• สวัสดีครับชาวโลมาสีฟ้า cefiro-thailand.com

    เว็บไซต์แห่งนี้เราเปิดให้ใช้งานกับฟรีๆ สามารถโพสต์อัพเดทสถานการณ์ต่างๆข่าวสารบ้านเมืองและข่าวสารของกลุ่ม cefiro-thailand.com ได้เต็มที่เลยนะครับขอแค่ไม่เป็นการปั่นกระทู้หรือโฆษณาอะไรที่มันล่อแหลมจนเกินไป
    เว็บไซต์ไม่ต้องเสียค่าสมัครใดใดทั้งสิ้นมีข้อเสนอแนะอะไรสามารถแนะนำเข้ามาได้ครับยินดีปรับแต่งและแก้ไขถ้าสามารถทำได้

    กฎระเบียบของเราก็ไม่มีอะไรมากท่านสามารถใช้งานได้เต็มที่

การพ่วงแบตเตอรี่

  • ผู้เริ่มหัวข้อ ผู้เริ่มหัวข้อ A31590
  • วันที่เริ่มต้น วันที่เริ่มต้น

กรุณาปิด โปรแกรมบล๊อกโฆษณา เพราะเราอยู่ได้ด้วยโฆษณาที่ท่านเห็น
Please close the adblock program. Because we can live with the ads you see

A31590

สมาชิกชมรมเซฟิโร่-ไทยแลนด์
Cefiro-Thailand Members
Register
เข้าร่วม
25 เม.ย. 2007
ข้อความ
3,358
  • กระทู้ ผู้เขียน
  • #1
การพ่วงแบตเตอรี่


ผมเชื่อว่าท้ายรถของหลายคนน่าจะมีสายพ่วงแบตเตอรี่ติดรถคู่ใจของคุณเป็นประจำ ใช่ไหมครับ หากคุณยังไม่มีสายพ่วงแบตเตอรี่ติดรถ ผมแนะนำให้หาซื้อไว้เถอะครับ โดยเฉพาะคุณ ๆ ที่ใช้รถเกียร์ออโตเมติก เพราะวันดีคืนดีเกิดแบตเตอรี่ไฟอ่อน หรือไฟหมด ขึ้นมา คุณจะได้ใช้ประโยชน์จากสายพ่วงแบตเตอรี่แน่นอนครับ
การพ่วงสายแบตเตอรี่ไม่ยาก แต่ต้องปฏิบัติด้วยความระมัดระวัง เพราะแบตเตอรี่ ประกอบด้วย น้ำกรดที่มีคุณสมบัติในการกัดกร่อน ขณะที่ถูกใช้งานจะเกิดก๊าซไฮโดรเจน และถ้าถูกประกายไฟ จะเกิดการระเบิดได้ ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย ผมแนะนำให้คุณ ปฏิบัติดังนี้ครับ
1. นำรถมาจอดชิดกันเว้นระยะห่างเพื่อไม่ให้ส่วนที่เป็นโลหะ (กันชนเหล็ก) สัมผัสกัน
2. เปิดฝาช่องเติมน้ำกลั่นออกให้หมดทั้ง 2 คัน และใช้ผ้าคลุมแทน
3. ระหว่างสายแบตเตอรี่ต่อพ่วงอยู่ห้ามปลายสาย ทั้งสายบวกและสายลบสัมผัสกัน เพราะจะทำให้เกิดประกายไฟ
4. ห้ามสูบบุหรี่

[TBODY] [/TBODY]

