัน หรือว่ามันมีกลิ่นบางลูก
 
ก็ตอบยากนะครับ...ถ้าอยากรู้ว่ากลิ่นแบตหรือป่าวก็ลองเปิดท้ายรถแล้วก็เอาตู้ชาร์ตแบตมาชาร์ตซัก 3-4 ชม. ถ้ามีกลิ่นแล้วเป็นกลิ่นเดียวกับที่คุณคาดว่าเป็นแบต..ก็ชัวร์ครับ

ส่วนการแก้ปัญหาแบตไว้หลังนี่ผมตอบไม่ได้ครับ...เพราะรถผมมันอยู่ข้างหน้า
ลองไปถามคนที่เอาแบตไว้ด้านหลังละกันครับ....
 
  • กระทู้ ผู้เขียน
  • #10
ก็ตอบยากนะครับ...ถ้าอยากรู้ว่ากลิ่นแบตหรือป่าวก็ลองเปิดท้ายรถแล้วก็เอาตู้ชาร์ตแบตมาชาร์ตซัก 3-4 ชม. ถ้ามีกลิ่นแล้วเป็นกลิ่นเดียวกับที่คุณคาดว่าเป็นแบต..ก็ชัวร์ครับ

ส่วนการแก้ปัญหาแบตไว้หลังนี่ผมตอบไม่ได้ครับ...เพราะรถผมมันอยู่ข้างหน้า
ลองไปถามคนที่เอาแบตไว้ด้านหลังละกันครับ....

ขอบคุณครับ

เคยเห็นพวกรถยุโรบ ที่มีแบตอยู่ล่างเบาะหลัง สงสัยคนละแบตคนละชนิดกันแน่เลย
 
1.ไอที่ออกมาจากแบตเตอรี่เป็นไอกรดและก๊าซไฮโดรเจนครับ ฟองที่เกิดขึ้นเนื่องจากเป็นปฏิกิริยาทางเคมีเมื่อมีการชาร์จไฟครับ ความร้อนเป็นส่วนหนึ่งของพลังงานที่เกิดจากปฏิกิริยานี้ ที่น้ำกลั่นแห้งก็มาจากปฏิกิริยาเคมีและความร้อนที่เกิดขึ้นนี่แหละครับ
2.แผ่นตะกั่วในแบตเตอรี่คือ Lead กับ Lead Oxide สลับกันทั้งหมด 6 คู่หรือ 6 cell ก็คือจำนวนช่องที่เราเติมน้ำกลั่น กรดซัลฟูริก (H2SO4, ถ้าทั่วๆไปเรียกกรดกำมะถันก็ได้ กลิ่นจะฉุนๆคล้ายๆกับกลิ่นน้ำพุร้อน)ถูกใช้เป็นElectrolyte ในแบตเตอรี่ ขณะจ่ายไฟจะเกิด Lead Sulfateเกาะที่ผิวตะกั่ว ขณะที่ถูกชาร์จไฟ Lead Sulfate จะถูกเปลึ่ยนกลับเป็น Lead Oxide/Lead
ขณะที่แบตเตอรี่จ่ายไฟ หรือ ถูกชาร์จไฟ จะเกิดปฏิกิริยาให้มีอิเลคตรอนไหลระหว่างแผ่นตะกั่วในแต่ละ Cell ซึ่งอิเลคตรอนนี่เองก็คือไฟฟ้าที่วิ่งในระบบรถของพวกเรา
ถ้ารูหายใจตันหรือมีถ้ามีการชาร์จไฟมากเกินไป ก็จะทำให้เกิดความร้อนสูง, มีความดันก๊าซสะสมในแบตเตอรี่ ซึ่งอาจทำให้แบตเตอรี่ระเบิดจากแรงดันหรือ ประกายไฟติดกับก๊าซระเบิดได้เหมือนกัน

รถยุโรปรุ่นใหม่ๆเช่น Benz จะมีระบบCommunication ภายในรถมากขึ้นเชื่อมต่อกันเป็นnetwork ซึ่งจะมีการใช้แบตเตอรี่ลูกเล็กมาช่วยเพื่อให้ระบบมีความเสถียร ซึ่งตำแหน่งติดตั้งก็มีทั้งใต้เบาะหลัง ในกระโปรงหลัง รู้สึกว่าจะเป็นแบบแบตเดอรี่แห้งนะ
 
ถ้าสังเกตเวลาไปที่ร้านแบต เค้าจะเช็คด้วยการวัดถพ.ของelectrolyte ในแบตเตอรี่
--> ถ้าไฟเต็ม ก็หมายถึง Sulfateที่เกาะอยู่ที่แผ่นตะกั่วถูกทำให้กลับมาอยู่ในรูปสาร Electrolyte มาก ทำให้สารElectrolyte มีความหนาแน่นสูง เวลาใช้หลอดแก้วดูดน้ำในแบตขึ้นมาจะทำให้หลอดแก้วลอยสูง
---> ถ้าไฟอ่อน ก็หมายถึง Sulfate ทีอยู่ใน Electrolyte ไปเกาะกับแผ่นตะกั่วจนเกือบหมด(เป็น Lead Sulfate) ทำให้ Electrolyte มีความหนาแน่นต่ำ พอใช้หลอดแก้วดูดเช็คดูจะพบว่าหลอดแก้วจะไม่ลอย หรือลอยต่ำกว่าระดับที่กำหนดครับ
 

กรุณาปิด โปรแกรมบล๊อกโฆษณา เพราะเราอยู่ได้ด้วยโฆษณาที่ท่านเห็น
Please close the adblock program. Because we can live with the ads you see
กลับ
ยอดนิยม