ขั้นตอนการพ่วงสายแบตเตอรี่ให้ปฏิบัติตามขั้นตอนต่อไปนี้
  1. ปิดสวิตช์กุญแจและอุปกรณ์ไฟฟ้าทั้งหมดของรถคันที่ แบตเตอรี่ไม่มีไฟ
  2. ใช้สายพ่วงสีแดงสายบวก (+) นำหัวต่อสายกับขั้วบวก (+) ของแบตเตอรี่ ที่ไม่มีไฟ หัวสายที่เหลือต่อเข้ากับขั้วบวก (+) ของแบตเตอรี่ที่มีไฟ
  3. ใช้สายพ่วงสีเขียว (หรือสีดำ) สายลบ (-) นำหัวสายต่อกับขั้วลบ (-) ของแบตเตอรี่ ที่มีไฟ หัวสายที่เหลือต่อเข้ากับส่วนที่เป็นโลหะของเครื่องยนต์ หรือตัวถังรถคันที่ แบตเตอรี่มีไฟน้อย โดยห่างจากแบตเตอรี่มากที่สุด
  4. สตาร์ตเครื่องยนต์ที่แบตเตอรี่มีไฟแล้วเร่งเครื่องเล็กน้อย
  5. สตาร์ตเครื่องยนต์คันที่แบตเตอรี่ไฟหมด ถ้ามอเตอร์สตาร์ตยัง หมุนช้า ตรวจเช็กสายพ่วงดูว่าคีบแน่นหรือไม่ จากนั้นเร่งเครื่องประมาณ 2,000 รอบ/นาที จนแน่ใจว่าเครื่องยนต์ไม่ดับจึงปล่อยคันแร่ง
  6. เมื่อเครื่องยนต์ติดแล้ว ถอดสายลบ (-) โดยถอดหัวสายออกจากตัวถังรถ แบตเตอรี่ไฟน้อย ถอดหัวสายลบที่เหลือออกจากขั้วลบของแบตเตอรี่ไฟดี ถอดสายบวก (+) โดยถอดหัวสายออกจากขั้วบวก (+) ของแบตเตอรี่ไฟน้อย ถอดหัวสาย (+) ที่เหลือออกจากขั้วบวก (+) รถแบตเตอรี่ไฟดี ตามลำดับ
  7. ปิดฝาช่องเติมน้ำกลั่นให้ครบทุกช่อง นำผ้าคลุมที่ใช้แล้วไปทิ้ง



เมื่ออ่านจบผมจึงมีคำถามว่า


  1. ใช้สายพ่วงสีเขียว (หรือสีดำ) สายลบ (-) นำหัวสายต่อกับขั้วลบ (-) ของแบตเตอรี่ ที่มีไฟ หัวสายที่เหลือต่อเข้ากับส่วนที่เป็นโลหะของเครื่องยนต์ หรือตัวถังรถคันที่ แบตเตอรี่มีไฟน้อย โดยห่างจากแบตเตอรี่มากที่สุด
แล้วถ้าเราๆส่วนใหญ่จั๊มที่ขั้ว ลบ เลยมันมีผลข้างเคียงไหมอะครับ


 


[TBODY][TR height="100%" UNSELECTABLE="on" width="100%"][TD id=HB_Focus_Element vAlign=top width="100%" background="" height=250 UNSELECTABLE="off"] เรื่องง่าย ที่หลายคนมักมองข้ามสาระดีดีครับ การที่เค๊ากำหนดให้นำขั้วลบแตะที่ตัวถังห่างจากแบตเตอรี่เข้าใจว่าเพื่อป้องกันขั้วบวกกับขั้วลบสัมผัสกันก่อให้เกิดประกายไฟ ซึ่งถ้ามีเชื้อเพลิงรั่วไหลอาจเกิดไฟไหม้ได้ครับ
[/TD][/TR][TR UNSELECTABLE="on" hb_tag="1"][TD style="FONT-SIZE: 1pt" height=1 UNSELECTABLE="on">
[/TD][/TR][/TBODY]

 
ไอเปิดจุกน้ำกลั่นอ่ะไม่ต้องก็ได้ ไม่จำเป็นเลย
 
เท่าที่เคยพ่วงมาจนนับครั้งไม่ถ้วน
ก็ไม่เห็นจามีผลข้างเคียงอะไรเรยอ่ะคับ...:smile:
 
  • กระทู้ ผู้เขียน
  • #5
แล้วถ้าเราเอาบวกไปต่อที่ได้สตาร์ทเลยได้ไหมอะครับ
 

กรุณาปิด โปรแกรมบล๊อกโฆษณา เพราะเราอยู่ได้ด้วยโฆษณาที่ท่านเห็น
Please close the adblock program. Because we can live with the ads you see
กลับ
ยอดนิยม